ส่ง ผอ.สถาบันบำราศนราดูร หน.ทีมรับคนไทยจากอู่ฮั่น

รพ.ราชวิถี 3 ก.พ.-รองนายกรัฐมนตรี ย้ำรับตัวคนไทยในอู่ฮั่น พร้อมส่ง ผอ.สถาบันบำราศนราดูร เป็นหัวหน้าทีม เผยมีในใจเรื่องสถานที่รองรับ แต่อุบขอรอนายกรัฐมนตรี ขณะที่หมอ รพ.ราชวิถี แจงไม่ได้ลอกสูตรยาจากจีน เป็นการประยุกต์คนละสูตร โดยต้านยาเอดส์ให้ฤทธิ์ช่วยยับยั้ง การกระจายตัวของเชื้อ ส่วนยาต้านหวัด ช่วยยับยั้งเชื้อที่เข้าไปในเซลล์


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวภายหลังเยี่ยมอาการป่วยผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยย้ำขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น พร้อมให้กำลังใจทีมแพทย์ พยาบาล หลังเกิดกระแสโจมตี จ่ายยารักษาโคโรนาสูตรเดียวกับจีนว่าไม่ใช่เรื่องใหม่  โดยยืนยนว่าการตัดสินใจนี้ เป็นการทำเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา ที่มีอาการรุนแรง เป็นหญิงชาวจีนอายุ 70 ปี 


ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอู่ฮั่น ซึ่งจะเดินทางพรุ่งนี้(4ก.พ.) มอบหมายให้ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร เป็นหัวหน้าทีมการดูแลคนไทย 160 คนที่จะไปรับ มีทีมแพทย์ร่วม 2 ทีม  รวม 8 คน เป็นแพทย์ด้านฉุกเฉิน ด้านระบาดวิทยาและจิตแพทย์ เพื่อลดความเครียดของผู้ที่เดินทางกลับมา เพราะทุกคนเมื่อถึงไทย ต้องเข้ากระบวนการกักตัวดูอาการ 14 วัน ส่วนจะใช้สนามบินใดขึ้นลง และสถานที่ใดกักตัวดูอาการ ขอให้ได้เรียนกับนายกรัฐมนตรีก่อน 


ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การประยุกต์สูตรยารักษาโคโรนาไวรัสนี้ ที่เป็นยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ และยาต้านไวรัสเอดส์ ริโทนาเวียร์ และโลพินาเวียร์ ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีได้ทำและจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงในโรงพยาบาล  รวม  3  คน แต่พบว่า 1 คน มีอาการแพ้ยา จึงหยุด ขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 2 คนที่ยังรับยาอยู่อาการดีขึ้น ซึ่งเกณฑ์การจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่เป็นคนไข้ทั้งหมดทุกรายนั้นไม่สามารถระบุได้ เพราะการรักษาด้วยสูตรยานี้ยังไม่ได้เป็นมาตรฐานการรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และการตัดสินใจ พร้อมต้องติดตามดูแล

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เป็นกระแสตำหนิว่าการรักษาของไทยไม่ใช่ของใหม่นั้น ยืนยันว่าเป็นความบังเอิญของความคิดที่แพทย์ไทย และจีนมีตรงกัน แต่ประยุกต์คนละสูตร โดยจ่ายยาต้านไวรัสเอดส์ ริโทนาเวียร์ รวมกับโลพินาเวียร์วันละ 2 เม็ด 2 เวลา ส่วนโอเซลทามิเวียร์ วันละ 2 เม็ด 2 เวลา ซึ่งสรรพคุณยาต้านเอดส์ช่วยยับยั้งการกระจายตัวของเชื้อ ส่วนยาต้านหวัดช่วยยับยั้งเชื้อที่เข้าไปในเซลล์ โดยโรงพยาบาลราชวิถีเริ่มจ่ายยาต้านไวรัสนี้เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล