สอบเครียด “เสือโหย” ผู้ต้องหาคดีข่มขืน ชาวบ้านโล่งใจจับได้

สุราษฎร์ธานี 29 ม.ค. – ตำรวจสอบเครียด “เสือโหย” นานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวเข้าห้องขังโรงพัก เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เตรียมฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ชาวบ้านโล่งอกหลังจับเสือโหยได้ 


ความคืบหน้ากรณีนายอนุสรณ์ สมบุญ ฉายา “เสือโหย” อายุ 33 ปี ก่อเหตุพยายามข่มขืน ขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายชาวบ้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 และลักทรัพย์ในเคหสถาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังทั้งตำรวจ กำลังฝ่ายปกครอง พร้อมผู้นำชุมชน รวมกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมพื้นที่บริเวณเทือกเขาราหู อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 ม.ค.) ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอคีรีรัฐนิคม  สามารถควบคุมตัวนายอนุสรณ์ สมบุญ หรือเสือโหย ได้ขณะนอนหลับในเปลที่ผูกอยู่กลางป่าบนเขาแดงราม โดยทางเสือโหยไม่รู้ตัวหลังจากถูกควบคุมตัวก็มีอาการตกตะลึงและงุนงง จึงไม่ได้มีการต่อสู้ขัดขืนแต่อย่างใด 


จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวลงจากเขามาสอบปากคำ ณ ที่ว่าการอำเภอคีรีรัฐนิคม นายอนุสรณ์มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ แววตาค่อนข้างก้าวร้าวกับการที่ถูกจับกุมตัว เจ้าหน้าที่สอบสวนอย่างเคร่งเครียด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยมีแม่และน้องๆ ของเสือโหยมาเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด 


ชาวบ้านหลังทราบข่าวเสือโหยถูกจับ ต่างเดินทางมาที่ว่าการอำเภอกันจำนวนมาก ชาวบ้านบอกว่ารู้สึกสบายใจขึ้นมาก หลังจากวิตกกังวลและหวาดกลัวกลางคืนลูกหลานไม่กล้าไปกรีดยาง

ด้านน้องสาวเสือโหยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มันไม่แปลกที่คนเราทำความผิด แต่ขอให้ทุกคนดูสิ่งที่เป็นความเป็นจริง และขอความเป็นธรรมจากโลกโซเซียลให้พี่ด้วย บางคนพิมพ์ข้อความโดยไม่รู้ความจริง ไม่ใช่เห็นว่าประวัติไม่ดีก็ซ้ำเติม แม้กระทั่งตนเองมีหน้าที่การงานรับราชการ ก็ถูกโจมตีว่าส่งข้าวส่งน้ำให้พี่ชาย ซึ่งความจริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง วอนสังคมให้มองเจาะไปลึกๆ ไม่ใช่ตามกระแส โดยเฉพาะโลกโซเซียล คดีของพี่ชายไม่ใช่ร้ายแรงอะไรมากมาย 

ขณะที่ พ.ต.ท.วิโรจน์ ยิ่งดำนุ่น รอง ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคม หัวหน้างานสอบสวน กล่าวว่า วันนี้สอบสวนเพิ่มเติม และคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน

นางพรพัฒน์อิน อายุ 53 ปี แม่ของนายอนุสรณ์ นำอาหารเช้ามาให้ลูกชายที่ห้องขัง พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายบอกเมื่อคืนขณะถูกจับมี อส.ปลดพระเครื่องหลวงพ่อนุ้ย ไปจากคอของลูกชาย วอนขอเหรียญหลวงพ่อนุ้ยคืน เรื่องอื่นไม่ติดใจ แต่ยอมรับว่าเมื่อวานมีอาการเครียดจัด เนื่องจากได้รับกระแสข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่เจอตัวลูกชายที่ไหนจะวิสามัญ แต่วันนี้สบายใจขึ้นมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวลูกชายมาอย่างปลอดภัย ส่วนคดีความ ขอให้ดำเนินการไปตามความผิด

สำหรับฉายา “เสือโหย” ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เสือโหยเด็กๆ ไปทำสวนทำไร่กับแม่ แล้วไปขโมยข้าวห่อของเพื่อนบ้านกินด้วยความหิวโหย ก่อคดีลักทรัพย์เล็กๆ น้อยมาเรื่อย จนถูกจับและส่งตัวเข้าสถานพินิจฯ เมื่อออกจากสถานพินิจฯ กลับมาอยู่บ้านก่อคดีลักทรัพย์อีก จนเข้าสู่วัยหนุ่มได้เด็กสาวชาวอีสานอายุไม่ถึง15 ปี เป็นภรรยา แต่พ่อแม่เด็กไม่ยอม จึงแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ และพาครอบครัวกลับอีสาน “เสือโหย” จึงติดคุกทั้งที่ทั้งคู่รักกันมาก ด้วยความที่ชอบเด็ก หลังออกจากคุกจึงมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปมักจะก่อเหตุพยายามข่มขืนผู้หญิง. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

จับแล้ว “เสือโหย” ข่มขืนผู้หญิงต่อเนื่อง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]