ผู้นำฝ่ายค้านชี้นายกฯ ล้มล้างการปกครอง ทำเศรษฐกิจตกต่ำ

รัฐสภา 24 ก.พ.- “สมพงษ์” นำทีมฝ่ายค้านซักฟอกนายกฯ คนแรก กล่าวหาล้มล้างการปกครอง ฉีกรัฐธรรมนูญ ปล่อยให้มีการทุจริต ทำเศรษฐกิจตกต่ำ ด้านนายกฯลุกชี้แจงทันที แจงที่มาฉีกรัฐธรรมนูญ เพราะคนไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ย้ำมาจากประชาชน และส.ส.เลือกเกิน 250 เสียง เป็นคนอารมณ์ดี ไม่เคยลุแก่อำนาจ ไม่เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ทุกอย่างตรวจสอบได้


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เริ่มขึ้นมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีได้เดินทางมารับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างพร้อมเพียง

นายชวน ได้แจ้งให้สมาชิกทราบถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่และความสิ้นสมาชิกภาพของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ทำให้ขณะนี้มีสมาชิกทั้งหมด 487 คน ดังนั้นกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมคือ 244 คน พร้อมแจ้งว่าการอภิปรายในครั้งนี้ได้มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์รัฐสภา และสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 และเมื่อมีการถ่ายทอดสด การอภิปรายก็จะไม่ได้รับการคุ้มครอง ดังนั้นจะต้องระมัดระวังในการอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก พร้อมย้ำถึงข้อบังคับการประชุมว่า เรื่องการถวายสัตย์ฯ หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ไม่สามารถนำมาอภิปรายได้ 


จากนั้นนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายโดย เริ่มอ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลจำนวน 6 คน โดยเริ่มที่พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมอ่านข้อกล่าวหาตามญัตติที่ได้ยื่นไปเป็นผู้ไม่ยึดมั่นและศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ล้มล้างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม ละเมิดหลักนิติธรรมและสิทธิเสรีภาพของบุคคลอย่างกว้างขวาง เป็นผู้นำประเทศที่กร่างเถื่อน มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ปิดปากผู้ที่มีความเห็นต่าง ชอบก่นด่าเมื่อถูกซักถาม เมื่อได้อำนาจมาโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็สร้างกลไกในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อมุ่งสืบทอดอำนาจของตนเองปล่อยให้มีการทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวารและพวกพ้อง 

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี รายได้เกษตรกรตกต่ำ กำลังซื้อลดลง ออกมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แต่โครงการเหล่านั้นกลับเพื่อประโยชน์ให้กับธุรกิจขนาดใหญ่ไม่กี่ราย และเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีได้ออกมาตรการเสมือนการซื้อเสียงล่วงหน้า เช่นโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการชิมช้อปใช้ ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการทุจริต แม้จะยกการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นเป็น วาระแห่งชาติ แต่เมื่อคนของรัฐบาลถูกร้องเรื่องทุจริต องค์กรตรวจสอบกลับช่วยปกปิด ช่วยเหลือให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความล่าช้า ผลการสำรวจระบุว่าสถานการณ์คอรัปชั่นไทยเริ่มมีสัญญาณรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากปี 2558 พบอัตราการจ่ายใต้โต๊ะปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 5 ถึง 15 สูงสุดในรอบ 30 ปี อีกทั้งคำพูดของนายกรัฐมนตรี หลายครั้งผิดกาลเทศะ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด 


จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจง ยืนยัน ไม่ได้โกรธฝ่ายค้าน และตนมีรอยยิ้มแจ่มใสมาตลอด พร้อมกล่าวอีกว่า ตนได้คะแนนเสียงเกิน 250 เสียง ไม่ได้ใช้คะแนนเสียงของ ส.ว.เลย การอภิปรายไม่ไว้วางใจนี้ ประชาชนฟังอยู่ทั่วประเทศ สิ่งใดที่พูดขึ้นมา ก็ต้องมีหลักฐานชัดเจน  ตนไม่เคยมีแนวคิดล้มล้างรัฐธรรมนูญ แต่พฤติกรรมของคนก่อนหน้านี้ทำอะไรไว้บ้าง ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ไม่ยอมติดคุก มีการออกกฎหมายหลายฉบับเอื้อประโยชน์ให้กับบางคนทั้งกฎหมายกู้เงิน กฎหมายนิรโทษกรรม 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เคยก้าวล่วงใคร ไม่เคยใช้คำพูดหยาบคายไม่เหมาะสมกับสื่อ แต่มีความพยายามสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีกับตัวเองมาโดยตลอด ทั้งที่ตนเป็นคนอารมณ์เย็น ยิ้มแย้มแจ่มใส ที่ผ่านมาไม่เคยก้าวล่วงอำนาจศาล หรืออำนาจใคร ถ้าไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่มีใครดำเนินคดีได้ ไม่เคยกลั่นแกล้งข้าราชการ การใช้มาตรา 44 ก็เพื่อแก้ไขปัญหาที่ติดขัดซึ่งรัฐบาลในอดีตไม่สามารถดำเนินการได้จึงพยายามแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต ขอยืนยันว่า ดำเนินการทุกอย่างด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ไม่ใช่ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีสั่งการเพียงคนเดียว เพราะทุกกระทรวงมีกฎหมาย และขอยืนยันไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง

ในระหว่าง การชี้แจงนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงว่านายกรัฐมนตรี พูดเท็จในสภา เพราะการเลือกนายกรัฐมนตรีมีส.ว.ร่วมด้วย แต่กลับบอกว่ามาจากประชาชน นายกรัฐมนตรี จึงตอบโต้ว่า ถ้าชี้แจงให้ง่ายๆแล้วยังยากที่จะเข้าใจก็ไม่รู้จะทำอย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง