กรุงเทพฯ 4 ก.พ.- อุทธรณ์ ยืน จำคุก “จ่าประสิทธิ์” อดีต ส.ส สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดี ครอบครองเสื้อเกราะ-หมวกนิรภัยทหาร ช่วงสลายการชุมนุม ของ กลุ่ม นปช.เมื่อปี 53
ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อายุ 53 ปี อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และ แนวร่วมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.เครื่องยุทธภัณท์ พ.ศ.2530 มาตรา 4,15,42 และรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
กรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย.53 เจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจค้นรถจำเลย พบมีเสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกนิรภัยปราบจราจลซึ่งเป็นเครื่องยุทธภัณฑ์โดยมิได้รับอนุญาต ที่สูญหายไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. และขณะที่ ส.อ.ชนะยุทธ คมสาคร สังกัดกองทัพภาค 1 กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้มีคนร้ายมากกว่า 3 คนขึ้นไปร่วมกันใช้คันธงยาว 1 เมตรตีประทุษร้ายและแย่งชิงหมวกนิรภัยปราบจลาจลราคา 3,745 บาท ที่ ส.อ.ชนะยุทธ ครอบครองที่ศีรษะไปโดยทุจริต เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย เหตุเกิดที่แขวง – เขตดุสิต กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
คดีนี้ ศาลชั้นต้น จำคุกฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 เป็นเวลา 1 ปี และพ.ร.บ.เครื่องยุทธภัณท์ พ.ศ.2530 อีก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี
ขณะที่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว พฤติการณ์ของจำเลยเป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย ซึ่งหมวกนิรภัยและเสื้อเกราะที่จำเลยรับไว้นั้น ได้มาจากการแย่งชิงจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ จำเลยไม่ได้มีไว้เพื่อป้องกันตัวตามที่อ้าง อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยขอให้รอลงอาญานั้น ศาลอุทธรณ์พิจารณาพฤติการณ์ชุมนุมที่ปรากฏข่าว ทราบโดยทั่วไปว่ามีการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสของเจ้าหน้าที่ มิใช่มีแต่ผู้ชุมนุม ไม่ถือเป็นการชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน จำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ด้าน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ จำเลย เปิดเผยว่า พร้อมยอมรับไม่ว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จะออกมาในรูปแบบใด และอยากขอความเมตตาจากศาล เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนีหรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด และจะขอต่อสู้ในชั้นฎีกาต่อไป โดยวันนี้ ได้เตรียมหลักทรัพย์มา 7 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว แต่หากการยื่นประกันสุดท้ายแล้วจะต้องส่งให้ศาลสูงพิจารณาคำร้อง แล้วส่งผลให้วันนี้ตนอาจต้องเข้าเรือนจำก่อน .-สำนักข่าวไทย

