fbpx

ใช้เครนยกซากยีราฟนำไปผ่าพิสูจน์

ฉะเชิงเทรา 30 ม.ค.-เจ้าหน้าที่ใช้เครนยกซากยีราฟที่จมน้ำตายในบ่อบัวริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม เพื่อนำไปผ่าพิสูจน์ หาสาเหตุการตายที่แน่ชัด ก่อนนำไปฝังตามขั้นตอน


เจ้าหน้าที่นำซากยีราฟขึ้นจากคลอง หลังวันนี้พบจมน้ำตายในบ่อบัวหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม โดยยีราฟตัวดังกล่าวหลุดจากรถบรรทุก ระหว่างขนย้ายไปศูนย์เพาะเลี้ยง จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาเกือบ 2 วันเต็ม ช่วงที่พบยีราฟเริ่มขึ้นอืดและส่งกลิ่นเหม็น


ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ระดมกำลังตามหายีราฟตลอด 2 วันเต็ม จนมาถึงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 คน ค้นหายีราฟจากจุดที่พบยีราฟครั้งสุดท้าย เมื่อเวลาเที่ยงคืนเศษของวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอำเภอบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากสี่แยกไฟแดงบางคล้าประมาณ 2 กิโลเมตร โดยให้เจ้าหน้าที่เดินแนวราบหน้ากระดานประมาณ 6 คน เข้าไปในป่าหญ้าและท้องนา เพื่อค้นหารอยเท้าของยีราฟ พร้อมสำรวจรอยเท้าตามบ่อน้ำและแหล่งน้ำใกล้เคียง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ่อกุ้งและบ่อปลาของชาวบ้าน เพื่อดูว่ามีร่องรอยของยีราฟหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงว่ายีราฟจะเดินตกบ่อน้ำที่มีความลึกแล้วเป็นอันตราย พร้อมกันนี้ยังมีการนำพารามอเตอร์จำนวน 10 ลำ บินในรัศมี 10 กิโลเมตร บินโดยรอบพื้นที่ คู่ขนานกัน ก่อนจะถอนกำลังและกลับมาวางแผนในช่วงบ่าย


เจ้าหน้าที่ใช้เวลาวางแผนกับหน่วยงานราชการในพื้นที่และบริษัท ซาฟารีเวิลด์ นานกว่าชั่วโมงก่อนจะลงพื้นที่ปฏิบัติการค้นหาต่อในช่วงบ่าย และได้ข้อสรุปว่าจะนำทีมเจ้าหน้าที่ของซาฟารีเวิลด์มาเสริมทัพรวมกว่า 55 คน และกู้ภัยฉะเชิงเทรา 40 คน แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยจะให้เจ้าหน้าที่เดินเป็นระนาบแนวหน้ากระดานเช่นเดิม โดยให้แต่ละคนจะยืนห่างกัน 5 – 10 เมตร ออกเดินเท้าค้นหาตามพื้นที่ป่า 2 ฝั่งถนน 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม ในรัศมีฝั่งละ 1 กิโลเมตร ฝั่งแรกจะเดินไปจนถึงคลองคูแดน ส่วนอีกฝั่งจะเดินไปจนสุดคลองแปลงยาว ซึ่งฝั่งนี้จะเป็นฝั่งเดียวกับโรงแรม พร้อมนำพารามอเตอร์ อีก 7 ลำ ขึ้นบินสำรวจควบคู่กัน ก่อนที่จะลงพื้นที่ปฏิบัติการค้นหายีราฟช่วงบ่าย ได้รับแจ้งว่าพบยีราฟแล้ว บริเวณคลองบัว หน้าโรงแรม ลอยอืดส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งผู้พบคือทีมของบริษัทซาฟารีเวิลด์ 

