Big Story : จีนไฟเขียวบินรับคนไทยได้ 4 ก.พ.นี้

1 ก.พ. – หลังจากตั้งตารอรัฐบาลส่งเครื่องบินไปรับคนไทยที่ติดค้างอยู่ในอู่ฮั่น วันนี้มีข่าวดี นายอนุทิน ระบุ จีนไฟเขียวให้บินไปรับคนไทยได้วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้





นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการไปรับคนไทยในอู่ฮั่นกลับประเทศว่า หลังจากมีการประสานไปยังจีน ล่าสุดอุปทูตจีนยืนยันแล้วว่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ไทยสามารถบินไปรับคนไทยในอู่ฮั่นได้แล้ว ซึ่งเบื้องต้นมีรายงานว่าคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับมีประมาณ 130-140 คน ซึ่งรัฐบาลกำลังตรวจสอบกฎระเบียบการเดินทางว่าจะมีใครไปบ้าง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ยอมรับว่าส่วนตัวอยากไปรับคนไทยในอู่ฮั่นด้วย แต่ต้องพิจารณากรณีหากถูกกักตัว 14 วันตามมาตรฐานกรมควบคุมโรคอาจทำให้กระทบการทำงาน


ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับมาถึงแล้ว ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหากต้องการกลับมาทั้งหมด จำเป็นต้องหาสถานที่รองรับในการกักตัว 14 วัน ซึ่งอาจต้องขอความร่วมมือจากหน่วยทหาร ใช้พื้นที่เฝ้าดูอาการ โดยวันจันทร์นี้ (3 ..) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุม คณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติหารือ

สำหรับการเตรียมตัวของคนไทยในอู่ฮั่นที่พร้อมเดินทางกลับไทย มีขั้นตอน คือ

เดินทางถึงสนามบินอู่ฮั่น ก่อนเวลา 06.30 . วันที่ 4 ..63

แจ้งชื่อคนขับรถ (สะกดเป็นภาษาอังกฤษ)

แจ้งหมายเลขบัตรประชาชนคนขับรถ

แจ้งทะเบียน และสีรถที่จะมาส่ง

ซึ่งข้อมูล เอกสาร และรูป ต้องส่งรายละเอียดผ่านแอพ WeChat ก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้ (2 ..) นอกจากนี้ บุคคลที่จะเดินทางกลับไทยต้องมี หนังสือเดินทางไทย ลงทะเบียนกลับไทย และส่งเอกสารครบ ส่วนสิ่งสำคัญที่สุด คือ หากอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส ทางการจีนไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่อง

ส่งข้าราชการสถานทูตปักกิ่ง ประสานนำคนไทยออกจากอู่ฮั่น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ระบุ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่าวันนี้ (1 ..) สถานเอกอัครราชทูต กรุงปักกิ่ง ได้ส่งข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต กรุงปักกิ่งจำนวน 3 คน เดินทางไปอู่ฮั่นเพื่อประสานงาน และอำนวยความสะดวก ในการเตรียมการนำคนไทยออกจากพื้นที่ โดยคาดว่าจะถึงอู่ฮั่นในช่วงเย็นวันอาทิตย์นี้ (2 ..) และจะปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ส่วนสายการบินที่จะไปรับคนไทยจะเป็นแอร์เอเชียที่มีเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯอู่ฮั่น ซึ่งสามารถออกเดินทางได้ทุกวัน

สายการบินเซียะเหมินรับบินรับคนจีนจากไทยกลับอู่ฮั่น

ส่วนที่มีประเด็น สำนักข่าวแห่งชาติของจีนเผยแพร่ข้อมูลว่าสายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ รับคนจีนออกจากสุวรรณภูมิ เพื่อกลับอู่ฮั่นนั้น สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พบว่ามีเที่ยวบินออกจากสุวรรณภูมิไปจริง โดยเดินทางในช่วงบ่ายวานนี้ และถึงท่าอากาศยานอู่ฮั่นเวลา 20.50 . ส่วนที่มีข้อสงสัยทำไมจีน บินมารับคนกลับประเทศได้เร็ว ทั้งที่สนามบินปิดอยู่ ขณะที่ไทยต้องรอจีนส่งสัญญาณรับคนไทยกลับ มีคำชี้แจงว่า สายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่มี SLOT การบินปกติระหว่างสุวรรณภูมิอู่ฮั่น แต่สายการบินเปลี่ยนภารกิจให้เป็นชาร์เตอร์ไฟลท์หรือทำการบินแบบเช่าเหมาลำ ตามที่รัฐบาลจีนขอความร่วมมือว่าให้รับผู้โดยสารจีนกลับอู่ฮั่นเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของสายการบินไทยเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้

แท็กซี่ติดเชื้อโคโรนาอาการดีขึ้น

ส่วนกรณีแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ควบคุมล่าช้า แต่ที่ผ่านมาเคยตรวจพบคนไทยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่เมื่อตรวจซ้ำกลับไม่พบ ทำให้ต้องยืนยันผลจากห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อาการคนขับแท็กซี่ดีขึ้นแล้ว แต่ยังอยู่เฝ้าติดตามอาการ ส่วนคนใกล้ชิด 13 คนที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังไม่พบอาการป่วย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาในไทยนิ่งอยู่ที่ 19 คน

ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยยังเท่าเดิม คือ 19 คน นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 12 คน 7 คนรักษาหายแล้ว ส่วนผู้ที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนมีอยู่ 344 คน

ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศยืนยันคนไทยในอู่ฮั่นไม่ป่วย

ส่วนคนไทย 161 คนในอู่ฮั่น ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยัน จนขณะนี้ยังไม่พบใครมีอาการป่วย หรือไม่สบาย

สำหรับความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา นายแพทย์ธนรักษ์ ระบุว่า บอกไม่ได้ว่าใครมีความเสี่ยงสูงกว่ากัน แนะสังเกตและป้องกันตัวเอง เช่น คนขับแท็กซี่ต้องใส่หน้ากากอนามัยเพราะในรถอากาศค่อนข้างปิด ต้องทำความสะอาดรถบ่อยๆ ย้ำใครที่อยู่ในอาชีพที่เสี่ยง ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ใครทำงานสัมผัสกับคนจีนมีไข้ไอเจ็บคอ ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน หากไม่แน่ใจโทร 1422  หรือไปพบแพทย์ตรวจอาการ

หาคำนิยามใหม่ คัดกรองผู้ติดเชื้อให้ชัดเจนขึ้น

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และที่ปรึกษากรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค ระบุหลังจากองค์การอนามัยโลก ประกาศให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านการสาธารณสุขระหว่างประเทศ โดยในไทย เริ่มคัดกรองผู้ป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เมื่อพบแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้ต้องเร่งหารือผู้เชี่ยวชาญปรับเกณฑ์พิจารณาการตรวจคัดกรองผู้ป่วยใหม่ จากเดิมเข้าเกณฑ์ 3 ข้อ

1. เป็นคนจีน มาจากอู่ฮั่น 

2. มีไข้ 37.5 องศาฯ

3. มีอาการป่วยทางเดินหายใจ มาเป็นคนไทยทั่วไป ซึ่งการหารือคำจำกัดความต้องสื่อสารเข้าใจง่าย เพราะต้องเป็นกลไกในการตรวจคัดกรองที่ชัดเจน .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.รายงานยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา

24 ก.ค.- “กองทัพบก” อัปเดตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เจ็บ 14 ราย พร้อมประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

วิกฤติหนัก เมืองน่านจมบาดาล ขยายวงกว้างเกือบ 10 กม.

น่าน 24 ก.ค. – น้ำท่วมตัวเมืองน่านยังวิกฤติหนัก หลังน้ำน่านยังเพิ่มสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 แล้วและขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ยังเร่งช่วยเหลือผู้คน รวมทั้งผู้ป่วยออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา

ฉะเชิงเทรา 24 ก.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ทำประชาชนบาดเจ็บ พร้อมส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลเตรียมมาตรการไว้แล้ว ที่อดทนอดกลั้นเพราะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อประชุมติดตามผลการดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ที่ศาลาว่าการจังหวัดฉะเชิงเทรา ถึงกรณี รัฐบาลและกองทัพร่วมกันทำกรอบการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นจุดยืนที่เน้นย้ำมาโดยตลอด แต่ในที่สุดฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็อ้างว่า ฝ่ายไทยยิงก่อนเช่นเดิม แต่ในสายตาของชาวโลกนั้น เรามีเครื่องไม้เครื่องมือที่เยอะกว่า ชาวโลดจะเชื่อถือกัมพูชาคงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทางนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมความพร้อมอย่างดีในการดูแลพี่น้องประชาชน จากการโทรพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการประชุมกันการรับมือกับอาวุธที่มีตรงชายแดนพร้อมนานแล้ว หากเทียบกับสถานการณ์ปี 54 พร้อมมากกว่า 2-3 เท่า ในส่วนของกองทัพ แน่นอนว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่แรกแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางกองทัพเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี สิ่งสำคัญที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ความสามัคคีของคนในชาติ สิ่งที่กองทัพและรัฐบาลพยายามมาโดยตลอดคือ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ คือสิ่งที่ทำมาเสมอ “เรารักคนของเราประเทศชาติของเราเรา ไม่อยากให้ใครก็ตามได้รับผลกระทบหรือความเจ็บปวดในครั้งนี้” แม้เราจะไม่ทราบว่าฝ่ายนั้นเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของเขา แต่เราคิดกับประชาชนเราแบบนี้ เป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพทำมาโดยตลอด ทั้งนี้รักษาการนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ […]

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย