กทม.ฝุ่นPM2.5 กลับมา เกิน 4 เขต

กทม.19 ก.พ.-ผลตรวจวัดค่าฝุ่นPM2.5ในกทม.วันนี้ เกินเกณฑ์มาตรฐาน 4 เขต “บางคอแหลม-บางกอกน้อย-คลองเตย-ป้อมปราบศัตรูพ่าย”


ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร 


คุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร  ประจำวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ณ เวลา 07.00 น ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5ไมครอน(PM2.5)ตรวจวัดได้ 35-54 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 4 พื้นที่ คือ

1.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม


2.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม

3.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.

4.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (แยกหลานหลวง) มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.

ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร  ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง-เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ,คุณภาพอากาศปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ปกติ ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง

คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพให้ประชาชนทั่วไปในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานให้เฝ้าระวังสุขภาพหากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร : ท้องฟ้าโปร่ง

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในเรื่องผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานเขตพื้นที่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ดำเนินมาตรการแก้ไขในเบื้องต้น ได้แก่ ฉีดน้ำล้างถนนและต้นไม้ ก่อนเวลา 05.00 น.ของทุกวัน เพื่อลดปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน และฉีดพ่นละอองน้ำบนอาคารสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานคร 

พร้อมให้ทุกหน่วยงานในสังกัด กทม.ตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนกำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ปฏิบัติงาน หรือ   จอดรถรอรับ-ส่ง และเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมดูแลพื้นที่โครงการก่อสร้างในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการกำชับกวดขันให้ผู้รับเหมาฉีดน้ำทำความสะอาดล้อรถบรรทุกหรือรถอื่นๆ ก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้าง นอกจากนี้ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ตรวจสอบสภาพรถไม่ให้ปล่อยควันดำ งดเผาในที่โล่งแจ้ง รวมถึงการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีและลดมลพิษในอากาศ

ประชาชนทั่วไปสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศของ กทม. แบบ Real Time ได้ที่ www.bangkokairquality.com www.air4bangkok.com 

 Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง  Facebook : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม. แอปพลิเคชัน “กทม. Connect” และ แอปพลิเคชั่น “AirBKK” เวอร์ชั่นทดลองใช้สำหรับ IOS สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว