กรุงเทพฯ 4 มี.ค.- “สิระ” ส.ส. กทม พรรคพลังประชารัฐ แจ้งจับ ผู้จำหน่าย ผลิตหน้ากากอนามัยไม่ได้คุณภาพ ใช้แล้วเสี่ยงเกิดโรคอันตราย
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม พรรคพลังประชารัฐ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อ แจ้งความดำเนินคดีกับนายอภิชาติ ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย ในข้อหาจำหน่ายสินค้าเกินราคาควบคุม และฉ้อโกง หลังติดต่อซื้อหน้ากากอนามัย เพื่อนำมาแจกจ่ายกับประชาชนเมื่อวานนี้ แต่ มีนายวีระชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกมาเปิดเผยกว่า ผลตรวจหน้ากากที่แจกให้ประชาชน ไม่มีคุณภาพ และ เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
นายสิระ กล่าวว่า ได้ให้ผู้ช่วย ส.ส.จัดหา และตัดสินใจสั่งซื้อจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโรงงาน ในราคาแผ่นละ 14.75 บาท จำนวน 10,000 แผ่น รวมราคา 140,000บาท และมาทราบภายหลังว่าเป็นตัวแทนจำหน่าย และเพิ่งได้รับเมื่อเวลา 23.00 น. ของเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา(2 มี.ค.) ก็ไม่ได้สงสัย เพราะดูภายนอกเหมือนหน้ากากปกติและไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ อีกทั้งยังเห็นว่ามีการจัดเย็บ 3 ชั้น มีแผ่นกรองปกติ พร้อมระบุว่า การสั่งซื้อเพียง 10,000 ชิ้น จึงทำให้ไม่ได้ไปตรวจถึงโรงงานผู้ผลิต และเมื่อถึงเวลาก็แจกจ่ายตามที่นัดหมายไว้ และเมื่อแจกหมดแล้วเห็นว่าไม่เพียงพอจึงได้สั่งเพิ่มจากโรงงานเดิมอีก 4,000 ชิ้น ในราคา 59,000 บาท ซึ่งโรงงานขอเพิ่มราคาเป็นชิ้นละ 17 บาทก็ยินยอม แต่ต่อมา นายอภิชาติ มีการโอนเงิน 59,000 บาทคืนให้แล้ว
อย่างไรก็ตามโดยจะเชิญ นายวีระชัย มาเป็นพยานในคดี ยืนยันจะดำเนินคดี และเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ รวมถึงโรงงานผลิต เนื่องจากเป็นการหลอกลวง ซ้ำเดิมประชาชน และยังก่อให้เกิดโรค พร้อม เรียกร้อง ขอให้รัฐบาล หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบราคาแล้ว ก็ควร ตรวจสอบคุณภาพ ควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ โรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัย ที่มีปัญหา หากสามารถพิสูจน์คุณภาพหน้ากากอนามัย และผลออกมายืนยันว่า การผลิตได้มาตรฐานตามหลักทางการแพทย์ อาจารย์อ๊อด จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเช่นกัน
ขณะที่พันตำรวจโทสุภาวุฒิ วิเศษโวหาร รองผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง บอกว่า หลังจากนี้จะเร่งติดตามบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนปากคำก่อน โดยอาจารย์อ๊อด อาจจะมาพบตำรวจในวันพรุ่งนี้.(5 มี.ค.) รวมถึง นายอภิชาติ และ นางสาว ธัญญ์นรี ทรัพย์ทิฆัมพร เจ้าของบัญชีรับโอนเงินจากนายสิระ. ก่อนนำหลักฐานทั้งหมดที่ได้มา ไปตรวจสอบเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย