สำรวจนักท่องเที่ยวไม่กังวล PM 2.5

สนามหลวง 16 ม.ค.- นักท่องเที่ยวยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่กังวลเรื่องฝุ่น PM 2.5 ในวันที่มีการคาดการณ์ค่าฝุ่นจะสูงขึ้น จากสภาพอากาศปิด แจ้งผ่านไกด์ให้คำแนะนำสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณหน้าทางเข้าพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเขตที่ระบุว่า เช้าวันนี้ (16ม.ค.) ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน แต่นักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดไม่มีการป้องกันโดยตำรวจท่องเที่ยวที่ประจำอยู่บริเวณหน้าทางเข้าพระบรมมหาราชวังได้กระจายกำลังชี้แจงทำความเข้าใจกับมัคคุเทศก์ (ไกด์) ชาวไทย ให้แจ้งถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ กับนักท่องเที่ยวดูแลป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อไกด์แจ้งก็นำหน้ากากอนามัยที่เตรียมไว้ในกระเป๋าออกมาสวมใส่ทันที 

จากการสอบถามไกด์ระบุเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ชี้แจงกับนักท่องเที่ยวทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสวมใส่ โดยระบุว่าอึดอัด และเมื่อดูสภาพอากาศในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาปลอดโปร่ง ฟ้าเปิดจึงไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่ากังวล 

เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ระบุว่าที่ประเทศของตนเอง สถานการณ์หนัก วันนี้มาที่กรุงเทพฯ จึงรู้สึกไม่มีอะไรน่าห่วง  จึงเลือกที่จะไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย 

ขณะที่อีกจุดที่ผู้คนพลุกพล่าน การจราจรค่อนข้างแออัด เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สภาพท้องฟ้าค่อนข้างเปิดจนเห็นเมฆและแสงแดดส่องลงมาได้  ไม่ได้ปิดจนน่ากลัวเหมือนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางนี้ ยังใช้ชีวิตตามปกติ หลายคนไม่สวมหน้ากากอนามัย แม้จะทราบดีว่ามีคำเตือน แต่อึดอัดจึงเลือกใส่แค่บางเวลาเท่านั้น

สภาพอากาศค่าฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากกรมควบคุมมลพิษและผู้ว่ากทม. พร้อมใจกันระบุว่า วันนี้(16 ม.ค.) กรุงเทพมหานครจะต้องเผชิญกับค่าฝุ่นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากที่สุดในรอบเดือน เนื่องจากลักษณะความกดอากาศจะกดต่ำมากที่สุดในรอบเดือนนี้

สำหรับคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ ณ เวลา 10.30 น.โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ใน 50 เขตของกรุงเทพฯ พบว่าค่า PM 2.5 ส่วนใหญ่คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพบว่า มีบางเขตที่มีค่าอากาศเกินมาตรฐาน ซึ่งค่ามาตรฐาน PM 2.5 จะต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร   

ขณะนี้มี 10 เขต ที่คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจุดที่วัดค่าได้สูงสุดคือ บริเวณริมถนนวิภาวดี เขตดินแดง สูงถึง 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่เหลือ คือ เขตวังทองหลาง เขตบางคอแหลม เขตบางเขน เขตพระนคร เขตคลองเตย เขตหลักสี่ เขตวัฒนา บางกะปิ และลาดกระบังอยู่ระหว่าง 51-60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร  

อย่างไรก็ตาม แม้ท้องฟ้าในครึ่งวันเช้าจะยังเปิดจนไม่รู้สึกน่ากลัว แต่หน่วยงานต่างๆ ยังคงย้ำเตือนให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ป้องกันตัวเอง เนื่องจากช่วงเย็นวันนี้ที่ความกดอากาศจะกดต่ำมากที่สุดในรอบเดือนนี้ และช่วงเย็นที่เป็นเวลาการจราจรหนาแน่น จะทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นมากขึ้นจึงต้องระวังเป็นพิเศษ .-สำนักข่าวไทย