กรมอุตุนิยมวิทยา 6 มี.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบถึง 6 มี.ค.63 ระบุภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขณะที่ กทม.-ปริมณฑล อากาศร้อนตอนกลางวัน ฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 6 มีนาคม 2563)” ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2563 ระบุภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 6 มีนาคม 2563
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
– ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี สระบุรี ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา
– ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประกาศ ณ วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.00 น. ประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้
ส่วนพยากรณ์อากาศ 24 ชม.ข้างหน้า กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
สำหรับฝุ่นละอองในระยะนี้ ลมที่พัดปกคลุมภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีกำลังแรงขึ้นและมีฝนเกิดขึ้นบางพื้นที่ ทำให้การสะสมของฝุ่นละออง-หมอกควันลดลง ส่วนภาคเหนือตอนบนอากาศลอยตัวขึ้นได้ไม่ดีและลมอ่อน ทำให้มีการสะสมฝุ่นละออง-หมอกควันค่อนข้างมาก.-สำนักข่าวไทย