1 ก.พ. – หลังจากตั้งตารอรัฐบาลส่งเครื่องบินไปรับคนไทยที่ติดค้างอยู่ในอู่ฮั่น วันนี้มีข่าวดี นายอนุทิน ระบุ จีนไฟเขียวให้บินไปรับคนไทยได้วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการไปรับคนไทยในอู่ฮั่นกลับประเทศว่า หลังจากมีการประสานไปยังจีน ล่าสุดอุปทูตจีนยืนยันแล้วว่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ไทยสามารถบินไปรับคนไทยในอู่ฮั่นได้แล้ว ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่าคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับมีประมาณ 130-140 คน ซึ่งรัฐบาลกำลังตรวจสอบกฎระเบียบการเดินทางว่าจะมีใครไปบ้าง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ยอมรับว่าส่วนตัวอยากไปรับคนไทยในอู่ฮั่นด้วย แต่ต้องพิจารณากรณีหากถูกกักตัว 14 วันตามมาตรฐานกรมควบคุมโรคอาจทำให้กระทบการทำงาน
ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับมาถึงแล้ว ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหากต้องการกลับมาทั้งหมด จำเป็นต้องหาสถานที่รองรับในการกักตัว 14 วัน ซึ่งอาจต้องขอความร่วมมือจากหน่วยทหาร ใช้พื้นที่เฝ้าดูอาการ โดยวันจันทร์นี้ (3 ก.พ.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุม คณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติหารือ
สำหรับการเตรียมตัวของคนไทยในอู่ฮั่นที่พร้อมเดินทางกลับไทย มีขั้นตอน คือ
– เดินทางถึงสนามบินอู่ฮั่น ก่อนเวลา 06.30 น. วันที่ 4 ก.พ.63
– แจ้งชื่อคนขับรถ (สะกดเป็นภาษาอังกฤษ)
– แจ้งหมายเลขบัตรประชาชนคนขับรถ
– แจ้งทะเบียน และสีรถที่จะมาส่ง
ซึ่งข้อมูล เอกสาร และรูป ต้องส่งรายละเอียดผ่านแอพ WeChat ก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้ (2 ก.พ.) นอกจากนี้ บุคคลที่จะเดินทางกลับไทยต้องมี หนังสือเดินทางไทย ลงทะเบียนกลับไทย และส่งเอกสารครบ ส่วนสิ่งสำคัญที่สุด คือ หากอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส ทางการจีนไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่อง
ส่งข้าราชการสถานทูตปักกิ่ง ประสานนำคนไทยออกจากอู่ฮั่น
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ระบุ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่าวันนี้ (1 ก.พ.) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้ส่งข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่งจำนวน 3 คน เดินทางไปอู่ฮั่นเพื่อประสานงาน และอำนวยความสะดวก ในการเตรียมการนำคนไทยออกจากพื้นที่ โดยคาดว่าจะถึงอู่ฮั่นในช่วงเย็นวันอาทิตย์นี้ (2 ก.พ.) และจะปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ส่วนสายการบินที่จะไปรับคนไทยจะเป็นแอร์เอเชียที่มีเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ–อู่ฮั่น ซึ่งสามารถออกเดินทางได้ทุกวัน
สายการบินเซียะเหมินรับบินรับคนจีนจากไทยกลับอู่ฮั่น
ส่วนที่มีประเด็น สำนักข่าวแห่งชาติของจีนเผยแพร่ข้อมูลว่าสายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ รับคนจีนออกจากสุวรรณภูมิ เพื่อกลับอู่ฮั่นนั้น สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พบว่ามีเที่ยวบินออกจากสุวรรณภูมิไปจริง โดยเดินทางในช่วงบ่ายวานนี้ และถึงท่าอากาศยานอู่ฮั่นเวลา 20.50 น. ส่วนที่มีข้อสงสัยทำไมจีน บินมารับคนกลับประเทศได้เร็ว ทั้งที่สนามบินปิดอยู่ ขณะที่ไทยต้องรอจีนส่งสัญญาณรับคนไทยกลับ มีคำชี้แจงว่า สายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่มี SLOT การบินปกติระหว่างสุวรรณภูมิ–อู่ฮั่น แต่สายการบินเปลี่ยนภารกิจให้เป็นชาร์เตอร์ไฟลท์หรือทำการบินแบบเช่าเหมาลำ ตามที่รัฐบาลจีนขอความร่วมมือว่าให้รับผู้โดยสารจีนกลับอู่ฮั่นเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของสายการบินไทยเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้
แท็กซี่ติดเชื้อโคโรนาอาการดีขึ้น
ส่วนกรณีแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ควบคุมล่าช้า แต่ที่ผ่านมาเคยตรวจพบคนไทยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่เมื่อตรวจซ้ำกลับไม่พบ ทำให้ต้องยืนยันผลจากห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อาการคนขับแท็กซี่ดีขึ้นแล้ว แต่ยังอยู่เฝ้าติดตามอาการ ส่วนคนใกล้ชิด 13 คนที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังไม่พบอาการป่วย
ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาในไทยนิ่งอยู่ที่ 19 คน
ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยยังเท่าเดิม คือ 19 คน นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 12 คน 7 คนรักษาหายแล้ว ส่วนผู้ที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนมีอยู่ 344 คน
ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศยืนยันคนไทยในอู่ฮั่นไม่ป่วย
ส่วนคนไทย 161 คนในอู่ฮั่น ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน จนขณะนี้ยังไม่พบใครมีอาการป่วย หรือไม่สบาย
สำหรับความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา นายแพทย์ธนรักษ์ ระบุว่า บอกไม่ได้ว่าใครมีความเสี่ยงสูงกว่ากัน แนะสังเกตและป้องกันตัวเอง เช่น คนขับแท็กซี่ต้องใส่หน้ากากอนามัยเพราะในรถอากาศค่อนข้างปิด ต้องทำความสะอาดรถบ่อยๆ ย้ำใครที่อยู่ในอาชีพที่เสี่ยง ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ใครทำงานสัมผัสกับคนจีนมีไข้ไอเจ็บคอ ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน หากไม่แน่ใจโทร 1422 หรือไปพบแพทย์ตรวจอาการ
หาคำนิยามใหม่ คัดกรองผู้ติดเชื้อให้ชัดเจนขึ้น
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และที่ปรึกษากรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค ระบุหลังจากองค์การอนามัยโลก ประกาศให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านการสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยในไทย เริ่มคัดกรองผู้ป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เมื่อพบแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้ต้องเร่งหารือผู้เชี่ยวชาญปรับเกณฑ์พิจารณาการตรวจคัดกรองผู้ป่วยใหม่ จากเดิมเข้าเกณฑ์ 3 ข้อ
1. เป็นคนจีน มาจากอู่ฮั่น
2. มีไข้ 37.5 องศาฯ
3. มีอาการป่วยทางเดินหายใจ มาเป็นคนไทยทั่วไป ซึ่งการหารือคำจำกัดความต้องสื่อสารเข้าใจง่าย เพราะต้องเป็นกลไกในการตรวจคัดกรองที่ชัดเจน .- สำนักข่าวไทย