กรุงเทพฯ 12 ก.พ.-อัยการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมช่วยเหลือเหยื่อกราดยิงกลางเมืองโคราช เพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ขณะที่ อสส.เตือนผู้โพสต์ภาพปืนเชิงข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวมีโทษจำคุก
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึง กรณีมีบุคคลโพสต์ภาพอาวุธปืนและข้อความในเชิงข่มขู่จะใช้ความรุนแรงในลักษณะเดียวกับคนร้ายก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในจังหวัดนครราชสีมา ว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 392 ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือ ตกใจ โดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุก ไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และที่สำคัญก็คือการกระทำลักษณะนี้จะกระทบต่อจิตใจของผู้คนในสังคม จึงย่อมต้องได้รับโทษทางสังคมด้วย ดังจะเห็นจากตัวอย่างว่าผู้กระทำบางคนถูกต้นสังกัด หรือนายจ้าง มีคำสั่งเลิกจ้าง ทันที
ดังนั้นจึงขอเตือนให้ผู้ที่คิดจะกระทำการลักษณะนี้หยุดคิด หากมีความขุ่นข้องหมองใจจากเหตุที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าทั้งทางแพ่ง หรือ ทางอาญา สามารถขอรับคำปรึกษาได้จากอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด หรือ อัยการจังหวัด โดยอัยการยินดีให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางแก้ไขให้ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นคนทำผิดเสียเอง จนเกิดผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัวในที่สุด
ขณะที่เหยื่อในเหตุการณ์กราดยิงในจังหวัดนครราชสีมา นั้น ทางอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย จังหวัดนครราชสีมา จะช่วยประสานงานกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ตกเป็นเหยื่อจากการกระทำความผิดอาญา นอกจากนี้ทางอัยการจะช่วยเหลือในการยื่นคำร้องขอต่อศาล แต่งตั้งผู้จัดการมรดก กับทายาทผู้เสียชีวิต และแต่งตั้งผู้ปกครองแก่บุตรที่อยู่ในวัยผู้เยาว์ของผู้เสียชีวิต เพื่อมีผู้ปกครองที่เหมาะสมมาดูแลหลังบิดา มารดา เสียชีวิต อีกด้วย .-สำนักข่าวไทย