คุมผู้ต้องหาทำแผนชิงทองกว่า 1.3 ล้านบาท ย่านบางบัวทอง

นนทบุรี 28 ม.ค. – ตำรวจนนทบุรีนำตัวผู้ต้องหาบุกชิงทองกว่า 1.3 ล้านบาท ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาอ้างก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้ธุรกิจรถถมดิน


พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวนายอภิเชษฐ์ กรพิทักษ์ อายุ 33 ปี นักธุรกิจรับเหมาถมดิน ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชเอ็มโกลด์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยก่อนทำแผนฯ เจ้าหน้าที่ได้นำรถเก๋งสีดำ หมายเลขทะเบียน ฌก-4393 กทม. ขับมาจอดภายในซอยใกล้กับร้านทอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายอภิเชษฐ์ ขึ้นรถตู้มาที่เกิดเหตุ  


จุดแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจพานายอภิเชษฐ์ไปชี้จุดที่จอดรถยนต์ จุดที่ 2 ภายในร้านทอง นายอภิเชษฐ์ได้แสดงท่าทางประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากทำทีเป็นขอดูสร้อยทอง ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมาจากเอว แล้วบังคับให้พนักงานร้านทองหยิบถาดใส่ทองมาให้ ก่อนที่นายอภิเชษฐ์จะเดินเข้าไปภายในร้าน หยิบเอาทองอีกจำนวนหนึ่งใส่กระเป๋า จุดสุดท้าย นายอภิเชษฐ์ได้แสดงท่าใช้อาวุธปืนยิงใส่กระจกประตูร้านทองจนแตก ก่อนจะหลบหนีไป  


หลังทำแผนเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอภิเชษฐ์ ขึ้นรถตู้กลับทันที โดยผู้สื่อข่าวพยายามที่จะสัมภาษณ์นายอภิเชษฐ์ ผู้ต้องหา ถึงสาเหตุที่ลงมือใช้อาวุธชิงทองในครั้งนี้ แต่นายอภิเชษฐ์ ซึ่งมีอาการเคร่งเครียด ไม่ยอมให้สัมภาษณ์

พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า นายอภิเชษฐ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง เพื่อจะนำทองไปขาย แล้วนำเงินมาใช้หนี้สินเกี่ยวกับธุรกิจรถถมดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยึดสร้อยคอทองคำ น้ำหนักรวม 59 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 1.3 ล้านบาท โดยตามยึดได้ที่บ้านของนายอภิเชษฐ์ ผู้ต้องหา ส่วนเพื่อนที่นำทองไปขาย ต้องดูที่เจตนาว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลาง ทั้งสร้อยทอง และเงินสด มาได้ครบหมดแล้ว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อไป

โดยเมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ระดมกำลังจับกุมนายอภิเชษฐ์ ขณะกำลังขับรถเก๋ง บนถนนกาญจนาภิเษก ช่องทางคู่ขนาน มุ่งหน้าไป จ.สุพรรณบุรี หลังจากนายอภิเชษฐ์ก่อเหตุบุกใช้ปืนพกสั้นจี้ชิงทอง ที่ร้านทองเยาวราชเอ็มโกลด์ ในหมู่บ้านบัวทอง ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด โดยขณะเข้าจับกุม นายอภิเชษฐ์ อยู่ในอาการลักษณะคล้ายคนเมา พูดจาวกวน และฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดตลอดเวลา ก่อนถูกนำตัวไปขยายผลค้นบ้านพักที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”