รัฐสภา 17 ก.พ.-“วันชัย” ตั้งกระทู้ถามหามาตรฐานการป้องกันเหตุร้ายกราดยิงโคราช “พล.อ.อนุพงษ์” ยอมรับว่ายังไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ย้ำผู้ว่าฯ ในฐานะ ผอ.รมน.จังหวัด ต้องเตรียมความพร้อม ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (17 ก.พ.) มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามด้วยวาจาโดย นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขเหตุรายแรงที่เกิดขึ้นแต่ละจังหวัด จากกรณีกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดการบาดเจ็บ เสียชีวิตจำนวนมาก ใช้เวลาแก้ไขกว่า 17 ชั่วโมงเศษ เปิดความวุ่นวายทั้งจังหวัด กระทบต่อความรู้สึกทั้งประเทศ ทั้งที่เกิดจากผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว จึงต้องถามถึงแนวทางการป้องกันและประสานงานเพื่อยับยั้งไม่ให้ปัญหาบานปลายอย่างไร
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า อาชญากรรมที่เกิดขึ้น ไม่ได้ครอบคลุมตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่จะเป็นไปตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.รมน. และมีแม่ทัพภาคเป็น ผอ.รมน.ภาค และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ผอ.รมน.จังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถเรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบมาชี้แจงแผนและแนวทางปฏิบัติ และสามารถประสานงานกับทหารเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ต้องยอมรับว่าไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์นำอาวุธสงครามมากราดยิง ซึ่งจะเป็นบทเรียนที่ต้องมีมาตรการไว้รองรับ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเตรียมความพร้อมหน่วยงานในพื้นที่เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ให้เร็วที่สุด และต้องดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงกลางดึง ทหารต้องถอนกำลังออกมา เพราะไม่มีอำนาจ ขณะที่ตำรวจที่เสียชีวิตในช่วงแรกก็ไม่คาดคิดว่าคนร้ายจะมีอาวุธสงคราม
ส่วนการดูแลอาวุธสงคราม พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า คนร้ายใช้อาวุธส่วนตัวทำร้ายคนก่อน และเข้าป้อมกองรักษาการ ซึ่งไม่ได้ใส่กระสุนไว้ที่ปืน และไปนำอาวุธหนักที่กองร้อย ซึ่งเป็นห้องเก็บอาวุธและมีลูกกรงล็อคทั้งข้างในและข้างนอก เวลาเบิกไปใช้รัดกุม ส่วนกระสุนจะอยู่ที่คลัง ซึ่งแยกจากกองร้อยอีก โดยมีเวรยามแต่ไม่ถืออาวุธ ขณะที่คลังกระสุนจะไกลจากกองร้อย แต่หากจะแก้ปัญหาคงต้องทำตู้นิรภัย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายยิงทันที ต้องการให้เสียชีวิต และนำรถชนคลังกระสุน ซึ่งคนร้ายกะให้เสียชีวิตทั้งหมด และยิงมาตลอดทาง ซึ่งไม่ใช่เรื่องการบันดาลโทสะแล้ว ต้องพิจารณาไปถึงภาวะจิตใจ ซึ่งตำรวจที่ไประงับเหตุ ก็ไม่รู้ว่าต้องรับภัยคุกตามขนาดนั้น และเมื่อเข้าไปอยู่ในห้าง เจ้าหน้าที่ก็บุกไม่ได้ เพราะต้องค่อย ๆ เคลียร์คนแต่ละชั้นออกมา
ส่วนกรณีการดูแลอาวุธ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เช่น ตามแนวชายแดน ทุกคนมีอาวุธและกระสุนพร้อมยิง แต่ไม่เกิดปัญหา แต่ก็เห็นด้วยว่าต้องมีการวางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการสูญเสียอีก.-สำนักข่าวไทย