ภูมิภาค 28 ม.ค. – ค่าฝุ่นพิษเมืองน่านพุ่ง 111 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร หมอกควันไฟปกคลุมกระจายทั่วบริเวณ เหตุเผาพื้นที่ทางการเกษตร ส่วนที่ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ วิกฤติติดต่อกันมา 3 วันแล้ว ค่า PM 2.5 เช้านี้ สูงถึง 313 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
สภาพอากาศ จ.น่าน ในช่วงเช้าวันนี้ (28 ม.ค.) แม้ว่าจะมีอากาศหนาวเย็นสบาย แต่พบว่าชาวบ้านไม่สามารถออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ เนื่องจากยังมีหมอกควันไฟปกคลุมกระจายไปทั่วบริเวณ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองน่าน ได้นำเครื่องฟอกอากาศมาติดตั้งไว้ภายในห้อง เพื่อกรองอากาศ ป้องกันและลดอาการเจ็บป่วยจากสภาพอากาศย่ำแย่ในเด็กเล็ก
จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพื้นที่ วันนี้ยังพบค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองอยู่ในระดับวิกฤติในระดับสีแดง เกินมาตรฐาน สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่สำนักงานเทศบาลเมืองน่าน วัดค่าเฉลี่ยฝุ่น PM 2.5 ได้ 111 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สถานีตรวจวัด ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ วัดได้ 67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักที่ควันไฟทั่วเมือง เกิดจากเกษตรกรเร่งปรับพื้นที่ด้วยการเผาเศษวัสดุทางเกษตรเหลือใช้ในไร่นา เพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตรรอบใหม่ วันเดียวพบจุดความร้อน 84 จุด กระจายในทุกอำเภอ และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น
ดอยเต่า เชียงใหม่ PM 2.5 สูง 313 มคก./ ลบ.ม.
ขณะที่หมอกควันใน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ยังวิกฤติ ติดกันมาเป็นวันที่ 3 ค่ามลพิษหรือ PM 2.5 เช้าวันนี้ เวลา 07.00 น. บริเวณ อบต.บงตัน สูงถึง 313 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ระดับที่น้ำตาลเข้ม พื้นที่ อบต.บ้านแอ่น PM2.5 วัดค่าได้ 195 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่ตำบลท่าเดื่อวัด 174 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์
ค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ ต.ศรีภูมิ ในตัวเมืองเชียงใหม่ PM2.5 จ่อจุดวิกฤติ เช้านี้อยู่ที่ 49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เริ่มมีผลกระทบประชาชน ทั้งนี้ พื้นที่ทางตอนใต้ของเชียงใหม่ ยังคงมีการลักลอบเผาป่าอย่างต่อเนื่อง กระจายในหลายอำเภอ ทั้งพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ รวมถึงพื้นที่ ส.ป.ก. แม้ทางจังหวัดจะประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกพื้นที่ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ทั้งที่มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตร.จราจรแจกหน้ากากอนามัยรณรงค์ลดปัญหามลพิษ
กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจและตระหนักถึงปัญหามลพิษทางอากาศ PM 2.5 และร่วมกันรักษาสุขภาพโดยการสวมหน้ากากอนามัย พร้อมแจกจ่ายหน้ากากอนามัย 600 ชิ้น และให้ความรู้ในเรื่องปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM2.5 รวมทั้งวิธีการที่ทุกคนจะช่วยลดปัญหามลพิษให้กับสังคมได้ เช่น จอดรถไม่ติดเครื่องยนต์ค้างไว้ หรือการนำรถยนต์ตรวจสภาพเป็นประจำ. – สำนักข่าวไทย