หอการค้าไทยพบรัฐมนตรีอุตฯ ขับเคลื่อน 1 ไร่ 1 ล้าน

กรุงเทพฯ 19 ก.พ. – หอการค้าไทยพบรัฐมนตรีอุตฯ ขับเคลื่อนโครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน ส่งเสริม Circular Economy 



นายกลินท์  สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการนำคณะกรรมการเข้าพบนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อนำเสนอมุมมองข้อเสนอของภาคเอกชนต่อการผลักดันเศรษฐกิจของประทศ โดยมีข้อเสนอ คือ 1.เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … กฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด โดยเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการอากาศสะอาด ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและพัฒนา ระบบการจัดการอากาศของประเทศ โดยมีกลไกรับผิดชอบลงไปในระดับพื้นที่ของแหล่งมลพิษทางอากาศ ระหว่างไม่มีกฎหมายการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดบังคับใช้ ซึ่งกระทรวงฯ เห็นด้วยและจะสนับสนุนตามขั้นตอนต่อไป


2.จัดทำบันทึกลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทยและสถาบันอาหาร เพื่อส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและอาหารด้วยนวัตกรรม และเพิ่มความร่วมมือ ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและหอการค้าไทยขับเคลื่อนโครงการสร้างปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม (AGRO GENIUS ACADEMY) ร่วมกับโครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน เพื่อพัฒนาและสร้างต้นแบบของผู้ประกอบการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคสู่การเป็นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและต่อยอดในเชิงพาณิชย์สู่ตลาดสากล ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แจ้งว่าได้มีความร่วมมือกับหอการค้าอยู่แล้วเป็นระยะ ๆ และจะประสานความร่วมมือดังกล่าวต่อไป 3.เสนอเพิ่มอัตรากำลัง เพื่อติดตามและตรวจสอบการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และถ่ายโอนงานบริการด้านงานตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐาน ให้แก่ภาคเอกชนที่มีความพร้อมดำเนินการแทน (Outsourcing) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและครอบคลุมสินค้าที่ต้องทดสอบ รวมทั้ง บูรณาการการทำงานห้องทดสอบหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการอำนวยความสะดวกการให้บริการ แบบ One stop service เพื่อลดปัญหาการทดสอบสินค้าไม่ทันเวลาและต้องส่งห้องทดสอบหลายแห่ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แจ้งว่า สมอ.ได้มีการถ่ายโอนงานให้กับหน่วยงานภายนอกตรวจสอบสินค้า และสนับสนุนงบประมาณด้านอุปกรณ์ให้กับห้องทดสอบหลายแห่งเป็นประจำทุกปี อย่างไรก็ตาม อาจมีสินค้าที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมที่ดูแลไม่ถึงบ้าง 

4.สนับสนุนให้มีการศึกษาและหาแนวทางการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องตามหลักสากลเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยขอให้กระทรวง และภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีการหารือร่วมกัน โดยเฉพาะการกำจัดซากแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือและโทรทัศน์  ซึ่งกระทรวงจะมีการหารือรายละเอียดร่วมกันต่อไป 5.ส่งเสริมแนวทาง Circular Economy ในบทบาทของกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ ขอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและ กกร. เพื่อขับเคลื่อนแนวคิด Circular Economy ในการผลิตสินค้าและบริการตั้งแต่ขั้นตอน R&D การออกแบบผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการใช้งานของผู้บริโภคและเร่งสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยให้ สมอ.เป็น Certified Body เช่นเดียวกับ EUCertPlast ในการกำหนดปริมาณ Recycle ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และ Certify แหล่งที่มาของ Recycle รวมทั้ง ช่วยผลักดันให้เกิด Waste Management ในรูปแบบ End to End เพื่อเพิ่มปริมาณ Recycle และลด Waste to Landfill โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สนับสนุนการลงทุน อีกทั้งเร่งรัดห้ามการนำเข้า Plastic Waste นอกจากนี้ บังคับให้ผู้ประกอบการระบุวิธีการจัดการและกำจัดของเสียหลังการใช้งานของสินค้าทุกประเภท และเร่งใช้นโยบายด้านภาษีให้ Incentive กับผู้นำ Recycle เป็นส่วนในการผลิตมากขึ้น ในเรื่องนี้กระทรวงฯเห็นชอบกับข้อเสนอของหอการค้า และจะนำเสนอความเห็นในขั้นตอนต่อไป

6.พิจารณาการแยกประเภทโรงงาน “อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง” ออกจาก “อุตสาหกรรมปิโตรเคมี” ให้ชัดเจน เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องผังเมืองที่เกี่ยวกับที่ตั้งโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรในพื้นที่สีเขียว (โรงงานลำดับที่ 42 ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 หมายถึง โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ สารเคมี หรือวัสดุเคมี ซึ่งมิใช่ปุ๋ย) ซึ่งกระทรวงแจ้งว่ามีการปรับปรุงนิยามของโรงงานลำดับที่ 42 ให้ละเอียดขึ้นโดยเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น ซึ่งน่าจะครอบคลุมตามที่หอการค้าไทยเสนอ 


7.หอการค้าไทย ขอขอบคุณกระทรวงฯ ที่ทบทวนรายชื่อวัตถุอันตรายและขยายระยะเวลาบังคับใช้ ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกประกาศกำหนดให้พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส  เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยกำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ทำให้ผู้ประกอบอาหารแปรรูปมีวัตถุดิบป้อนเข้าสู่โรงงานผลิตและสามารถนำเข้าวัตถุดิบทางการเกษตรจากประเทศอื่น ๆ มาผลิต เพื่อการส่งออกได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงได้ขอให้ภาคเอกชนช่วยตรวจสอบว่ามีสารประเภทใดบ้างที่สามารถใช้ทดแทนสารดังกล่าว เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการพิจารณาขั้นต่อไป

8. ขอให้ทบทวนการยกเลิกโควตาน้ำตาลสำหรับการผลิตเพื่อส่งออก (โควตา ค.) หรือสร้างมาตรการอื่นรองรับ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ โดยกระทรวงรับทราบและจะนำไปพิจารณาร่วมกับข้อมูลที่ได้รับจากชาวไร่และความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ข้อเสนอต่าง ๆ ของหอการค้าไทย กระทรวงจะนำไปพิจารณาผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมและจะต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยจะให้มีการประสานงานและติดตามความคืบหน้าเรื่องต่าง ๆ ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่องที่เสนอมากันต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย