นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถก ก.ตร. บิ๊กช้างโผล่ร่วมประชุม

กรุงเทพฯ 29 ม.ค.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะถก ก.ตร. บิ๊กช้างโผล่ร่วมประชุม ในฐานะคณะกรรมการ ก.ตร. หลังโดนเด้งเข้ากรุ ศปก.ตร.


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 1/2563 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ อาทิ การเยียวยาคืนสิทธิการเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะห้วงที่มิได้ปฏิบัติราชการ พร้อมทั้งขออนุมัติเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายให้แก่ พ.ต.ท.สมยศ ตรีประสิทธิ์ชัย ,ตร.หารือกรณีให้สิทธิข้าตำรวจที่ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสำนวนอัยการและให้ความเห็นทางกฎหมายเพื่อได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ที่ทำหน้าที่นิติกร ,อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ หารือปัญหาข้อกฎหมายกรณี พ.ต.ท.วทัญญู วิทยผโลทัย ร้องทุกข์ ,อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ หารือปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของ จตช.ในการออกคำสั่ง ศปก.ตร. และอำนาจการส่งตัวข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดวินัยเรื่องทรงผมไปเข้ารับการฝึกธำรงวินัย กรณี พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ร้องทุกข์ ,ตร. หารือปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับวิธีการสอบสวนตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2557 ,เรื่องอื่นๆ ถ้ามี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงเสร็จสิ้น 

พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีหารือปัญหาข้อกฎหมายกรณี พันตำรวจเอกวทัญญู วิทยผโลทัย ได้ร้องทุกข์เมื่อปี 2561 ว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของสันติบาล มีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงโดยไม่ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อนนั้น น่าจะเป็นคำสั่งที่มิชอบ อนุร้องทุกข์ได้พิจารณานำเสนอ ก.ตร. แล้วส่งเรื่องให้อนุกฎหมายพิจารณา วันนี้ได้ข้อสรุปจากอนุกฎหมาย ประเด็นแรกเรื่องการตั้งกรรมการสืบสวนร้ายแรงโดยไม่ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนทำได้หรือไม่ ซึ่งทางอนุกฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ไว้ว่า สามารถกระทำได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติมาตรา 84 และ 86 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ข้อ 3 กรณีมีการกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัยร้ายแรง จะสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีมูลเพียงพอที่จะตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงหรือไม่ ในกรณีนี้แสดงว่าผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมีความเห็นว่ามีมูล ประเด็นต่อมาถ้าพิจารณาว่ามีมูลเพียงพอหรือไม่ ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐาน ดังนั้นหากเห็นว่ามีมูลเพียงพอในข้อเท็จจริงก็สั่งการได้ โดยสรุป ก.ตร. ตอบกลับไปว่าการดำเนินการที่ตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงโดยไม่สืบสวนข้อเท็จจริงก่อนนั้น สามารถทำได้ตามกฎหมาย


พลตำรวจโทปิยะ กล่าวอีกว่า อีกกรณีที่ พันตำรวจเอกไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ร้องทุกข์เมื่อปี 61 ว่า พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้นขณะดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ ได้ออกคำสั่งให้ พันตำรวจเอกไพรัตน์ มาฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยร้องทุกข์มา 3 ประเด็น เรื่องแรกจเรตำรวจแห่งชาติในขณะนั้นมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจมาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. ได้หรือไม่ ได้ข้อสรุปว่าพลตำรวจเอกสุชาติ ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศปก.ตร. ตามคำสั่งของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นจึงมีอำนาจให้ข้าราชการตำรวจมาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. ได้ ประเด็นที่ 2 เมื่อมาอยู่ ศปก.ตร. จเรตำรวจแห่งชาติสามารถส่งตัวไปฝึกธำรงวินัยได้หรือไม่ กรณีดังกล่าวจเรตำรวจแห่งชาติได้อนุมัติจาก ตร. ว่ากรณีถ้าเห็นว่ามีโครงการเพิ่มพูนประสิทธิภาพก็สามารถส่งไปได้ และประเด็นที่ 3 เมื่อจเรตำรวจแห่งชาติพบการกระทำความผิดของข้าราชการตำรวจแล้วดำเนินการทางวินัยได้หรือไม่นั้น กรณีกฎหมายกำหนดไว้ว่ากรรมการดำเนินการทางวินัยเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา เมื่อจเรตำรวจพบการกระทำผิดของข้าราชการตำรวจ ก็ส่งเรื่องไปทางต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยอยู่แล้ว 

มีรายงานว่า พลตำรวจเอกชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกย้ายขาดจากตำแหน่งเดิม ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. ยังคงเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ในฐานะคณะกรรมการ ก.ตร. รวมถึงป้ายชื่อที่เขียนกำกับที่นั่งก็ยังระบุว่าเป็น รอง ผบ.ตร.(สส) ด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่าแม้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ จะไม่ได้รับผิดชอบหน้างานสืบสวนสอบสวนแล้ว แต่ยังคงทำหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง และผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง

ขณะที่พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ก่อนหน้านี้มีคำสั่ง ให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี วันนี้ไม่ได้มาร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดภารกิจที่สำนักนายกรัฐมนตรี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย

จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

แพร่ 28 ก.ค.-จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึก พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชน แต่ในระหว่างอพยพ กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังข้ามน้ำถูกพัดออกไปติดอยู่อีกฝั่ง โชคดีชาวบ้านโยนเชือกช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะน้ำเมื่อคืนไหลแรงมาก ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน มีรถยนต์ ของใช้ที่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับฝนที่ตกลงมาใน จ.แพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลห้วยโรง และตำบลไผ่โทน เมื่อเวลา 20.00 น. มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด 130 มม. สำหรับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ Y20 สถานีวัดระดับน้ำบ้านห้วยสักวัดได้ 7.58 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.00 ม. เมื่อตอนเวลา 22.00 น. หากฝนยังคงตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำยมสูง อาจส่งผลให้น้ำท่วมระลอกที่ 2 ได้.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สนามหลวง 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ และภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรแด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ก่อนจะตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร 174 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย จากนั้น เวลา 08.00 น. รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]