ร้องรัฐช่วยแก้ปัญหาทัวร์-ตั๋วเครื่องบิน เลี่ยงโควิด-19

กรุงเทพฯ 28 ก.พ.-มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เรียกร้องรัฐออกมาตรการจัดการปัญหาทัวร์และตั๋วเครื่องบิน เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและป้องกันการระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย พร้อมเตือนผู้บริโภคเลี่ยงการซื้อโปรไฟไหม้ไปประเทศกลุ่มเสี่ยง


วันนี้ (28ก.พ.)นางนฤมล  เมฆบริสุทธิ์  หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ ได้รับร้องเรียนจากผู้บริโภคหลายราย เกี่ยวกับปัญหาการเลื่อนหรือยกเลิกทัวร์  รวมถึงบัตรโดยสารเครื่องบินที่จะเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงCOVID-19 โดยปัญหาดังกล่าวมีทั้งกรณีที่ผู้เสียหายติดต่อกับสายการบินหรือบริษัททัวร์โดยตรง และกรณีที่ติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบินรวมทั้งจองที่พักผ่านบริษัทเอเจนซี่


นางนฤมล กล่าวว่า ปัญหาที่พบในกรณีผู้บริโภคต้องการเลื่อนหรือยกเลิกตั๋วที่จองไว้กับสายการบินคือ บางสายการบินไม่อนุญาตให้เปลี่ยนวันเดินทาง ในขณะที่บางสายการบินแจ้งว่าผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้ แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่ทางสายการบินกำหนดไว้ เช่น ต้องเดินทางภายในเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้น ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นฤดูร้อนที่ไม่เหมาะกับการท่องเที่ยว รวมทั้งไม่สามารถยืนยันได้ว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาจะคลี่คลายแล้วหรือไม่ 


หรือหากต้องการเลื่อนวันเดินทางออกไปนอกเหนือจากระยะเวลาที่สายการบินกำหนด ผู้โดยสารจะต้องจ่ายค่าดำเนินการต่างๆ เพิ่มเติม โดยผู้ร้องเรียนบางรายได้รับแจ้งจากสายการบินว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการเพิ่มเติมเกือบร้อยละ 30 ของค่าตั๋วโดยสาร 

สำหรับปัญหาการซื้อทัวร์ไปเที่ยวประเทศกลุ่มเสี่ยงนั้น นางนฤมลกล่าวว่า เป็นเรื่องการซื้อทัวร์ล่วงหน้า โดยที่บริษัททัวร์ยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนสถานที่เดินทางแม้จะเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยง หากผู้บริโภคต้องการยกเลิกและขอเงินคืนก็อาจได้คืนไม่เต็มจำนวน หรืออาจไม่ได้เงินคืนเลย เช่น มีกรณีที่ผู้เสียหายซื้อทัวร์เที่ยวยุโรป(อิตาลี-สวิสเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส) สำหรับ 4 คน ค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 250,000 บาท แต่เมื่อแจ้งทางบริษัทว่าต้องการขอเงินคืน ได้รับคำตอบว่าอาจจะได้คืนไม่ถึง 10,000 บาท หรืออาจไม่ได้คืนเลย

ส่วนเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบินรวมทั้งจองที่พักผ่านบริษัทเอเจนซี่นั้น พบว่ามีผู้บริโภคที่ต้องการเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง แต่บริษัทเอเจนซี่แจ้งว่าไม่สามารถปรับเปลี่ยนวันหรือขอเงินคืนได้ โดยอ้างว่าสายการบินหรือทางที่พักไม่มีนโยบายคืนเงิน

