fbpx

รวบแม่ลูกตระเวนใช้แบงก์ปลอม สารภาพทำมาแล้ว 4 ครั้ง

ปทุมธานี 14 ก.พ. – ตำรวจจับกุมสองแม่ลูกตระเวนใช้แบงก์ปลอมเติมน้ำมันและซื้อสินค้า ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี สารภาพทำมาแล้ว 4 ครั้ง อ้างจะเข้ามอบตัวอยู่แล้ว แต่มาถูกจับเสียก่อน



เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเหตุหญิงสาวขับรถไปเติมน้ำมันปั๊มหลอด ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และจ่ายเงินเป็นแบงก์ 500 บาทปลอม จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกับนางนิธิกานต์ สุขีเกตุ อายุ 64 ปี ลูกจ้างร้าน เล่าว่า มีหญิงสาวขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีฟ้า มาเติมน้ำมัน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. คนร้ายขับรถเก๋งมาเติมน้ำมันเบนซิน 91 จำนวน 500 บาท แต่คนขับไม่ยอมลงจากรถ ตนสังเกตเห็นว่า ภายในรถมีผู้หญิง 2 คน ซึ่งรูปพรรณสัณฐานตรงกับที่ไปก่อเหตุใช้แบงก์ปลอมซื้อมะม่วง ข้าวเหนียวส้มตำ ในเขตพื้นที่ สภ.คลองห้า ซึ่งตนเองมั่นใจว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกัน เพราะตนจำรถเก๋งที่คนร้ายขับได้ พร้อมกับกล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกเหตุการณ์วันเกิดเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน โดยตนเองแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองเสือ แล้ว  


และอีกราย บริเวณร้านขายน้ำมันปั๊มหลอดและขายของชำ ที่ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง ซึ่งเป็นร้านของนางดารุณี ธูปประดิษฐ์ อายุ 48 ปี บอกว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 09.30 น. มีหญิงสาวขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีฟ้า เข้ามาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จำนวน 300 บาท โดยคนที่นั่งเบาะข้างคนขับ อายุประมาณ 15-20  ปี ได้ลงมาเลือกซื้อขนมและไอศกรีม มูลค่าประมาณ 50 บาท จากนั้นเมื่อตนเองเติมน้ำมันเสร็จ รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับไปจอดเลยจากร้านประมาณ 20 เมตร โดยผู้ขับขี่ไม่ได้ลงมาจากรถ กระทั่งผู้หญิงที่คาดว่าเป็นลูกสาวได้สอบถามกับตนเองว่า มารดาชำระเงินหรือยัง ตนเองจึงตอบไปว่ายังไม่ได้จ่ายเงิน หญิงคนดังกล่าวจึงเดินไปที่รถและขึ้นรถปิดประตู เร่งเครื่องหนีออกไปทันที

ล่าสุด พ.ต.อ.รามณรงค์ เกียรติบุญเกิด ผกก.สภ.คลองห้า พร้อมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมกันจับกุม น.ส.สิริรักษณ์ สถิตย์วัฒนา อายุ 40 ปี และ น.ส.นวพร สถิตย์วัฒนา อายุ 16 ปี สองแม่ลูกได้แล้ว พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 4 กฆ 9601 กรุงเทพมหานคร 


น.ส.สิริรักษณ์ บอกว่า ตนกับลูกสาวตระเวนใช้แบงก์ปลอมจ่ายค่าเติมน้ำมันกับซื้อสินค้าไปแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งตนเองกับลูกสาวต้องขอโทษสังคมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนแบงก์ปลอมนั้น ลูกสาวได้ทำมาจากอินเทอร์เน็ต และนำไปถ่ายเอกสาร ครั้งแรกลูกสาวตนจะนำแบงก์ที่ทำมาไปหลอกสามีใหม่ของตนที่เปิดร้านขายของชำที่ จ.นครสวรรค์ เพราะลูกสาวตนไม่ชอบสามีใหม่ของตนอยู่แล้ว จากนั้นลูกสาวได้นำมาใช้ตามที่เป็นข่าว ซึ่งตนก็เครียด และยังบอกกับลูกสาวว่า ทำแบบนี้ไม่ดี ส่วนการที่นำแบงก์ปลอมไปซื้อมะม่วง เพราะครั้งแรกลูกสาวบอกกับแม่ค้าขายมะม่วงว่า ซื้อมะม่วงหวาน แต่ได้มะม่วงเปรี้ยว ลูกสาวจึงนำแบงก์ปลอมไปซื้ออีกครั้ง และตนเองก็จะเข้ามอบตัวอยู่แล้ว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเสียก่อน

พ.ต.อ.รามณรงค์ กล่าวว่า หลังจากที่สองแม่ลูกมาก่อเหตุในพื้นที่ สภ.คลองห้า ก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเฝ้าติดตาม และสามารถจับกุมตัวได้ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ร่วมกันปลอมเงินตรา และมีไว้เพื่อนำออกไปใช้ซึ่งสิ่งที่ตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบเที่ยวแรก 270 ตัน “พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่สมุทรสาคร คุมหน้างานด้วยตัวเอง ย้ำต้องปลอดภัยได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง

“ภูมิธรรม” ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราชส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 44 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคอีสาน สูงสุด 44 องศาฯ แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง