ราชบัณฑิตสถาน 3 มี.ค.-รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอวัดทั่วประเทศงดจัดงานประจำปี เลี่ยงโควิด-19 หากไม่ได้ ต้องมีมาตรการที่ได้มาตรฐาน
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดเสวนาสาธารณะเรื่องกู้วิกฤตภัยแล้ง และระบบประปาน้ำเค็มปี 2563 จัดโดยสำนักงานราชบัณฑิตยสถาน ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า ในส่วนของวัดทั่วประเทศที่อยู่ในความดูแลได้แจ้งไปแล้วหากช่วงนี้วัดไหนที่มีงานประจำปี ที่จะรวมคนจำนวนมาก หากเป็นไปได้ขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงงดการจัดงานออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าวัดไหน ยกเลิกไม่ได้ จะต้องมีมาตรการป้องกัน คัดกรองคนเข้าไปรวมกันให้ได้ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ต้องมีการวัดไข้คัดกรองคนเข้างาน มีเจลล้างมือตั้งตามจุดต่างๆที่จัดงาน มีหน้ากากอนามัย แจกจ่ายให้กับผู้มาร่วมงานด้วย
ส่วนกิจกรรมใหญ่ๆในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ เบื้องต้นมีประมาณ 6 งานใหญ่ ทั้งงานวันสำคัญทางศาสนา วันสถาปนากรุงเทพมหานคร เป็นต้น ซึ่งจะมีกิจกรรมทำบุญใหญ่ที่สนามหลวง รวมผู้คนไว้จำนวนมาก ก็อาจจะต้องงดกิจกรรมส่วนนี้ ให้แยกย้ายไปทำบุญกันเองเพื่อความปลอดภัย แต่ทั้งนี้ยังไม่ขอยืนยันเพียงแค่เป็นแนวทางเบื้องต้น เนื่องจากต้องรอติดตามสถานการณ์ความรุนแรงของไวรัส อีกอย่างน้อย 10-15 วันจึงจะนำมาเรื่องนี้มาประเมินอีกครั้ง
สำหรับวัดในช่วงนี้ได้ประสานแจ้งขอให้เพิ่มมาตรการในการรักษาความสะอาด ด้วยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดทำความสะอาดจุดที่มีการสัมผัสของนักท่องเที่ยวหรือประชาชน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตูเพิ่มอย่างน้อยเป็นวันละ 2 ครั้ง รวมทั้งจะได้ประสานไปยังกรมการค้าภายในขอแบ่งหน้ากากอนามัยเพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับพระสงฆ์ภายในวัด เบื้องต้นจะนำมาแจก จ่ายให้กับวัดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละวันหลังจากนั้นจึงจะค่อยกระจายไปยังวัดต่างๆทั่วประเทศต่อไป
นายเทวัญ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของหน้ากากอนามัยที่หลายพื้นที่ร้องเรียนเข้ามาว่าขาดตลาดนั้น เรื่องนี้เป็นอำนาจของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แต่ในฐานนะที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) อยู่ในความดูแล ได้ประสานให้เข้าไปร่วมกับกรมการค้าภายในบูรณาการทำงานร่วมกัน พร้อมเตรียมจะตั้งศูนย์รับเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวเรื่อง โควิด-19 โดยเฉพาะ จะแถลงทุกวันเวลา 15.00 น.ของทุกวัน แต่จะแตกต่างจากการตั้งโต๊ะแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข ในเบื้องต้นยังไม่ได้สรุปออกมาว่ลจะออกมาในรูปแบบไหน รอตกผลึกแล้วจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย