fbpx

กลุ่ม ปตท.ร่วมลด PM 2.5

กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – กลุ่ม ปตท.ร่วมบรรเทาผลกระทบสถานการณ์ฝุ่นส่งเสริมเชื้อเพลิงลดมลพิษ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติช่วยลดฝุ่นร้อยละ 96 เดินหน้าส่งเสริมอีวี ตั้งเป้ามีสถานีชาร์จ 300 แห่งปี 67 ชวนลดเผาที่โล่งแจ้ง ปลูกป่า บำรุงเครื่องยนต์ 


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินมาตรฐานหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลุ่ม ปตท.ดำเนินการให้ร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การผลิตน้ำมันไร้สารตะกั่วเป็นรายแรกจนถึงพลังงานทางเลือกซึ่งเป็นพลังงานสะอาด อาทิ ก๊าซธรรมชาติ แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล  โดยพบว่ารถกระบะเครื่องยนต์ยูโร 4 ที่ใช้ไบโอดีเซล B10 สามารถช่วยลด PM 2.5 ได้ถึงร้อยละ 3.5  เมื่อเทียบกับการใช้ไบโอดีเซล B7 และพีทีทีเสตชันจะจำหน่าย  B10 ครบทุกสถานีภายในเดือนมีนาคม 2563  รวมถึงส่งเสริมการใช้ B20 ในกลุ่มรถขนาดใหญ่ เน้นการใช้ผ่านรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถเมล์ ขสมก. บขส. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะต่าง ๆ  อีกด้วย และในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันกลุ่ม ปตท.ได้เตรียมลงทุน เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำมันรองรับการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงยูโร 5 ในปี 2567 


กลุ่ม ปตท.ยังมุ่งส่งเสริมเทคโนโลยีและสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยอุปกรณ์สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) และมีแผนที่จะขยาย EV Charging Station ในสถานีบริการน้ำมัน โดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 77 สถานี ในปี 2563  และเพิ่มเป็น 300 สถานี ภายในปี 2567 สนับสนุน Start Up ด้านยานยนต์ไฟฟ้า เช่น รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมศึกษาวิจัยความเหมาะสมของเทคโนโลยีระบบการบำบัด PM 2.5 ในการช่วยบรรเทาปัญหามลภาวะทางอากาศ นอกจากนี้ มีแผนดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะปี 2564 โดยมีมาตรการจัดการมลพิษทางอากาศด้วยระบบดักฝุ่นได้มากกว่าร้อยละ 95 พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่องระบายแบบต่อเนื่อง

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท.ยังได้ดำเนินตามกรอบมาตรฐานสากล เพื่อให้กระบวนการผลิตของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน และโรงปิโตรเคมี ภายใต้โครงการปฏิบัติการสู่ความเป็นเลิศ (PTT Group Operational Excellence) จัดทำ “โครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้เชื้อเพลิง และสนับสนุนปรับเปลี่ยนใช้พลังงานสะอาดในโรงงานอุตสาหกรรม เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2563 หากไม่มีการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคอุตสาหกรรมเช่นปัจจุบัน จะทำให้มีการปล่อย PM 2.5 ถึงวันละ 86 ล้านกรัมต่อวัน หรือมากกว่าในปัจจุบันถึงร้อยละ 96 


“การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เริ่มตั้งแต่หยุดเผาในที่โล่งแจ้ง ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการตรวจสอบสมรรถนะเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์อยู่เสมอ  โดยศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ได้จัดโปรโมชั่นบริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี 30 รายการ ให้ส่วนลดพิเศษทั้งน้ำมันหล่อลื่นและการล้างแอร์รถยนต์ จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ อีกส่วนที่ทุกคนสามารถช่วยกันได้ คือ ร่วมกันปลูกและดูแลต้นไม้ในโครงการ “ปลูกเพื่อเปลี่ยน” ทั้งที่บ้าน สถานศึกษา รวมทั้งที่ทำงาน เพื่อช่วยดูดซับมลภาวะ ฝุ่นละออง และลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน” นายชาญศิลป์ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้