อุบลราชธานี 25 ก.พ.- กฟผ.ยืนยันโครงการโซลาร์เซลล์ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธรไม่เกิดคลื่นความร้อน ไม่กระทบพื้นที่ประกอบอาชีพทำประมงของชาวบ้านตามที่วิตกกัน อีกทั้งทำความเข้าใจชุมชนอย่างต่อเนื่องก่อนดำเนินโครงการ
นายสนอง มาลัยขวัญ นายอำเภอสิรินธร จ.อุบลราชธานี รับหนังสือจากกลุ่มตัวแทนชาวบ้านประมาณ 50 คน จากบ้านหัวสะพาน หมู่ 2 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร ซึ่งประกอบอาชีพหาปลา จัดล่องแพอาหาร ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนสิรินธร เพื่อขอความชัดเจนในโครงการผลิตกระแสจากแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เนื้อที่ 450 ไร่ เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าจะทำให้พื้นที่จับปลาและล่องแพอาหารน้อยลง เพราะเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำใหญ่ที่สุด และหากเป็นไปได้อยากให้พิจารณาค่าเสียโอกาสในการประกอบอาชีพแก่ชาวบ้าน ครัวเรือนละ 9,000 บาทต่อเดือน หรือปีละ 108,000 บาท เป็นเวลา 25 ปี
นายอำเภอสิรินธร ระบุว่าจะนำหนังสือดังกล่าวและข้อเรียกร้องประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา
ด้านนายสังวาล พรมสำลี หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร ชี้แจงในข้อกังวลของชาวบ้านที่มายื่นหนังสือดังกล่าวว่า พื้นที่ใช้ทำโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังความร้อนของโซลาร์เซลล์ อ่างเก็บน้ำของเขื่อนสิรินธร ซึ่งเป็นพื้นที่ กฟผ.อยู่แล้ว ที่ผ่านมา กฟผ.ได้เปิดให้ชาวบ้านมาใช้พื้นที่แบบสร้างสรรค์ รวมทั้งด้านประมงจับปลาในเขื่อน และใช้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำ แม้จะมีการวางแผงโซลาเซลล์บนผิวน้ำ เพื่อใช้พื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์เต็มที่ แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้จับปลาได้อีกมาก
นอกจากนี้ กฟผ.ก็มีโครงการสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้สัตว์น้ำ โดยปล่อยสัตว์สัตว์น้ำลงในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งการวางแผงโซลาเซลล์ไม่ส่งผลกระทบให้พันธุ์สัตว์น้ำลดลง แต่น่าจะเป็นผลดีในด้านใต้ของโครงการ จะทำเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ และอนาคตจะมีสัตว์น้ำได้เติบโตเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เพิ่มขึ้นอีก
นายสังวาล กล่าวอีกว่า ส่วนข้อวิตกเรื่องคลื่นความร้อนจากแผงโซลาร์เซลล์ที่นำมาวางจำนวนมาก ตามหลักวิศวกรรมเป็นแผงชนิดไม่สะท้อนความร้อน และเป็นแผงที่ได้มาตรฐานที่มีใช้อยู่ตามบ้านเรือนทั่วไป จึงไม่มีปัญหาเรื่องคลื่นความร้อน ที่ผ่านมาเมื่อมีการลงพื้นที่สร้างอาชีพเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบอ่างเก็บน้ำ กฟผ.ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับโครงการนี้มาตลอด ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เข้าใจดี สำหรับข้อเรียกร้องให้จ่ายเงินชดเชยค่าเสียโอกาสทำประมงนั้น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพื้นที่ทำโครงการอยู่ในพื้นที่ของ กฟผ. ไม่ได้ใช้พื้นที่เอกชนรายใด.-สำนักข่าวไทย