กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – อธิบดีกรมป่าไม้ระบุจะเข้าตรวจฟาร์มไก่ “ปารีณา” รังวัดเนื้อที่ที่มีหลักฐานการใช้ประโยชน์ให้แน่ชัด รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด พร้อมทำบันทึกรายละเอียดเพื่อเข้าแจ้งความต่อ บก.ปทส.ฐานบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าเพิ่มวันนี้
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จะขอหมายศาลจังหวัดราชบุรีเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บุกรุกครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินทำฟาร์มไก่รวม 682 ไร่ ต. รางบัว อ. จอมบึง จ. ราชบุรีอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) มอบหมายให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและรักษาป่า พร้อมกับผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่าเมื่อสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ยังไม่เข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ์ จึงถือว่าเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ทั้งนี้ คณะเจ้าพนักงานกรมป่าไม้ร่วมกับเจ้าพนักงาน ส.ป.ก.ตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงดังกล่าวและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด เพื่อตรวจยึดแล้วแจ้งความดำเนินคดี แต่เนื่องจากการทำบันทึกการตรวจสอบต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ โดยกำหนดแนวเขตการใช้ประโยชน์ที่มีหลักฐานชัดเจน ตลอดจนระบุพิกัดสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดอย่างแม่นยำ ซึ่งจะทำให้เสร็จสิ้นในวันนี้แล้วแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ (บก. ปทส.) ทันที ซึ่งเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมจากร้องทุกข์ว่า น.ส.ปารีณา บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าไม้ถาวร 46 ไร่ไปก่อนหน้านี้
มีรายงานว่าการเข้าตรวจสอบพื้นที่ร่วมกันของกรมป่าไม้และ ส.ป.ก.วานนี้ (12 ก.พ.) พบหลักฐานชัดเจนในการใช้ประโยชน์ที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน โดยสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่กว่า 60 โรง แต่มีรั้วกั้นบริเวณที่ก่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไว้ชั้นหนึ่ง ส่วนนอกรั้วเป็นป่ายูคาลิปตัส ทำให้วันนี้ต้องตรวจสอบเพิ่มว่า น.ส. ปารีณา ทำประโยชน์พื้นที่บริเวณนี้ตามการนำชี้ของผู้ใหญ่บ้านหรือไม่ จึงจะกำหนดเนื้อที่ที่ครอบครองจริงได้ แล้วจะตรวจยึดทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด เพื่อแจ้งความต่อพนักงาน บก. ปทส. คาดว่าจะนำมารวมเป็นคดีเดียวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและป่าไม้ถาวร เนื่องจากเป็นกรรมและวาระเดียวกัน แต่เนื่องจากพื้นที่ 682 ไร่นี้อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน จึงจะเชิญเจ้าพนักงาน ส.ป.ก.ร่วมร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบที่ดินตามที่กฤษฎีกาให้ความเห็น หาก ส.ป.ก.ไม่ร่วมร้องทุกข์ กรมป่าไม้ยืนยันจะแจ้งความ น.ส. ปารีณา ฐานกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ภายในวันนี้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย