สธ.11 ก.พ.-กระทรวงสาธารณสุข ให้ทุกโรงพยาบาลจัดตั้งคลินิกไข้หวัด พร้อมรับการระบาดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 ในช่วงนี้มีแนวโน้มระบาดมากขึ้นในหลายประเทศ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานคณะกรรมการโรคอุบัติใหม่จึงดำริให้ รมช.สาธารณสุข ซึ่งกำกับดูแลกรมการแพทย์เตรียมความพร้อมในการรับมือกับการระบาดในวงกว้าง ควรดำเนินการทั้งในส่วนของสถานพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชนนั้น
ได้มอบให้ กรมการแพทย์ รับผิดชอบในสการพัฒนารูปแบบการวินิจฉัย การดูแลรักษาพยาบาล, และการป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล โดยเริ่มจากการจัดตั้งคลินิกไข้หวัด เป็นแบบ One stop service คล้ายกับช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เพื่อให้ผู้ป่วยที่สงสัยว่าอาจติดเชืัอไวรัส 2019-nCoV ได้รับการวินิจฉัยเร็ว ให้การดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว และลดการแพร่กระจายเชื้อได้ และมอบให้กรมการแพทย์ประสานการดำเนินงาน กับโรงพยาบาลในสังกัดต่างๆ ได้แก่ รพ.เครือข่ายกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet),รพ.สังกัดกระทรวงกลาโหม รพ.สังกัด กทม. รพ.เอกชน และ รพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุขในส่วนภูมิภาค เพื่อให้มีแนวทางการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่ารพ.ในสังกัดกรมการแพทย์ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้รับมอบนโยบายและนำสู่การปฏิบัติ โดยจัดตั้งคลินิกไข้หวัด (Fever and Acute Respiratory Infection Clinic) ยึดแนวทางการคัดกรอง ตามแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย การดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ
“การจัดตั้งคลินิกไข้หวัด เพื่อให้เป็นOne Stop Service ตั้งแต่การคัดกรอง การวินิจฉัยตรวจรักษา จนทราบผลวินิจฉัยว่าเข้าข่ายผู้ติดเชื้อไวรัส 2019-nCoV หรือไม่ รวมถึงการจัดเตรียมห้องน้ำ ห้องจ่ายยา ห้องพักคอย เพื่อไม่ปะปนผู้ป่วยอื่นๆ ที่มารับบริการ เป็นการลดการแพร่ระบาดของโรคได้ระดับหนึ่ง และหากจำเป็นต้องรับการรักษาใน รพ.ดำเนินการตามแนวทางเวชปฏิบัติฯข้างต้น โดยกรมการแพทย์จะเผยแพร่ต้นแบบของคลินิกไข้หวัด ให้สถานพยาบาลให้กับโรงพยาบาลในสังกัดต่างๆ ทุกแห่ง ต่อไป” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย