บุรีรัมย์ 28 ก.พ. – ลูกสาวยืนยันไม่ได้ทอดทิ้งและไล่พ่อวัย 80 ปี ชาวบุรีรัมย์ ออกจากบ้าน พร้อมสาบานลูกทุกคนดิ้นรนทำงานรับจ้างส่งเงินดูแลพ่อทุกเดือน ชี้พ่อสร้างเรื่องเพราะไม่พอใจลูกไม่ให้เงินไปให้ผู้หญิงที่พ่อติดพัน วอนสังคมเห็นใจ
กรณีคุณตาเที่ยง อายุ 80 ปี ชาวตำบลสะแกซำ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ช่วยเหลือ โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อปี 2557 หลังจากภรรยาเสียชีวิต เกิดปัญหาภายในครอบครัว เรื่องที่ดินมรดกที่เป็นชื่อของภรรยา อ้างว่าหลังจากแบ่งสันปันส่วนโอนให้ลูกทั้ง 6 คนแล้ว ลูกไม่เหลียวแลและไล่ออกจากบ้านตัวเอง จนต้องไปปลูกกระต๊อบเล็กๆ อาศัยอยู่คนเดียว กระทั่งล่าสุดตาเที่ยง ผู้เป็นพ่อ จะไปสูบน้ำออกเพื่อจับปลาในสระไปขาย แต่กลับถูกลูกต่อว่าห้ามไม่ให้สูบ บอกว่าพ่อไม่มีสิทธิ เพราะสระและที่ดินดังกล่าวเป็นของลูก จนเกิดการโต้เถียงกันรุนแรง ถึงขั้นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย ทำให้ลูกไม่พอใจ จึงตัดน้ำตัดไฟออกจากกระต๊อบที่พ่อปลูกอาศัยอยู่ปัจจุบัน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงไปดูพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท พบว่ามีบ้านอยู่ 3 หลัง หลังหนึ่งเป็นของพ่อที่เคยอาศัยอยู่กับแม่ตอนยังมีชีวิต และลูกสาวคนโต ส่วนอีก 2 หลัง เป็นของลูก กระต๊อบก็ปลูกอยู่ไม่ห่างจากตัวบ้าน ติดกับสระที่เกิดปัญหาพิพาท แต่ลูกๆ ของคุณตาไม่อยู่บ้าน เพราะไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด จึงได้โทรศัพท์สอบถามนางเอ (นามสมมติ) ลูกสาวคนโต ซึ่งทำงานอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นว่า ลูกๆ ทุกคนไม่ได้ทอดทิ้งและไม่มีใครไล่พ่อออกจากบ้านตามที่พ่อร้องเรียนกล่าวหาเลย แต่ยอมรับว่าหลังจากที่แม่เสียชีวิตเมื่อปี 2557 ก็เริ่มมีปัญหาในครอบครัว เพราะพ่อมาขอเงินจากลูกๆ จะเอาไปขอผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งพ่อไปติดพันอยู่ แต่ลูกเห็นว่าแม่เพิ่งเสียจึงไม่เห็นด้วยที่พ่อจะเอาเงินไปให้กับผู้หญิงคนอื่น ลูกจึงไม่ได้ให้เงินพ่อไป ทำให้พ่อไม่พอใจและพยายามหาเรื่องลูกๆ มาตลอด แต่ลูกเห็นว่าเป็นพ่อก็ไม่ได้โกรธเคือง ดูแลพ่อมาตลอดตามกำลังของลูกแต่ละคนที่ทำงานรับจ้างหาเงินได้ และช่วงที่ไปทำงานต่างจังหวัด ลูกๆ ก็ส่งเงินมาให้พ่อใช้ทุกเดือน โดยที่ให้หลานชายคอยดูแลตาอยู่ที่บ้าน
ลูกสาวยังยืนยันว่าไม่มีลูกคนไหนไล่พ่อออกจากบ้านตามที่พ่อกล่าวหา ส่วนที่พ่อไปอยู่ในกระต๊อบเพราะพ่ออยากไปอยู่เอง และบ้านที่ลูกสร้างไว้ พ่อสามารถไปอยู่ได้ทุกหลัง ไม่คิดว่าพ่อจะไปร้องเรียนกล่าวหาใส่ร้ายลูกๆ แบบนี้ ตอนนี้ลูกทุกคนเสียใจมาก เพราะโดนกระแสโซเชียลต่อว่าต่างๆ นานา อยากจะวิงวอนขอความเห็นใจจากสังคมด้วย ท้ายที่สุดยังท้าสาบานด้วยว่าหากลูกๆ ไม่ดูแลพ่อจริงก็ขอให้มีอันเป็นไป แต่หากลูกดูแลเลี้ยงดูพ่อเป็นอย่างดีก็ขอให้เจริญรุ่งเรือง อยากจะขอร้องให้พ่อหยุดใส่ร้ายลูก เพราะไม่ได้เป็นความจริงเลย
ด้านนายเฉลิม วนรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาในครอบครัว และเรื่องที่ดินที่ผ่านมา ทั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ก็ไปไกล่เกลี่ยหลายครั้ง แต่ก็งมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ ส่วนเรื่องที่ตาไปร้องเรียนว่าถูกลูกไล่ออกจากบ้าน ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะถามพ่อก็พูดอย่าง ลูกก็บอกอีกอย่าง แต่ส่วนตัวในฐานะผู้ใหญ่บ้านก็อยากให้ทั้งพ่อและลูกได้พูดคุยปรับความเข้าใจกัน ไม่อยากให้ทะเลาะกัน หากเป็นไปได้ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพูดคุยไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อไม่ให้เรื่องราวบานปลาย.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►ตาวัย 80 สุดช้ำ! ร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือ ถูกลูกไล่ออกจากบ้าน