นางนฤมล ยังยกตัวอย่างกรณีปัญหาที่ได้รับร้องเรียนว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งซื้อตั๋วผ่านบริษัทเอเจนซี่ โดยซื้อตั๋วไป-กลับ ประเทศประเทศญี่ปุ่น สำหรับ 3 คน ค่าใช้จ่ายคนละ 21,505 บาท รวมเป็นเงิน 64,515 บาท โดยจะเดินทางช่วงต้นถึงกลางเดือนมีนาคม แต่เมื่อทราบข่าวสถานการณ์เรื่องไวรัสโคโรนาที่รุนแรงขึ้นจึงต้องการเลื่อนตั๋ว โดยผู้เสียหายได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อเลื่อนวันเดินทางกับสายการบิน และได้รับข้อมูลว่าสามารถเลื่อนได้แต่ต้องให้ทางเอเจนซี่เป็นผู้แจ้งเปลี่ยนวันเดินทาง แต่เมื่อแจ้งไปยังบริษัทเอเจนซี่ กลับโดนปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่ได้รับจดหมายจากสายการบิน หากต้องการเลื่อนวันเดินทางจะมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนตั๋วประมาณ 12,000 บาทต่อคน โดยเลื่อนได้เฉพาะขาไปเท่านั้น ส่วนขากลับไม่สามารถเลื่อนได้ แต่ยกเลิกได้โดยจะคืนเงิน 4,045 ต่อคน แม้ผู้เสียหายจะส่งรายละเอียดที่ได้จากเว็บไซต์ของสารการบินให้ แต่บริษัทก็ยังยืนยันคำตอบเช่นเดิม จึงได้ส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่ มพบ.

“ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นถือว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค เพราะการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุสุดวิสัยและเป็นภาวะวิกฤตที่อันตรายต่อชีวิต ดังนั้นผู้ประกอบการจึงไม่ควรผลักภาระให้ผู้บริโภคหรือออกนโยบายที่ดูเหมือนบังคับให้ผู้บริโภคต้องเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง เพราะหากมีผู้ติดเชื้อกลับมายังประเทศไทยก็อาจยิ่งที่ให้สถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยรุนแรงขึ้น” นางนฤมลกล่าว

ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ออกมาตรการที่ชัดเจนเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้ง มพบ. มีข้อเรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 ข้อ ดังนี้ 

1. ออกมาตรการระงับการจัดทัวร์ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งมีการตรวจสอบและดำเนินการกับบริษัทที่ฉวยโอกาส จัดทัวร์ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงในราคาถูก หวังให้บริษัทรายได้แต่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ทั้งนี้ เพื่อป้องกันโอกาสที่จะมีการนำเชื้อเข้ามาแพร่ในประเทศไทย เพราะถึงแม้ภาครัฐจะมีมาตรการตรวจวัดไข้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้แน่นอนว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเล็ดรอดเข้ามาในประเทศไทย ดังเช่นกรณีที่มีผู้สูงอายุ 2 รายที่ติดเชื้อจากการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและนำมาแพร่ในเมืองไทย เป็นต้น

2.ขอให้ออกข้อบังคับสำหรับบริษัทสายการบิน เอเจนซี่ และบริษัททัวร์ต่างๆ ให้ผู้บริโภคสามารถเลื่อนวันเดินทางออกไปจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลายลง หรือสามารถยกเลิกตั๋วได้ โดยไม่ต้องมีระยะเวลากำหนด และไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่หากผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายไปบางส่วนแล้ว ให้ชี้แจงเป็นรายลักษณ์อักษร โดยต้องมีหลักฐานการจ่าย ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า ค่ามัดจำบัตรโดยสารเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ

สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการจะเดินทางไปต่างประเทศ ควรหลีกเลี่ยงการไปประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา (ข้อมูลอัปเดตเมื่อวันที่ 28 กมุภาพันธ์ 2563 แหล่งที่มา https://mgronline.com/travel/detail/9630000019567)   โดยเฉพาะการซื้อทัวร์ไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงในช่วงที่มีการระบาดของโรค การซื้อทัวร์ล่วงหน้าในระยะสั้นๆ หรือทัวร์ไฟไหม้ที่กำลังจัดโปรโมชั่นกันเป็นจำนวนมาก เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนาและอาจนำเชื้อเข้ามาแพร่ในประเทศไทยอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย