รวบหนุ่มหึงยิงสาวใหญ่ดับ แค้นฝ่ายหญิงจะแต่งงานกับชายอื่น

บุรีรัมย์ 21 ก.พ. – ตร.บุรีรัมย์ รวบหนุ่มหึงโหด ใช้ปืนแก๊ปยาวยิงสาวใหญ่ที่แอบคบหากัน ดับคาเปลข้างบ้าน อ้างแค้นและทำใจไม่ได้หลังรู้ข่าวฝ่ายหญิงจะไปแต่งงานกับชายอื่น เพราะตัวเองป่วยเบาหวาน ญาติเผยเห็นทั้งสองไปมาหาสู่กันหลายปีไม่เคยเห็นมีปากเสียงทะเลาะกัน ไม่คาดคิดฝ่ายชายจะก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม  


ตำรวจ สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายคม สุวารัมย์ อายุ 52 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก หลังก่อเหตุยิง น.ส.ตรี อินสำราญ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม้ม่ายลูก 2 ที่แอบคบหากัน เสียชีวิตขณะนอนอยู่ในเปลยวนข้างบ้านพัก ในหมู่บ้านหนองบอน ต.ท่าโพธิ์ชัย อ.หนองกี่ เหตุเกิดเมื่อเวลา  13.30 น. วันที่ 19 ก.พ. จากนั้นได้นำตัวนายคมไปสอบสวนที่ สภ.หนองกี่  


ผู้ก่อเหตุให้การว่า คบหากับ น.ส.ตรี ผู้ตายแบบคนรักมาประมาณ 4 – 5 ปีแล้ว ไปมาหาสู่กันตลอด  ฝ่ายหญิงทำงานอยู่ในฟาร์มไก่ ส่วนตัวเองรับจ้างทั่วไปและนอนเฝ้านาให้กับคนในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาดูแลฝ่ายหญิงเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทั้งหาเงินมาใช้หนี้สินให้ด้วย แต่ระยะหลังเริ่มสังเกตเห็นฝ่ายหญิงมักแอบโทรศัพท์คุยกับคนอื่น กระทั่งได้ยินชาวบ้านเล่ากันว่ามีหนุ่มต่างหมู่บ้านมาติดพันผู้ตาย และมีข่าวลือว่าจะมีการมาสู่ขอกันด้วย ตอนแรกไม่อยากจะเชื่อ เพราะตนเองยังคบหากับกันอยู่ จึงตัดสินใจไปถามฝ่ายหญิง  ซึ่งก็ยอมรับว่าจะไปแต่งงานใหม่จริง จึงคิดน้อยใจและอาจจะเพราะตนเองป่วยเป็นเบาหวาน ไม่สามารถให้ความสุขทางกายแก่ฝ่ายหญิงได้ แต่ตนรักฝ่ายหญิงมาก  ไม่คิดว่าจู่ๆ จะไปแต่งงานกับคนอื่น ด้วยความโมโหจึงไปหยิบปืนแก๊ปยาวข้างยุ้งข้าว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นปืนของใคร มายิงฝ่ายหญิงขณะนอนอยู่ในเปลข้างบ้าน กระสุนถูกบริเวณลำคอจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 

ขณะที่ทางครอบครัวและญาตินำศพน.ส.ตรี ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดในหมู่บ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้า เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าวขึ้น 


นางคำมี อินสำราญ อายุ 67 ปี พี่สาวผู้ตาย บอกว่า ตนเองไปทำงานต่างจังหวัด แต่ก็พอรู้ว่านายคม  แอบคบหาอยู่กับน้องสาว แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยชัดเจนว่าคบหากันในสถานะไหน รู้แค่ว่าไปมาหาสู่กันเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าทั้งสองมีปัญหาอะไรกัน เพราะน้องสาวไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่ไม่คาดคิดว่าฝ่ายชายจะฆ่าน้องสาวอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้   

เพื่อนบ้านซึ่งสนิทกับทั้งสองฝ่าย บอกว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างรู้ว่าทั้งสองคบหากัน และเห็นไปมาหาสู่กันนานหลายปี ที่ผ่านมาก็เห็นดูแลกันดีไม่เคยมีปากเสียงทะเลาะกัน ฝ่ายชายเป็นคนดี ชอบเข้าวัดทำบุญ ส่วนฝ่ายหญิงขยันทำงาน ตนเองเคยถามฝ่ายหญิงว่าจะอยู่กินกับนายคม แบบสามีภรรยาหรือไม่ แต่ผู้ตายก็ตอบว่าไม่เอา เพราะไม่ได้คิดกับนายคมแบบนั้น จากนั้นก็ได้ยินข่าวว่ามีคนจะมาขอฝ่ายหญิงแต่งงาน  และเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น ไม่มีใครคาดคิดว่านายคมจะเป็นคนทำด้วยซ้ำ เพราะคนในหมู่บ้านก็บอกว่านายคมเป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร กระทั่งนายคมยอมรับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเอง. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง