รร.สวนกุหลาบ ชี้แจงนำคณะ นร.ไปญี่ปุ่น กลับมาพัก 14 วัน

พระนคร 29 ก.พ.-รร.สวนกุหลาบฯ ชี้แจงพานักเรียนดูงานประเทศญี่ปุ่นก่อน ศธ.ออกประกาศห้ามเดินทางประเทศกลุ่มเสี่ยง ล่าสุดคณะนักเรียน-ครู 59 คนถึงไทย ผ่านการคัดกรองปกติ 


นายจิณณภัทร พิบูลวิทิตธำรง ผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย พร้อมคณะผู้บริหารโรงเรียน แถลงชี้เแจงกรณีมีผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าทางโรงเรียนจัดทริปวิชาการชื่อโครงการว่า ค่ายเปิดโลกทัศน์โครงการการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถ และโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23-28 ก.พ.63 นำเด็ก ม.5 ห้องเรียนพิเศษ gifted ไปดูงานที่มหาวิยาลัย ในเมืองโอซาก้าและเกียวโต ทั้งที่มีการประกาศเฝ้าระวังให้เลี่ยงการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 นั้น  ว่านักเรียนที่ร่วมโครงการทั้ง 53 คน และครูที่เดินทางไปด้วย6 คน เดินทางกลับมาถึงไทย เมื่อเวลา04.00 น.วันนี้ (29 ก.พ.) ทุกคนผ่านการตรวจคัดกรองจากสนามบินดอนเมือง ไม่พบว่ามีใครมีไข้ แต่ทุกคนยินดีที่จะเฝ้าระวังตนเองเป็นเวลา 14 วันตามมาตรฐาน


พร้อมระบุว่า โครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่กลางปี2562 มีนักเรียน ร่วมโครงการ 70 คน มีการติดต่อประสานงานกับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น และกำหนดวันเดินทาง ต่อมาวันที่ 21 ก.พ.63 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มีประกาศเพิ่มญี่ปุ่นและสิงคโปร์อยู่ในประเทศกลุ่มเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด 19 จึงมีการเรียกประชุมผู้ปกครอง ว่าจะยังคงยืนยันที่จะเดินทางหรือไม่ ซึ่งทางเอเจนซี่ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ 31,000 บาทต่อคน หากยกเลิกจะคืนให้ได้เพียงแค่ 7,000 บาท ผู้ปกครอง53 คน ยืนยันสมัครใจที่จะเดินทางตามกำหนดการเดิมต่อ ส่วนที่เหลือขอถอนตัว 

ทางโรงเรียนจึงได้กำหนดมาตรการดูแลนักเรียนและจะทำ workshop การปฏิบัติตัว เพื่อป้องกันตนเอง  พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์ป้องกันทั้งหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือให้กับนักเรียนที่เดินทางไป ซึ่งมีคณะครูเดินทางไปดูแลเด็กนักเรียนในครั้งนี้อย่างใกล้ชิดจำนวน 6 คน


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 ก.พ.มีประกาศจากกระทรวงศึกษาธิการให้เลี่ยงการเดินทางในประเทศกลุ่มเสี่ยงแต่ขณะนั้นคณะนักเรียนองและครูทั้ง 59 คน อยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว เนื่องจากเดินทางไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23ก.พ.จึงไม่สามารถที่จะยกเลิกได้ แต่หลังจากนี้ได้ยกเลิกการเดินทางกิจกรรมของนักเรียนในต่างประเทศทั้งหมดแล้ว

ส่วนกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนที่จะมีขึ้นในช่วง14วันนี้ คือกิจกรรมประกาศผลการเรียนวันที่ 9 มีนาคมและรับประกาศเกียรติคุณนักเรียนดีเด่น วันที่ 11 มีนาคม  ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้ต้องเข้าร่วม ทางโรงเรียนได้แจ้งเลื่อนออกไปก่อน  จนพ้นระยะ 14 วัน และจะกำหนดวันจัดกิจกรรมอีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