ภูมิภาค 17 ก.พ.-เหตุไฟไหม้ป่าบนยอดภูกระดึง ล่าสุด ภาพมุมสูงบนหลังแปไม่พบกลุ่มควันไฟแล้ว แต่ด้านล่างยังมีไฟไหม้อยู่หลายจุด ขณะที่กรมอุทยานฯ สรุปความเสียหายหลังจากไฟไหม้เป็นเวลานานกว่า 18 ชม. พื้นที่ป่าสน ทุ่งหญ้าบนหลังแป เสียหายไปแล้ว 3,400 ไร่
ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ป่าบนยอดภูกระดึง ตั้งแต่ช่วงกลางวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 กินพื้นที่ป่าเป็นบริเวณกว้าง เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าต้นสนสองใบและสนสามใบ ใบไม้แห้งปกคลุมพื้นดินหนาแน่น เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง และพ่อค้า แม่ค้า รวมทั้งลูกหาบ พร้อมนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งช่วยกันเร่งสกัดไฟไม่ให้ลุกลามเข้าสู่พื้นที่รอบศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ซึ่งเป็นจุดพักแรม ร้านอาหาร และบ้านพักของเจ้าหน้าที่
ล่าสุด ภาพมุมสูงภูกระดึงบนหลังแปไม่พบกลุ่มควันไฟแล้ว แต่ด้านล่างยังมีไฟไหม้อยู่หลายจุด ซึ่งเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟป่าบนหลังแปได้แล้ว เหลือเพียงดับไฟที่อยู่ตามตอไม้ และจุดที่ยังมีควันคุกรุ่น เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึงและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงระดมกำลังกันดับไฟที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง มีลมพัดตลอดเวลา ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มอ่อนล้า หลังจากที่ดับไฟมาตลอดทั้งคืน ต่อเนื่องจนถึงวันนี้
นายเหวย พันสนิท ลูกหาบ เล่าว่า เหตุการณ์เช่นนี้ตนเพิ่งเคยพบครั้งแรก นับตั้งแต่ยึดอาชีพลูกหาบมากว่า 30 ปี รู้สึกเสียดายต้นไม้ ป่าสนที่ถูกไฟไหม้
ขณะที่ น.ส.ปริญญ์ เหล่าบัณฑิต นักท่องเที่ยว กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากที่เห็นไฟไหม้ เปิดดูคลิปเป็นภาพกวางกำลังหนีไฟ รู้สึกสะเทือนใจมาก
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เดินทางมาที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เพื่อประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการดับไฟและป้องกันไม่ให้ไฟไหม้เกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกัน กำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 28 ค่ายศรีสองรัก จำนวน 50 นาย เดินทางเท้าขึ้นบนยอดภูกระดึง เพื่อเป็นกำลังเสริมช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่ยังหลงเหลืออยู่
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สรุปความเสียหายหลังจากไฟไหม้เป็นระยะเวลานานกว่า 18 ชั่วโมง พื้นที่ป่าสน ทุ่งหญ้าบนหลังแป ได้รับความเสียหายไปแล้ว 3,400 ไร่
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สถานการณ์การเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และอาสาสมัคร สามารถช่วยกันดับไฟป่าภูกระดึงได้แล้ว ด้วยการจำกัดวงกว้างของไฟ ทำแนวกั้นไฟป่าจากด้านบนของภูกระดึงไม่ให้เกิดการปะทุขึ้นอีก จากนั้นจุดไฟไล่ในรูปแบบของการชิงเผากลับสวนไฟป่า เพื่อไม่ให้ไฟขยายวงกว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุ คาดว่าอาจเกิดการจากฝีมือมนุษย์ ลักลอบเผาป่าเพื่อหาของป่าล่าสัตว์ป่า หรือก้นบุหรี่ของนักท่องเที่ยว ขณะนี้ได้มอบหมายให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเร่งประเมินความเสียหายทั้งหมดและสาเหตุไฟป่าครั้งนี้
สำหรับอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นป่าอนุรักษ์ที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง มีพันธุ์ไม้หลากชนิด รวมทั้งป่าสนเขาอายุกว่า 100 ปี พบเฉพาะบนที่ราบยอดภูกระดึงที่ระดับความสูงประมาณ 1,200-1,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล และสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่หากิน และอาจต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งในการฟื้นฟูสภาพป่ากลับมาอีกครั้ง
นายธัญญา กล่าวอีกว่า กำชับให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศเฝ้าระวังไฟป่าและการลักลอบเผาป่าตลอด 24 ชั่วโมง เพราะปีนี้สภาพอากาศแล้งจัดมาก และบางพื้นที่มีเชื้อเพลิงสะสมค่อนข้างมาก อาจเป็นเชื้อเพลิงในเกิดไฟป่าลุกลามได้อย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย