กทม. 16 ม.ค.- กกต.ยกคำร้อง “ชนม์สวัสดิ์” ถูกกล่าวหาใช้อิทธิพลช่วยผู้สมัคร ส.ส. ครอบงำ ชี้นำกิจกรรม พปชร. ส่งศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัคร ตัดสิทธิเลือกตั้ง ดำเนินคดีอาญาประธานกลุ่มสตรี และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร้อยเอ็ด จ่ายเงิน 200 จูงใจชาวบ้านฟัง “รัชนี พลซื่อ” ผู้สมัคร พปชร.ปราศรัย
วันนี้ ( 16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน กกต. ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ยกคำร้องกรณี น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.เขต 3 สมุทรปราการ พรรคพลังประขารัฐ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และพรรคพลังประชารัฐ ถูกกล่าวหา หลอกลวง ใช้อิทธิพลคุกคามเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งให้กับตน และกระทำการควบคุม ครอบงำ ชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกขาดอิสระในการดำเนินกิจการพรรค โดย กกต. เห็นว่ารายงานการไต่สวนและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเห็นว่าที่มีการอ้างว่า น.ส.ภริม ใช้รถยนต์โฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง โดยปรากฏเสียงคำพูดของนายชนม์สวัสดิ์ และมีการอ้างผลของ อบจ.สมุทรปราการเป็นผลงานของพรรคพลังประชารัฐนั้น ผู้ร้องและพยานของผู้ร้องเป็นเพียงพยานบอกเล่า ไม่ทราบแน่ชัดว่าวันเวลา สถานที่รวมถึงข้อความที่เป็นการหลอกลวง และข้อความในแผ่นพับหาเสียงของ น.ส.ภริม ที่จัดทำโดยพรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นข้อความที่จะผลักดันการทำงานตามแนวทางที่ อบจ.สมุทรปราการดำเนินการไปแล้วเท่านั้น
ส่วนที่ร้องนายชนม์สวัสดิ์ ซึ่งไม่เป็นสมาชิกพรรค ใส่เสื้อสัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงของพรรคเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 62 ที่สนามกีฬาจังหวัดสุมทรปราการ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สุมทรปราการ ก็เป็นไปตามคำเชิญของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ จ.สมุทรปราการ ในฐานะที่นายชนม์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งประธานหอการค้า จ.สมุทรปราการ โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่า นายชนม์สวัสดิ์กระทำการควบคุม ครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรคหรือสมาชิกขาดความเป็นอิสระ และไม่ปรากฏหลักฐานว่า พรรคพลังประชารัฐยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกกระทำการควบคุม ครอบงำ ชี้นำการทำกิจกรรมของพรรค จึงยังฟังไม่ได้ว่า น.ส.ภริม นายชนม์สวัสดิ์ และพรรคพลังประชารัฐ กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง และมาตรา 28 มาตรา 29 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กกต.ยังมีคำวินิจฉัยยกคำร้องกรณีนางรัชนี พลซื่อ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ร้อยเอ็ดพรรคพลังประชารัฐ กรณีถูกกล่าวหาว่าให้นางสมบูรณ์ สุทธิสนธิ ประธานกลุ่มสตรีแม่บ้าน ต.ไพศาล อ.ธวัชบุรี และนายบุญไร ถินนาวัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.ไพศาล อ.ธวัชบุรี ซึ่งเป็นหัวคะแนนให้ทรัพย์สินจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ให้ส่งศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญากับนางสมบูรณ์ และนายบุญไร เนื่องจากมีพยานหลักฐานยืนยันว่า บุคคลทั้งสองมีการให้เงินเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนละ 200 บาทไปฟังการปราศรัยหาเสียงของ น.ส.รัชนี ที่ห้องประชุมสาเกตฮออล์ ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 62 จริง แต่ไม่ปรากฎพยานหลักฐานว่านางรัชนี รู้เห็นสนับสนุนการกระทำของบุคคลทั้งสอง เพราะนางรัชนีก็อ้างว่าไม่รู้ทั้ง 2 คน และไม่ได้เป็นหัวคะแนนของตนเอง จึงให้ยุติเรื่องในส่วนของนางรัชนี.-สำนักข่าวไทย