หอการค้าไทยพบรัฐมนตรีอุตฯ ขับเคลื่อน 1 ไร่ 1 ล้าน

กรุงเทพฯ 19 ก.พ. – หอการค้าไทยพบรัฐมนตรีอุตฯ ขับเคลื่อนโครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน ส่งเสริม Circular Economy 



นายกลินท์  สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการนำคณะกรรมการเข้าพบนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำเสนอมุมมองข้อเสนอของภาคเอกชนต่อการผลักดันเศรษฐกิจของประทศ โดยมีข้อเสนอ คือ 1.เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … กฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด โดยเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการอากาศสะอาด ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและพัฒนา ระบบการจัดการอากาศของประเทศ โดยมีกลไกรับผิดชอบลงไปในระดับพื้นที่ของแหล่งมลพิษทางอากาศ ระหว่างไม่มีกฎหมายการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดบังคับใช้ ซึ่งกระทรวงฯ เห็นด้วยและจะสนับสนุนตามขั้นตอนต่อไป


2.จัดทำบันทึกลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทยและสถาบันอาหาร เพื่อส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและอาหารด้วยนวัตกรรม และเพิ่มความร่วมมือ ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและหอการค้าไทยขับเคลื่อนโครงการสร้างปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม (AGRO GENIUS ACADEMY) ร่วมกับโครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน เพื่อพัฒนาและสร้างต้นแบบของผู้ประกอบการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคสู่การเป็นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและต่อยอดในเชิงพาณิชย์สู่ตลาดสากล ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แจ้งว่าได้มีความร่วมมือกับหอการค้าอยู่แล้วเป็นระยะ ๆ และจะประสานความร่วมมือดังกล่าวต่อไป 3.เสนอเพิ่มอัตรากำลัง เพื่อติดตามและตรวจสอบการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และถ่ายโอนงานบริการด้านงานตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐาน ให้แก่ภาคเอกชนที่มีความพร้อมดำเนินการแทน (Outsourcing) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและครอบคลุมสินค้าที่ต้องทดสอบ รวมทั้ง บูรณาการการทำงานห้องทดสอบหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการอำนวยความสะดวกการให้บริการ แบบ One stop service เพื่อลดปัญหาการทดสอบสินค้าไม่ทันเวลาและต้องส่งห้องทดสอบหลายแห่ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แจ้งว่า สมอ.ได้มีการถ่ายโอนงานให้กับหน่วยงานภายนอกตรวจสอบสินค้า และสนับสนุนงบประมาณด้านอุปกรณ์ให้กับห้องทดสอบหลายแห่งเป็นประจำทุกปี อย่างไรก็ตาม อาจมีสินค้าที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมที่ดูแลไม่ถึงบ้าง 

4.สนับสนุนให้มีการศึกษาและหาแนวทางการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องตามหลักสากลเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยขอให้กระทรวง และภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีการหารือร่วมกัน โดยเฉพาะการกำจัดซากแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือและโทรทัศน์  ซึ่งกระทรวงจะมีการหารือรายละเอียดร่วมกันต่อไป 5.ส่งเสริมแนวทาง Circular Economy ในบทบาทของกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ ขอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและ กกร. เพื่อขับเคลื่อนแนวคิด Circular Economy ในการผลิตสินค้าและบริการตั้งแต่ขั้นตอน R&D การออกแบบผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการใช้งานของผู้บริโภคและเร่งสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยให้ สมอ.เป็น Certified Body เช่นเดียวกับ EUCertPlast ในการกำหนดปริมาณ Recycle ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และ Certify แหล่งที่มาของ Recycle รวมทั้ง ช่วยผลักดันให้เกิด Waste Management ในรูปแบบ End to End เพื่อเพิ่มปริมาณ Recycle และลด Waste to Landfill โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สนับสนุนการลงทุน อีกทั้งเร่งรัดห้ามการนำเข้า Plastic Waste นอกจากนี้ บังคับให้ผู้ประกอบการระบุวิธีการจัดการและกำจัดของเสียหลังการใช้งานของสินค้าทุกประเภท และเร่งใช้นโยบายด้านภาษีให้ Incentive กับผู้นำ Recycle เป็นส่วนในการผลิตมากขึ้น ในเรื่องนี้กระทรวงฯเห็นชอบกับข้อเสนอของหอการค้า และจะนำเสนอความเห็นในขั้นตอนต่อไป

6.พิจารณาการแยกประเภทโรงงาน “อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง” ออกจาก “อุตสาหกรรมปิโตรเคมี” ให้ชัดเจน เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องผังเมืองที่เกี่ยวกับที่ตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรในพื้นที่สีเขียว (โรงงานลำดับที่ 42 ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 หมายถึง โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ สารเคมี หรือวัสดุเคมี ซึ่งมิใช่ปุ๋ย) ซึ่งกระทรวงแจ้งว่ามีการปรับปรุงนิยามของโรงงานลำดับที่ 42 ให้ละเอียดขึ้นโดยเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น ซึ่งน่าจะครอบคลุมตามที่หอการค้าไทยเสนอ 


7.หอการค้าไทย ขอขอบคุณกระทรวงฯ ที่ทบทวนรายชื่อวัตถุอันตรายและขยายระยะเวลาบังคับใช้ ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกประกาศกำหนดให้พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส  เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยกำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ทำให้ผู้ประกอบอาหารแปรรูปมีวัตถุดิบป้อนเข้าสู่โรงงานผลิตและสามารถนำเข้าวัตถุดิบทางการเกษตรจากประเทศอื่น ๆ มาผลิต เพื่อการส่งออกได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงได้ขอให้ภาคเอกชนช่วยตรวจสอบว่ามีสารประเภทใดบ้างที่สามารถใช้ทดแทนสารดังกล่าว เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการพิจารณาขั้นต่อไป

8. ขอให้ทบทวนการยกเลิกโควตาน้ำตาลสำหรับการผลิตเพื่อส่งออก (โควตา ค.) หรือสร้างมาตรการอื่นรองรับ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ โดยกระทรวงรับทราบและจะนำไปพิจารณาร่วมกับข้อมูลที่ได้รับจากชาวไร่และความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ข้อเสนอต่าง ๆ ของหอการค้าไทย กระทรวงจะนำไปพิจารณาผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมและจะต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยจะให้มีการประสานงานและติดตามความคืบหน้าเรื่องต่าง ๆ ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่องที่เสนอมากันต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]

ศาลพิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาท คดีแตงโม

นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 […]

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย