นราธิวาส 20 ม.ค. นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่นราธิวาส สักการะเจ้าแม่โต๊ะโมะ สั่งผู้ว่าฯ เร่งจัดทำแผนพัฒนาสามเหลี่ยมมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน เผย ยังไม่พอใจ แม้เหตุรุนแรงในพื้นที่จะลดลง ขอผู้นำศาสนาช่วยทำความเข้าใจกับประชาชน ย้ำปัญหาในประเทศไม่อยากให้ต่างชาติเข้ามา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี และคณะ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนากรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมา จ.นราธิวาส เพื่อติดตามการทำงานของรัฐบาล
จุดแรก นายกรัฐมนตรีเดินทางไปสักการะเจ้าแม่โต๊ะโมะ ที่ ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อธิฐานขอพรให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข มีความปลอดภัย คิดหวังสิ่งใดขอสำเร็จทุกอย่าง จากนั้นได้พบปะกับประธานมูลนิธิเจ้าแม่โต๊ะโมะ และตัวแทนสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน 4 สมาคม สมาคมฮกเฮี้ยน สมาคมแต้จิ๋ว สมาคมแคระ สมาคมไหหลำ และสมาคมอิสลามสุไหงโก-ลก
นายกรัฐมนตรีได้สอบถามประวัติความเป็นมาของศาลเจ้า พร้อมแสดงความเป็นห่วงทุกคน และกล่าวชื่นชมว่า บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อยดี ขอให้ร่วมมือกันเดินหน้าพัฒนาประเทศ เพราะรัฐบาลไม่สามารถทำได้ฝ่ายเดียว นายกรัฐมนตรียังได้รับเหรียญเจ้าแม่โต๊ะโมะรุ่น 1 ปี 2515 เป็นของที่ระลึกด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังอาคารรื่นอรุณ อ.สุไหงโกลก พบปะประชาชนชาวสุไหงโกลก พร้อมกล่าวว่า ตนเป็นทหารมา ก่อนอาจจะพูดจาไม่ไพเราะ แต่มีความจริงใจและใจดี การเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการมาติดตามการทำงานของภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลกำลังกำลังดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
“ขณะนี้ทุกคนถือเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับผม ผมมีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น เมื่อมีปัญหาภายในครอบครัว ก็ต้องแก้ไขปัญหากันเอง ไม่ควรให้ต่างประเทศเข้ามาแก้ไขปัญหาให้” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แม้จำนวนการเกิดเหตุลดลง แต่ตนก็ยังไม่ค่อยพอใจ เพราะมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอยู่ และเรื่องไม่ความปลอดภัยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา จึงต้องการให้ผู้นำศาสนาไปทำความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล ไม่ให้เกิดการบิดเบือน ปลุกปั่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่การค้าชายแดน ขอให้ภาคธุรกิจหาช่องทางการตลาด หรือขายสินค้าตามความต้องการของต่างประเทศให้ได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการซื้อขายระหว่างกัน เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สำหรับภาคการประมงและเกษตรกรรมในพื้นที่ ถือว่ามีการพัฒนาเดินหน้าไปได้ที่ดี และต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดดำเนินการเสนอแผนการทำงานของสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มายังรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลมีแผนที่จะแก้ไขปัญหาและปรับการทำงานเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้เป็นระบบมากขึ้น โดยจะให้ทุกจังหวัดไปสำรวจแผนงานและโครงการ ทั้งคู คลอง อ่างเก็บน้ำ และระบบชลประทาน เพื่อให้ทุกโครงการสามารถเชื่อมโยงกันได้ เหมือนเป็นเส้นเลือดในร่างกาย ถ้าทำได้จะเพิ่มขีดความสามารถด้านการแก้ไขน้ำท่วมและน้ำแล้ง อีกทั้ง จะช่วยให้ภาคการเกษตรของไทยมีน้ำโดยใช้ในการประกอบอาชีพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ ส.ส.ในพื้นที่อย่าทิ้งประชาชน และประชาชนอย่าทิ้ง ส.ส. โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล สำหรับพรรคการเมืองอื่น รัฐบาลก็พร้อมดูแล ถ้าเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้องและเป็นไปได้ ตนไม่สามารถรังเกียจใครได้ เพราะประชาชนเป็นผู้เลือกเข้ามาตามวิถีทางประชาธิปไตบ และย้ำว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองใด นายกรัฐมนตรีก็ต้องดูแล ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และนอกพื้นที่ จำนวน 18 คนมาร่วมลงพื้นที่พบปะประชาชนพร้อมกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆด้วย โดยให้เหตุผลเป็นการมาติดตามการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ของกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร .- สำนักข่าวไทย