อนุดิษฐ์ชี้องครักษ์นายกฯเผด็จการการเมืองขู่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 8 ก.พ.- “น.อ.อนุดิษฐ์” ชี้องครักษ์พิทักษ์นายกฯตั้งวอร์รูมข่มขู่แฉประวัติฝ่ายค้านถือเป็นเผด็จการการเมือง ชี้ไม่ควรปกปิดหรือสะกัดการตรวจสอบหากทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้อย่างที่พูด ส่วนพิจารณาพรบ.งบปี 63 ยินดีร่วมแต่ขอให้รอบคอบไม่ให้เกิดปัญหาตามมาอีก


                  น.อ.อนุดิษฐ์  นาครทรรพ  เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้พิจารณาลงมติร่างพรบ.งบประมาณปี 63 ให้ในวาระ 2-3 ว่าพรรคฝ่ายค้านจะต้องมาหารืออีกครั้งในข้ออกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังมีปัญหาเรื่องผู้ที่เคยสงวนคำแปรญัตติจะสามารถอภิปรายใหม่ได้หรือไม่ และหากอภิปรายได้ จะไปซ้ำกับคำแปรญัตติเดิมที่เจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ที่เคยอภิปรายไปแล้วหรือไม่ ซึ่งทุกขั้นตอนต้องมีความชัดเจน จะได้ไม่เกิดปัญหาทำให้กระบวนการต่างๆ ต้องสะดุดล่าช้าออกไปอีก ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยเคารพในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันธ์ทุกองค์กร และเมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ฝ่ายค้านก็พร้อมร่วมทำหน้าที่พิจารณาให้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้อง ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่เคยแตะถ่วงทำให้งบประมาณปี 63 มีความล่าช้า เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต่างมาจากรัฐบาลเองทั้งหมด

น.อ.อนุดิษฐ์ ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าตนเองรู้สึกแปลกใจที่รัฐบาลเอาจริงเอาจังเรื่องนี้มาก มีการองครักษ์พิทักษ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั้งในสภาและนอกสภาเพื่อตอบโต้กับ ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะการขู่จะตั้งวอร์รูมไว้คอยขุดคุ้ยข้อมูลในอดีตของผู้อภิปรายขึ้นมาแฉกลับ ซึ่งความพยายามสกัดกั้นการตรวจสอบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยการข่มขู่ ถือเป็นการเมืองแบบเผด็จการที่ประชาชนรู้ทัน การปกปิดบิดเบือนการตรวจสอบของฝ่ายค้าน มีแต่สร้างความเคลือบแคลงสงสัยในตัวพล.อ.ประยุทธ์มากยิ่งขึ้น และตนรู้สึกเสียดายว่าที่ผ่านมา หาก ส.ส.รัฐบาลทุกคน ขยันขันแข็ง กระตือรือล้น และทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็งแบบนี้ พรบ.งบประมาณปี 63 คงผ่านการพิจารณาไปแล้ว คงไม่ต้องนำกลับเข้ามาพิจารณากันอีกรอบให้อับอายประชาชน 


“การข่มขู่ส.ส.ฝ่ายค้านไม่ให้อภิปรายนายกฯจะทำให้ประชาชนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องปกปิกซ่อนเร้นความสกปรกต่างๆไว้ใต้พรมอย่างแน่นอน และยังสวนทางกับคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์เองว่าโปร่งใสและตรวจสอบได้  การประกาศตั้งวอร์รูมซักฟอกฝ่ายค้านถือเป็นการเล่นเกมนอกสภาอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่เห็นผู้นำอย่าง  พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยประกาศว่าทำปฏิวัติเพื่อปฏิรูปการเมืองใหม่ออกมาตักเตือนหรือห้ามปราม อยากจะเปรียบการอภิปรายในครั้งนี้ว่า มันคือ ยุทธการปอกเปลือกให้ประชาชนเห็นเนื้อในของรัฐบาล เพราะตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์และพวก เข้ามาบริหารประเทศ สร้างความเสียหายให้กับประเทศนี้อย่างไรบ้าง เพราะในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่เคยถูกตรวจสอบจากใครเลย“ น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว.- สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง