“กลินท์” มองไทย-จีน เป็นคู่ค้าหลักที่สำคัญ

อสมท 1 ก.พ.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองไทยจีนเป็นคู่ค้าหลักที่สำคัญ ชี้แม้มีโรคระบาดแต่การค้ายังดำเนินอยู่ เชื่อหากโรคระบาดเข้าขั้นวิกฤติก็ไม่กระทบมากนัก

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงมิติการค้าไทย-จีนในขณะนี้ว่า การค้าขายยังคงดำเนินการอยู่ แม้ว่าสถานการณ์จะมีเรื่องของไวรัสโคโรนา แต่การค้าขายก็คือการค้าขาย คงไม่มีการหยุดชะงักอะไรไป แต่ขณะเดียวกันไทยเองก็ต้องหาโอกาสว่าขณะนี้จะสามารถค้าขายอะไรใหม่ได้บ้าง ขณะเดียวกัน ยังมีการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยจำนวนมาก ประเทศไทยจึงต้องเตรียมความพร้อมในการรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะเข้ามาลงทุนจากประเทศจีน

ทั้งนี้ นายกลินท์ ยังมองว่าการค้าขายในมิติใหม่คือเรื่องอาหาร หรืออาหารแปปรูป ที่ไทยสามารถผลิตและส่งไปขายในจีนได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดโรคระบาด จีนมีความต้องการหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ซึ่งหากไทยผลิตเพียงพอก็สามารถส่งไปขายได้

เมื่อถามว่า หากสถานการณ์โรคระบาดในจีนเลวร้ายลงจนถึงขั้นปิดประเทศจะกระทบกับการส่งออกหรือไม่ มองว่า สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง ยังไงการค้าขายก็สามารถดำเนินต่อไปได้ ประเทศไทยมีการค้าขายกับประเทศจีนอยู่แล้ว เพราะไวรัสเกี่ยวกับเรื่องคน ไม่ได้เกี่ยวกับการค้าขาย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศต่างเป็นคู่ค้าหลักระหว่างกัน จึงมั่นใจว่าในอนาคตก็จะไม่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อกันมากนัก

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังกล่าวถึงเศรษฐกิจรอบภูมิภาคอาเซียนในช่วงครึ่งปีแรกว่า น่าจะยังไม่คึกคักมากนัก แต่ก็ต้องเตรียมพร้อม ซึ่งคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกโดยมีปัจจัยมาจากงบประมาณที่น่าจะสามารถนำออกมาใช้ได้แล้ว การลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มาจากประเทศจีน และหลายโรงงานที่ได้ก่อสร้างไปเมื่อปีที่ผ่านมาในปีนี้ก็สามารถทำการส่งออกได้ ขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงก็คาดว่าจะทำให้การส่งออกง่ายขึ้น.-สำนักข่าวไทย