สำนักงานกรมที่ดิน 7 ก.พ.-“พ.ต.อ.ศิริวัฒน์” ร้องกรมที่ดินตรวจสอบบ้าน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” รุกแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ หากพบผิดจริง เตรียมยื่นอัยการรื้อคดีปี 2551 ใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.30 น. วันนี้ (7 ก.พ.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน ผ่านนายสุรวิทย์ นวลแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน ที่สำนักงานกรมที่ดิน เพื่อขอให้กรมที่ดินไปรังวัดที่ดินบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ย่านเกียกกาย ซึ่งห่างจากอาคารรัฐสภาใหม่ไม่ถึง 500 เมตร ว่า บ้านหลังดังกล่าวได้รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ จึงขอให้กรมที่ดินตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว โดยให้ยึดรายงานการสอบสวนที่ตนได้ยื่นดำเนินคดีไว้เมื่อปี 2551 ส่วนคดีดังกล่าวที่อัยการสั่งไม่ฟ้องไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเลย และการที่มายื่นดำเนินการในวันนี้ เนื่องจากเป็นการสานต่อจากคดีที่เคยยื่นไว้ก่อนหน้านี้ แต่ว่าช่วงที่ผ่านมาติดคดีอื่น จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ และเห็นว่าเมื่อกรมเจ้าท่าได้ดำเนินคดี จึงกลับมาดำเนินการต่อเพื่อให้หมดข้อสงสัยในสิ่งที่ตนคาใจ
“ถ้ากรมที่ดินตรวจสอบว่ามีการบุกรุกเลยแนวเขตที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น ดูจากแนวเขตตลิ่งชันของศาลาวัด ถ้าเลยแนวเขต แต่ต้องดูว่าบุกรุกหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของกรมที่ดินที่ต้องไปตรวจสอบ ประกอบกับต้องดูภาพถ่ายทางอากาศว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วพื้นที่เป็นอย่างไร ซึ่งในสำนวนมีผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายทางอากาศพิจารณา แต่อัยการกับตํารวจไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ ไปพูดถึงเรื่องก่อสร้างซะเป็นส่วนใหญ่” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวด้วยว่า พยานหลักฐานที่ตนมี ยืนยันได้ว่าบ้านของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแน่นอน และส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อ้างว่าแนวเขตของวัดที่ขณะนี้ถูกน้ำกัดเซาะไปเพราะวัดไม่ดูแล จึงทำให้บ้านของตนเอง ซึ่งเป็นแนวเขตที่แท้จริงดูเหมือนว่าล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยานั้นว่าเรื่องนี้ตนไม่ทราบและขอให้ไปตรวจสอบจากแผนที่ว่าวัดสร้างก่อนหรือว่าบ้านสร้างก่อน
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการคาดหวังในการยื่นฟ้องร้องคดีนี้ต่อเนื่อง หากผลออกมา สังคมจะได้ประโยชน์ และส่วนตัวจะหายคลางแคลงใจในเรื่องนี้ แต่หากการวัดที่ดินของกรมที่ดินพบว่ามีรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจริง จะเป็นหลักฐานใหม่ไปยื่นต่ออัยการเพื่อรื้อฟื้นคดีใหม่.-สำนักข่าวไทย