กรุงเทพฯ 15 ม.ค. – พม.ร่วมมือโออาร์ ส่งเสริมผู้สูงวัยเป็นบาริสต้าคาเฟ่อเมซอน รองรับสังคมผู้สูงวัย ด้านโออาร์เล็งเปิดพัฒนาร้านอาหารในปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้น เพิ่มมาร์จิ้นดีลเลอร์ และรับมืออีวี
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน สาขากรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยกล่าวว่า สาขาแห่งนี้เป็นสาขาแรกที่เปิดโอกาสรับผู้สูงวัยหลังเกษียณอายุมาทำงานในร้าน ทั้งเป็นผู้ชงกาแฟ หรือบาริสต้าและทำงานด้านอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการให้โอกาสแก่ผู้สูงวัยได้ทำงานสร้างความสุข และ พม.ยังร่วมกับ ปตท.ในการสร้างโอกาสแก่ผู้ด้อยโอกาสด้านต่าง ๆ ซึ่งเร็วนี้จะมีการเปิดสถานีบริการน้ำมัน พร้อมร้านค้าต่าง ๆ บริเวณสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยเจ้าหน้าที่จำหน่ายสินค้าจะมาจากสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ซึ่งนับเป็นการฝึกการทำงาน เพื่อรองรับการใช้ชีวิตด้านนอกในอนาคต
“หากในร้านกาแฟมีมุมให้ผู้ด้อยโอกาสเปิดเป็นร้านรับตัดเย็บกางเกง ซ่อม รองเท้า ก็จะเป็นการเปิดให้ผู้ด้อยโอกาสมีการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และลูกค้าเองก็สามารถนั่งรอในร้านกาแฟได้ด้วย” นายจุติ กล่าว
นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ กล่าวว่า สาขาแห่งนี้นับเป็นสาขาที่ 7 ของร้านคาเฟ่อเมซอน เพื่อการสร้างโอกาส หรือคาเฟ่ อเมซอน ฟอร์ แช้นส์ (Café Amazon for Chance) ที่โออาร์ตั้งเป้าหมายส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสร้างความเท่าเทียมในการดำรงชีวิตให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส และยังเป็นการรองรับการก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยที่มีสัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยร้านนี้ออกแบบอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการทำงานของผู้สูงวัย เช่น การออกแบบความสูงของชั้นวางวัตถุดิบให้เหมาะสมและปลอดภัยในการทำงาน การใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความสะดวกและรักษารสชาติให้คงมาตรฐาน การจัดเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กำลังก่อสร้างร้านคาเฟ่อเมซอน ฟอร์ แช้นส์ เพิ่มเติมรวมเป็น 11 สาขา ซึ่งจะครอบคลุมผู้พิการทางหู ทหารผ่านศึก และผู้เป็นโรคออทิสติก ซึ่งจะขยายสาขาด้านนี้อย่างไรจะเป็นความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะให้โอกาสแก่ผู้ด้อยโอกาส โดยปัจจุบันมีร้านคาเฟ่อเมซอน ฟอร์ แช้นส์ เปิดให้บริการแล้ว 7 สาขา ในกรุงเทพฯ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดชลบุรี ได้แก่ สาขาหอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา สาขาสนามลู่ปั่นจักรยาน เจริญสุขมงคลจิต สุวรรณภูมิ สาขา ปตท.สำนักงานใหญ่ สาขากรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สาขาคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรณ์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) สาขาสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) และสาขาโรงพยาบาลแหลมฉบัง
ปัจจุบันคาเฟ่อเมซอนมีจำนวนกว่า 3,150 สาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และปี 2563 คาดว่าจะขยายสาขาเพิ่มไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วคือ 400 สาขา และจะเพิ่มสีดส่วนการดำเนินการธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (NON OIL ) เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มทั้งมาร์จิ้นแก่คู่ค้าและรองรับความเสี่ยงของปั๊มน้ำมันในอนาคตที่จะได้รับผลกระทบจากยานยต์ไฟฟ้า (อีวี ) ซึ่งในปีนี้จะเน้นเรื่องธุรกิจอาหารเป็นหลัก โดยปัจจุบันมีกว่า 100 แบรนด์ และจะเปิดโอกาสให้ร้านอาหารในท้องถิ่นเข้ามาร่วมจำหน่ายในปั๊มน้ำมันด้วย ตามโครงการอร่อยท้องถิ่น พร้อมขยายโครงการไทยเด็ดอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันมีเปิดขายแล้วใน 177 สาขา ซึ่งจะช่วยทั้งกลุ่มเอสเอ็มอี สินค้าชาวบ้าน และคู่ค้าให้มียอดขายเพิ่มขึ้น .-สำนักข่าวไทย