นครราชสีมา 26 ก.พ.-ชาวโคราชพลิกวิกฤติช่วงหน้าแล้ง ช้อนกุ้งก้นอ่างเก็บน้ำที่แห้งขอดขาย ส่วนชาวบ้านวังกะ จ.กาญจนบุรี ใช้พื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณปลูกผัก
ชาวโคราช 30-40 คน พลิกวิกฤติหน้าแล้ง นำภาชนะไปช้อนกุ้งที่อาศัยชุกชุมตามธรรมชาติ ในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อ.โนนไทย ซึ่งอยู่ในสภาพแห้งขอด มีน้ำเหลือติดก้นอ่างเล็กน้อย โดยกุ้งที่ช้อนได้เป็นกุ้งขนาดเล็ก สีดำ นำไปประกอบอาหาร เช่น แกงอ่อมกุ้ง กุ้งชุบแป้งทอด หากได้ปริมาณมากจะนำไปขายตามตลาดนัดชุมชน ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200-300 บาท
ชาวบ้านบอกว่า เป็นโอกาสดีในช่วงว่างเว้นจากงาน จึงรวมกลุ่มช้อนกุ้ง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ กุ้งจะตายหมด แต่ละวันช้อนได้ 3-4 กิโลกรัม นำไปประกอบอาหาร ที่เหลือก็ขายได้เงิน 400 -1,000 บาท ขณะที่ชาวบ้านวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ใช้พื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ปลูกผักพื้นบ้านหลายชนิด เริ่มออกดอกผล รอการเก็บขาย เป็นรายได้เสริมช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากน้ำในเขื่อนลดลง ส่งผลให้พื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากน้ำท่วมหลายเดือน เกิดการสะสมของตะกอนและแร่ธาตุต่างๆ
นางยีและสามีปลูกผักพื้นเมืองที่คนนิยมบริโภค เช่น กระเจี๊ยบแดง ลูกกระเจี๊ยบ ผักบุ้ง ผักกาดกวางตุ้ง พริก มะเขือ โดยทุกวัน นางยีและสามีจะช่วยกันรดน้ำผัก และเลือกเก็บผักไปขายในหมู่บ้าน สร้างรายได้เดือนละกว่า 5,000 บาท นายโซ เล่าว่าดินที่นี่อุดมสมบูรณ์ เวลาปลูกผักไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยดินชุ่มชื้น ไม่ต้องรดน้ำทุกวัน ตนจะรด 2-3 วัน/ครั้ง เลือกปลูกผักอายุสั้น ให้ทันการเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนน้ำท่วม ปัจจุบันมีรายได้จากการปลูกผักขายเดือนละ 5-6 พันบาท .-สำนักข่าวไทย