หนองคาย 5 ก.พ.- ผบ.ตร. ย้ำการเสียชีวิตของกำนันหญิงนักพัฒนาต้องไม่สูญเปล่า สั่งจับมือปืนให้ได้ เผยคดีคืบเป็นลำดับ และอาจมาหนองคายอีกรอบ ชี้ตำรวจทำงานเต็มที่ ยากกว่านี้ก็สางมาแล้ว อย่างชิงทองลพบุรี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยหลังประชุมที่ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย กว่า 1 ชั่วโมง ติดตามคดีนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ กำนันตำบลผาตั้ง อ.สังคม ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า วันนี้มาฟังรายงานการดำเนินการสืบสวน ที่มาที่ไปของคดี โดยทราบว่า นางกรรณิการ์ หรือกำนันเตี้ย เป็นคนตรงไปตรงมา สาเหตุอาจเกิดจากความขัดแย้งที่เกี่ยวกับสาธารณะ 3-4 ประเด็น ทั้งที่ดิน สปก. การทวงคืนผืนป่า ยังต้องสืบสวนให้ชัดเจนว่าจะไปเกี่ยวข้องกับบุคคลใด หากพบใครเกี่ยวข้องก็ให้เรียกมาสอบสวน และตำรวจก็รับฟังนี้ที่ทางญาติให้น้ำหนักการขัดแย้งที่ดิน สปก. เพราะถือว่าญาติเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตมากที่สุด ส่วนประเด็นที่ตำรวจตัดไปคือชู้สาว วันนี้หลาย ๆ ประเด็นคืบหน้าไปพอสมควรประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ ขอเวลาให้ตำรวจทำงานก่อน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า รถจักรยานยนต์ที่ถูกนำไปทิ้งน้ำนั้นน่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับคดีอยู่แล้ว แต่ต้องรอให้รถแห้งก่อน จึงจะพิสูจน์ได้ คาดว่าจะรู้ผลของการตรวจสอบรถภายใน 1-2 วัน คดีนี้ไม่มีกำหนดระยะเวลาแต่จะทำให้ดีที่สุด
“ผมให้ข่าวได้ในประเด็นที่ให้ได้ อันไหนยังให้ไม่ได้ต้องขอสงวนไว้ ให้พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานที่ได้ไว้ บางส่วนที่เก็บได้ก็ให้เก็บเป็นหลักฐานสำคัญในรูปคดี เพราะยังไม่รู้ว่าจะได้อะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง และอาจจะต้องลงพื้นที่อีกครั้ง อะไรที่เกี่ยวข้องกับคดีตำรวจทำเต็มที่ อย่างคดีชิงทองที่ลพบุรีก็ทำเต็มที่ คดีนี้ง่ายกว่าคดีที่ลพบุรีกว่าเยอะ”
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณบ้าน แม้พบว่าบางตัวก็เสียในจุดสำคัญ แต่ตำรวจมีวิธีการทำงานอยู่แล้ว เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ชายแดนและได้ประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้พนักงานสอบสวนรีบติดตามผู้ก่อเหตุมาให้เร็วที่สุด เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าคนดีอย่างกำนันไม่ควรตายสูญเปล่า.-สำนักข่าวไทย