นายดวง คิ้วคชา ผู้จัดการสำนักวิจัยและอภิบาลสัตว์ ของศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ ซาฟารีเวิลด์ ยอมรับยีราฟหลุดครั้งนี้เกิดจากอุบัติเหตุจากการขนย้าย รถโฟล์คลิฟท์ไปโดนตัวล็อกบริเวณด้านข้างกล่องทำให้ตัวล็อกอาจจะงอ ประกอบกับขณะที่รถวิ่ง ทำให้รถเขย่า ตัวล็อกเลยเปิด จึงทำให้ยีราฟหลุดออกจากกล่อง ก่อนหน้านี้เคยขนย้ายสัตว์หลายครั้ง แต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ยีราฟตัวที่ตายอายุ 3 ปีกว่า สูงประมาณ 3 เมตร ยอมรับขนยีราฟทั้งหมด 68 ตัว มาจากแอฟริกา ซึ่งตัวที่เหลือปลอดภัย ยืนยันทำการขนย้ายตามมาตรฐาน ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินยีราฟทุกตัวแข็งแรงดี ถ้าให้ประเมินมูลค่าของสัตว์ไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากมีคุณค่าทางจิตใต ยีราฟมีค่ามากกว่าจะประเมินค่าได้ ระหว่างที่ยีราฟหายตัวเข้าป่า ทีมงานทำงานอย่างเต็มที่ พยายามค้นหายีราฟอย่างต่อเนื่อง จังหวะที่ยีราฟสองตัวหลุดมีการยิงยาสลบ และนำตัวแรกไป จ.ปราจีนบุรี ได้ ส่วนตัวนี้ ยิงยาสลบเช่นกัน จำนวน 3 ดอก ในขณะที่ยีราฟวิ่งบนทุ่งนาฝั่งตรงข้ามโรงแรม แต่โดนที่ขาซ้ายด้านหน้า 1 ดอกเท่านั้น ปกติยาสลบจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว ในเวลา 3 นาที ซึ่งยาสลบนี้เป็นยาสำหรับสัตว์ป่า แต่ยีราฟตัวนี้ที่วิ่งได้อยู่ อาจเป็นเพราะลูกดอกไม่ตั้งฉาก ทำให้ยาไปอยู่ในส่วนกล้ามเนื้อบางส่วนเท่านั้นจึงออกฤทธิ์ไม่มาก ส่วนพฤติกรรมของยีราฟจะเป็นสัตว์ไม่เข้าใกล้แหล่งน้ำ จะเดินหน้าอย่างเดียว เดินถอยหลังไม่ได้ สาเหตุคาดว่าตกลงบ่อบัวเพราะยีราฟอาจตกใจประกอบกับเป็นช่วงมืดทำให้มองไม่ชัดเลยตกน้ำตาย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่พยายามช่วยกันปฏิบัติภารกิจค้นหายีราฟกว่า 2 วันเต็ม เผยว่าได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเจ้าของบริษัท ก่อนจะเดินทางมาจุดที่พบ ดูจากซากยีราฟแล้ว คาดว่าน่าจะตายตั้งแต่วันที่หลุดจากกรง 28 มกราคมที่ผ่านมา เพราะส่งกลิ่นเหม็นและขึ้นอืดแล้ว จุดที่ยีราฟตายนี้ก่อนหน้านี้มีคลิปหลุดออกมาว่ามีรถเก๋งพบยีราฟ กำลังข้ามถนนช่วงเวลาเกือบตีหนึ่ง ส่วนสาเหตุที่ตายคาดว่ายีราฟวิ่งข้ามถนนมาแล้ว ลงมาถึงคลองและจะวิ่งข้ามคลองแต่ไม่พ้น จึงตกคลองและดิ้นทุรนทุรายก่อนตาย เพราะมีร่องรอยการตะกุยหญ้าตะกุยบ่อ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำรถเครนขนาดใหญ่มายกซากยีราฟ เพื่อนำไปผ่าพิสูจน์โดยทีมสัตวแพทย์ของบริษัทซาฟารี ที่ศูนย์เพาะเลี้ยง ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อหาสาเหตุของการตายที่แท้จริงก่อนจะนำไปฝัง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สิ้นสุดการค้นหา! ยีราฟตายแล้วในคูบัวริมถนนบางคล้า-แปดริ้ว

• ยีราฟตายแล้ว! พบซากในคลองริมถนนสาย 304

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553