ไทยพบผู้ป่วยโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2019 จากอู่ฮั่น

สธ.13 ม.ค.-ไทยพบผู้ป่วยโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2019 จากอู่ฮั่น  ประเทศจีน เป็นนักท่องเที่ยวหญิง ชาวจีนอายุ 61ปี ยืนยันไม่ได้ติดในไทย ไม่แพร่เชื้อคนสู่คน ห่วงเทศกาลตรุษจีน นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น เพิ่มมาตรการคัดกรองในสนามบินอู่ตะเภา และกระบี่ 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่าขณะนี้พบผู้ป่วยเชื้อโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่2019 จากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 61 ปี สามารถคัดกรองได้จากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา  โดยพบว่าเบื้องต้นมีอาการไข้สูง 38 องศาเซลเซียส ส่วนผู้ที่ใกล้ชิด 16 คนอาการปกติ  คาดว่าอีกไม่นานจะสามารถเดินทางกลับประเทศได้ ภายใน 3 วันเพราะขณะนี้ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ ไข้ลดลงแล้ว รักษาตัวอยู่สถาบันบำราศนราดูร ยืนยันการพบผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้เป็นการติดต่อในประเทศ แต่เป็นการติดต่อมาจากประเทศจีน 


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การแยกเชื้อไวรัสครั้งนี้ ทำได้โดยเป็นการเก็บสารคัดหลั่ง เสมหะ ของผู้ป่วยส่งให้ห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย ใช้เวลาตรวจสอบ 24 ชั่วโมง อีกทั้งทางการจีนได้ส่งรหัสพันธุกรรมของโรคให้องค์การอนามัยโลก ทำให้ประเทศอื่นๆ สามารถตรวจยืนยันได้ 

ทั้งนี้ การตรวจสอบยืนยันในห้องปฎิบัติการณ์จะใช้ 2 ห้องปฎิบัติร่วมกันเสมอเพื่อความมั่นใจ และขณะนี้เรามีตัวอย่างหน้าตาของเชื้อ และน้ำยาตรวจพร้อม


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับมาตรการเฝ้าระวังโรคอุบัติเหตุใหม่ สำหรับเชื้อโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2019 จะมีการยกระดับการควบคุมโรคเป็นระดับ 3 มีการตรวจตั้งแต่ด่านตรวจที่สนามบินเข้าประเทศในทุกจุดและติดตามในกลุ่มนักท่องเที่ยว หากพบเข้าข่าย 3 หลักเกณฑ์ 1 มีไข้ 2 มีอาการระบบทางเดินหายใจ และ3 มาจากเมืองอู่ฮั่น จะเชิญตัวมาพักรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนขณะนี้ใกล้เทศกาลตรุษจีน ช่วงวันที่ 25 ม.ค.63 คาดว่าจะมีการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทยเพิ่มมากขึ้น จึงให้มีการติดตามคัดกรองในสนามบินเพิ่มอีก 2 จุดที่เป็นการบินตรง ได้แก่สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินนานาชาติกระบี่ เพื่อป้องกัน ยืนยันขณะนี้ยังไม่ห้ามการเดินทาง

รศ.พิเศษ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า การตรวจคัดกรองพบผู้ป่วยชาวจีนได้สำเร็จ มาจากประสบการณ์กลไกการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ที่ไทยผ่านวิกฤตโรคหลายครั้ง ทั้งซาร์สและเมอร์ส์ ส่วนการรักษานั้นเน้นตามอาการ เนื่องจากยังไม่มียารักษาโดยตรง แต่คาดว่าอาการของโรคจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ เช่นมีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก สำหรับผู้ป่วยรายนี้พบว่า ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่หากรักษาจนอาการคงที่ ผู้ป่วยแข็งแรงก็สามารถมีภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโรคได้ ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวล เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสตัวใหม่เป็นธรรมดาที่ร่างกายมนุษย์จะยังไม่มีภูมิคุ้มกันและไม่มียารักษา ดังนั้นต้องรักษาตามอาการทำให้ร่างกายแข็งแรง ขณะนี้เตรียมเร่งอบรมแพทย์ พยาบาลเพื่อให้รู้อขั้นตอนและหลักเกณฑ์การคัดกรองโรค

ดร.แดเนียล เคอร์เทซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ชื่นชมไทยที่สามารถควบคุมโรคได้ โดยอาศัยประสบการณ์ ซึ่งทางการจีนจะได้ส่งข้อมูลรหัสพันธุกรรมเพื่อให้แยกโรค ส่วนองค์การอนามัยโลกจะออกคำแนะนำและหลักเกณฑ์ในการคัดกรองโรคและแนวทางการรักษาโรค เพื่อให้ทั่วโลกปฎิบัติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน