กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-ชุดเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ร่วมจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าสงวนแม่จาง จ. ลำปาง เสียหายกว่า 200 ไร่ ตรวจสอบพบเป็น รปภ. โรงโม่หิน ตรวจค้นเจออุปกรณ์วางเพลิง ส่งตำรวจสอบสวน คาดต้องการเปลี่ยนสภาพป่าสมบูรณ์เป็นป่าเสื่อมโทรม
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟป่าและหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป 14 (แม่ทะ) ว่า สามารถจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่จาง อ. แม่ทะ จ. ลำปาง จากที่เกิดเหตุไฟไหม้ป่าวานนี้ (21 ก.พ.) ซึ่งเจ้าหน้าที่รุดเข้าไปควบคุมเพลิงสำเร็จ พื้นที่เสียหาย 109 ไร่ โดยบริเวณดังกล่าวเป็นรอยต่อของโรงโม่หินแห่งหนึ่ง ซึ่งขอใช้พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมจากกรมป่าไม้ทำเหมืองหิน 14-1-32 ไร่ และนอกพื้นที่ขอใช้ซึ่งยังเป็นป่าสมบูรณ์ 94-2-68 ไร่
ชุดเหยี่ยวไฟจึงออกติดตามหาเบาะแสการกระทำผิด ห่างจากจุดไฟไหม้เพียง 10 เมตร มีกระท่อมที่นายอุดมสินธิ์ ธิธรรมา อายุ 68 ปี เป็นสถานที่ ที่ พนักงาน รปภ. โรงโม่พักอาศัย จึงเข้าตรวจค้นพบแท่งยากันยุงและไม้ขีดไฟมัดรวมกัน 3 ชุด พร้อมไฟแช็กซึ่งเป็นลักษณะของวัตถุที่จะนำไปใช้วางเพลิง นอกจากนี้ยังมีปืนแก๊ปยาว 1 กระบอกด้วย นายอุดมสินธิ์ ระบุว่า จะนำชนวนที่ทำขึ้นไปใช้เผาไร่เผานาของตนเองในอำเภอแม่ทะ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนเหตุไฟไหม้ป่าไม่นั้น ไม่เกี่ยวข้องด้วย เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ. แม่ทะ
ทั้งนี้ นายอิศเรศ จิรารัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมควบคุมไฟป่าภาคกลางรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณที่ไฟไหม้ มีต้นไม้และเศษใบหญ้าต่างๆ ถูกเผาเสียหาย ส่วนชนวนที่ผู้ต้องหา ทำขึ้นนั้น เป็นต้นเพลิงแบบถ่วงเวลา ซึ่งจะจุดแท่งยากันยุงแล้ว หวังผลให้ลุกลามถึงหัวไม้ขีดเพื่อเกิดเปลวไฟเผาไหม้เชื้อเพลิงต่อไป กรมป่าไม้ร้องทุกข์กล่าวโทษการกระทำผิดตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 พ.ร.บ. สาธารณะสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 25 (4) และมาตรา 27 และมาตรา 28 พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97 พ.ร.บ. สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 6 พ.ศ. 2525 มาตรา 67 (7) และมาตรา 71 และพ.ร.บ. อาวุธปืน ซึ่งจะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมและนำตัว ส่งฟ้องศาลจังหวัดลำปาง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ลำปางได้เข้าตรวจสอบในพื้นที่โรงโม่หินดังกล่าวซึ่งขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ ป่าแม่จางไว้ 220-2-01 ไร่ว่า มีการบุกรุกป่าสงวนเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงจะตรวจสอบใบอนุญาตต่างๆ อย่างละเอียดต่อไป
นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟป่าตรวจตราเพื่อป้องกันการเผาป่า รวมทั้งหากเกิดเหตุให้เร่งควบคุมเพลิงทันทีเนื่องจากในระยะนี้ของทุกปี ทางภาคเหนือจะมีการเผาในพื้นที่โล่งมาก บางครั้งไฟลุกลามเข้าไปในป่า มีการลักลอบเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ ขยายพื้นที่เกษตร และต้องการทำให้ป่าสมบูรณ์กลายเป็นป่าเสื่อมโทรมเพื่อหวังเข้าใช้ประโยชน์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำชับให้วางมาตรากรป้องกันและรับสถานการณ์อย่างเข้มงวด เมื่อเกิดไฟป่าจะสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติทั้งพืช สัตว์ และระบบนิเวศอย่างรุนแรง เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ
“ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด หากพบไฟไหม้ป่าให้แจ้งที่สายด่วน 1362
กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าดับไฟอย่างทันท่วงที กรณีที่มีเบาะแสการลักลอบเผาป่าให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ด้วย” นายอรรถพลกล่าว-สำนักข่าวไทย