ไวรัสโคโรนาพ่นพิษ กระทบเศรษฐกิจไทย-จีน

กทม. 6 ก.พ. – ผลพวงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้มีการระงับการเดินทางของคนจีน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย รวมถึงธุรกิจต่อเนื่องอีกหลายส่วน ขณะที่นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศวิเคราะห์ถึงผลกระทบด้านการส่งออกและนำเข้าของไทยที่มีกับจีน ยังมีมูลค่ามหาศาลอีกด้วย 


สินค้าเกษตรของไทยที่เคยส่งออกไปจีนมีมูลค่ากว่า 900,000 ล้านบาทต่อปี กำลังได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผลไม้ที่ส่งออกไปจีนมากที่สุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ส่งผลต่อเศรษฐกิจหลายด้านและส่งผลต่อระบบเศรฐกิจไทยเป็นลูกโซ่ จากการปิดเมืองของจีน 


นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศวิเคราะห์ว่า มณฑลหูเป่ย์ของจีน เป็นเมืองใหญ่และมีความสำคัญเป็นศูนย์กลางด้านการผลิต ที่อู่ฮั่นมีโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถึง 5 โรง เป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตอุปกรณ์ไฮเทค และธุรกิจไทยที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนนำเข้าเหล่านี้ก็อาจต้องชะงักการผลิตด้วย รวมทั้งการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของนักลงทุนจีน


ที่ผ่านมาคนจีนนิยมเข้ามาซื้อคอนโดฯ ในไทยมากกว่าร้อยละ 30-40 ของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจช่วงนี้จึงแรงและเฉียบพลัน หากมีการควบคุมการแพร่ระบาดในจีนได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ นักวิชาการคาดว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาได้บ้าง เมื่อครั้งโรคซาร์สแพร่ระบาดเมื่อ 10 ปีก่อน ใช้เวลามากกว่า 6 เดือน กว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่สถานการณ์ครั้งนี้น่าจะรุนแรงมากกว่า 

ข้อมูลจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวพบว่า ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาผ่านทัวร์เป็นศูนย์ ส่วนที่มาท่องเที่ยวเองก็แทบไม่มีแล้ว จากเดิมที่แต่ละเดือนจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยมากกว่า 900,000 คน ไม่เพียงแต่จีนที่หวาดกลัวการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ยังมีนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่ชะลอการท่องเที่ยว เช่น อินเดีย มาเลเซีย ผู้ประกอบการบริษัททัวร์ต่างประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ไม่มีรายได้ ส่งผลต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปยังธุรกิจต่อเนื่องทั้งรถนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร   

ที่ผ่านมาร้อยละ 20 ของจีดีพีไทย พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว โดยจำนวนนี้กว่าครึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากจีน นักวิชาการสะท้อนว่า จากปัญหานักท่องเที่ยวจีนระงับการเดินทาง กระทบเศรษฐกิจมหาศาล จึงควรปรับให้การท่องเที่ยวไทยไม่พึ่งพานักท่องเที่ยวประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป เพราะจะมีความเสี่ยง และควรหากลยุทธ์ใหม่ให้ทันสถานการณ์ที่วิกฤติในช่วงนี้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว