วุฒิสภารับทราบรายงานการดำเนินการตามแผนปฏิรูปของรัฐบาล

รัฐสภา 28 ม.ค.-วุฒิสภารับทราบรายงานการดำเนินการตามแผนปฏิรูปของรัฐบาล แนะเร่งปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันนี้ (28 ม.ค.) มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณารับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2562) ของคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศและการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา จำนวน 26 คณะ ร่วมอภิปรายตามหน้าที่และอำนาจที่เกี่ยวข้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ

โดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี มารายงานความคืบหน้าในการทำงานในรอบเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2562 ซึ่งเป็นการทำงานในรอบระยะเวลาที่ผ่านมาของรัฐบาล โดยทุกข้อเสนอและความเห็นรัฐบาลก็จะนำไปปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศให้มีประสิทธิภาพ พร้อมชี้แจงถึงสถานะของแผนการปฏิรูปประเทศที่มีการกำหนดเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 คือแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระดับที่ 2 คือแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่ระดับที่ 3 จะเป็นแผนระดับปฏิบัติการ


นายเทวัญ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการปฏิรูปประเทศที่จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อกำหนดเป้าหมายในแต่ละช่วง ซึ่งในระยะ 5 ปีนี้จะเป็นการแก้ไขประเด็นปัญหาเร่งด่วนเพื่อให้รากฐานการพัฒนามีความมั่นคง พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเป็นการมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเปลี่ยนกระบวนการกลไก กฎระเบียบที่สำคัญเพื่อให้การดำเนินงานของทุกภาคส่วนสะดวกและมีประสิทธิภาพบรรลุผลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งในรายละเอียดของแผนการปฏิรูปประเทศ ได้มีการกำหนดผลสัมฤทธิ์และกำหนดหน่วยงานในการรับผิดชอบ เพื่อจะนำแผนดังกล่าวขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

นายเทวัญ ยังกล่าวถึงการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ว่า ได้มีการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการปรับกิจกรรมที่คัดเลือกเฉพาะที่ส่งผลต่อประชาชน รวมทั้งการทบทวนกฎหมายภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ โดยมีการเลือกกฎหมายที่มีความสำคัญและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล รวมถึงการทบทวนข้อเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีและพิจารณาความเห็นของหน่วยงาน ที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ สมาชิกได้อภิปรายในประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับการติดตามการปฏิรูปของรัฐบาล อาทิ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา ได้เสนอแนะเร่งรัดการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องการแจ้งความร้องทุกข์นอกพื้นที่ ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ดี แต่เกรงว่าในทางปฏิบัติจะเกิดปัญหา เพราะทุกท้องที่ต้องทำความเข้าใจเรื่องเขตอำนาจของการสอบสวน รวมถึงห้ามนำผู้ต้องหาออกแถลงต่อสื่อมวลชนเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่กลับนำข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏบนโลกโซเซียลมีเดีย ถือว่าขัดแย้งกันในทางปฏิบัติและพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ยังไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 จึงต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว นอกจากนี้ สังคมไทยยังประสบปัญหาล่าช้าในกระบวนการยุติธรรม หากต้องการให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ต้องเริ่มแก้ตั้งแต่บันไดขั้นแรก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก โดยต้องมีระบบร้องเรียนที่มีการทบทวนทุก 3 ปี ดังนั้นควรเร่งรัดให้รีบเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร