แท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทยรายแรก หายดีกลับบ้านวันนี้

สธ.5 ก.พ.-ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศไทย คงที่ 25 คน รักษาหายแล้ว 9 คน ยังอยู่ รพ.16 คนอาการดีขึ้นทุกคน ส่วนผู้ป่วยอายุ 70ปี/คนขับรถทัวร์ที่ป่วยวัณโรคร่วมด้วย อาการล่าสุดทรงตัว แพทย์ดูแลใกล้ชิด ขณะที่มีข่าวดีชายไทยที่เป็นผู้ติดเชี้อในไทยรายแรกหายแล้วกลับบ้านวันนี้




นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ (5ก.พ.) ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศรายแรก และเข้ารับการรักษาในสถาบันบำราศนราดูร ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว ถือว่าหายเป็นปกติ สามารถกลับบ้านได้ ส่วนญาติและผู้สัมผัสใกล้ชิดทุกคนมีการติดตามเฝ้าระวังอาการต่อเนื่องตามมาตรฐาน ทุกรายเป็นปกติ

“วันนี้ได้รับข่าวดีจากสถาบันบำราศนราดูร ว่าผู้ป่วยชายไทยที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศไทยรายแรก ซึ่งเข้ารับรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร มีอาการค่อนข้างรุนแรง อยู่ในห้องแยกโรคความดันลบ มีทีมแพทย์ให้การดูแลรักษาตามมาตรฐานอย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นต่อเนื่อง ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการครั้งล่าสุดไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 แล้ว ถือว่าหายป่วยแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้”นายอนุทิน กล่าว 


สรุปสถานการณ์ของประเทศไทย ขณะนี้เหลือผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 16 คน กลับบ้านแล้วจำนวน 9 คน รวมผู้ป่วยสะสม จำนวน 25 คน โดยผู้ป่วยที่ยังอยู่โรงพยาบาลได้รับรายงานว่ามีแนวโน้มอาการดีขึ้น รายที่อาการหนัก วันนี้อาการยังทรงตัวและอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ยกระดับการดำเนินการเป็นระดับชาติ มีการขับเคลื่อนงานร่วมกันจากหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน เพื่อให้มาตรการต่างๆ มีประสิทธิภาพ โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการคัดกรอง ดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี การตรวจวิเคราะห์หาเชื้อดำเนินการโดยห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานระดับโลกและมีความรวดเร็ว ทำให้ได้รับ   คำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก รวมถึงประเทศต่างๆ ว่าระบบสาธารณสุขของไทยเข้มแข็ง และมีการปฏิบัติที่สูงกว่ามาตรฐานเป็นเพราะเรามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคต่างๆ มาหลายครั้ง

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่และมีประวัติเคยรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อรู้สึกมีอาการป่วยได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ หยุดขับรถรับผู้โดยสาร และสวมหน้ากากอนามัยมาพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติความเสี่ยง ทำให้เข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว  ซึ่งจากการติดตามญาติและผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยตามมาตรฐานการเฝ้าระวังควบคุมโรค ทุกรายมีอาการเป็นปกติ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ ที่มีความตระหนัก ติดตามข้อมูลความรู้และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขได้อย่างถูกต้อง ทำให้ไม่เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ โดยขอแนะนำผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะให้เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ เช่น ที่จับประตู เบาะนั่ง ที่เท้าแขน ด้วยน้ำผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด หรือแอลกอฮอล์ 70% ซึ่งสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะขับรถซึ่งสามารถใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าได้และให้ล้างมือบ่อยๆ

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่าอย่าด่วนสรุปว่าคนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นติดเชื้อจากญี่ปุ่นหรือไทยหรือที่ใด เช่นเดียวกับคนเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย ก็กำลังประสานข้อมูลว่ามีการเดินทางในรายละเอียดอย่างไร กับกระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้อยู่ เพราะตามหลักการระบาดวิทยา ร่วมกับหลักการระหว่างประเทศ เมื่อผู้ป่วยเดินทางกลับจากที่ใด จะลงในรายงาน ข้อมูลสอบสวนโรคว่าเดินทางไป ณ ประเทศนั้นๆ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 3-23 ม.ค.63 มีการตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิสะสม จำนวน 137 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 คน ใน 5 ท่าอากาศยาน คือสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ และเพิ่มที่ท่าอากาศยานเชียงรายอีก 1 แห่งตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค-3ก.พ.63 คัดกรองผู้โดยสารสายการบินจากจีน 276 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง จำนวน 13,411 ราย กระทรวงสาธารณสุขจัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนนักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]