กรุงเทพฯ 15 ม.ค.-เลขาฯ ส.ป.ก.ระบุเร่งกำหนดรูปแบบจัดสรรสิทธิ์ที่ดิน 682 ไร่ ฟาร์มไก่ “ปารีณา” ไม่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด คงส่วนที่มีประโยชน์ไว้ อนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำกินแบบแปลงรวมตามนโยบายใหม่ของ “ร.อ.ธรรมนัส”
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องของ ส.ป.ก.เร่งประชุมตรวจสอบทั้งข้อกฎหมายในการนำที่ดิน 682 ไร่ เลขที่ 109 หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี มาเข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ์ควบคู่กับหารูปแบบที่เหมาะสมในการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรตามนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ย้ำว่าการอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของ ส.ป.ก.ต้องจัดทำระบบสาธารณูปโภคและส่งเสริมอาชีพให้ด้วย ไม่เช่นนั้นผู้ได้รับสิทธิ์อาจไม่สามารถอยู่อาศัยและใช้ที่ดินประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
สำหรับที่ดิน 682 ไร่ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ส่งมอบทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ ส.ป.ก.แล้ว ซึ่ง ส.ป.ก.จะพัฒนาพื้นที่ โดยนำนโยบายการส่งเสริมการทำเกษตรแบบรวมกลุ่ม การตลาดนำการเกษตรมาเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกร เตรียมนำแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) มาสำรวจว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเหมาะสำหรับทำการเกษตรประเภทใด เบื้องต้นพบว่ามีสภาพแห้งแล้ง เหมาะสมที่จะปลูกพืชใช้น้ำน้อย ปลูกพืชอาหารสัตว์ และทำปศุสัตว์ ดังนั้นจึงกำลังประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำหนดเขตการใช้ประโยชน์พื้นที่แปลงนี้ เช่น แปลงปลูกพืช แปลงเลี้ยงสัตว์ แปลงที่อยู่อาศัย และแปลงสำนักงาน ทั้งนี้ การจัดที่ดินจะใช้รูปแบบ “แปลงรวม” มาทำเป็นต้นแบบ อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ได้จะคงไว้สำหรับทำเป็นสำนักงานสหกรณ์การเกษตร ในส่วนโรงเลี้ยงไก่ หากจะส่งเสริมเกษตรกรทำปศุสัตว์จะเก็บไว้ ส่วนที่ไม่ต้องการเป็นความรับผิดชอบของ น.ส.ปารีณา ในการรื้อถอนออก เมื่อจัดรูปแปลงและมีแผนการส่งเสริมอาชีพเรียบร้อยแล้ว จึงจะพิจารณาเกษตรกรที่มีคุณสมบัติตามกฏหมาย ส.ป.ก.ให้เข้าทำกินร่วมกัน
นายวิณะโรจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดขณะนี้ คือ การปรับปรุงสภาพพื้นที่ ส.ป.ก.ที่จัดสรรสิทธิ์ไปแล้วและที่ยึดคืนมาตามคำสั่งหัวหน้า คสช.กรณีถือครองเกิน 500 ไร่ ซึ่งจะเร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้อยู่อาศัยและทำกินได้อย่างมั่นคง โดยจะเป็นการลดปัญหาการขายเปลี่ยนมือให้นายทุนไปประกอบกิจการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรหรือการครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายส.ป.ก. กำหนดไว้ ขณะเดียวกันได้ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีตรวจสอบที่ดินในเขตอำเภอสวนผึ้ง ซึ่งมีข้อร้องเรียนว่านายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ครอบครองรวมเนื้อที่กว่า 600 ไร่ ว่า อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินหรือไม่ หากใช่ ร.อ.ธรรมนัสสั่งให้ตรวจสอบการครอบครอง ถ้าพบการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายจะยึดคืนเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย