กรมสุขภาพจิตวอนงดแชร์ภาพคลิปความรุนแรง ที่ จ.ลพบุรี

กรมสุขภาพจิต 10 ม.ค.-อธิบดีกรมสุขภาพจิต ขอให้สื่อและประชาชน งดการนำเสนอหรือส่งต่อภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวความรุนแรง จากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงชิงทรัพย์ร้านทองในห้างสรรพสินค้า ที่ จ.ลพบุรี เพื่อป้องกันความหวาดวิตกของคนในสังคม และเป็นการให้เกียรติต่อผู้ที่เสียชีวิตและครอบครัว


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอและการส่งต่อเนื้อหาเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ในช่วงคืนวานนี้ (9ม.ค.) ว่า กรมสุขภาพจิตได้ติดตามการนำเสนอข่าว ทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อโซเชียลต่างๆอย่างใกล้ชิด พบว่าเหตุการณ์นี้เกิดการแชร์เนื้อหาทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว กระจายไปทางสื่อโซเชียลต่างๆมากมาย โดยเนื้อหาจำนวนมากประกอบไปด้วยภาพความรุนแรงและภาพของผู้ที่ได้รับผลกระทบ


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า กรมสุขภาพจิตเข้าใจถึงความรู้สึกของประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี ซึ่งเหตุความรุนแรงในลักษณะนี้มักก่อให้เกิดความโกรธแค้น ความโศกเศร้า ความกลัว และความวิตกกังวล ต่อประชาชนในพื้นที่และประชาชนที่ได้รับข่าวสาร แต่การนำเสนอหรือส่งต่อภาพความรุนแรงที่เกินความจำเป็นนั้นไม่มีประโยชน์ใดต่อสังคมโดย  รวมทั้งยังทำให้เกิดผลกระทบด้านสุขภาพจิตต่อสังคมได้ในวงกว้าง โดยอาจทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความกังวลในการใช้ชีวิตประจำวัน  คนที่กำลังเครียดหรือมีปัญหาด้านสุขภาพจิตอยู่อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้น เมื่อเห็นภาพที่มีความรุนแรงซ้ำๆ เด็กและเยาวชนที่ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือขาดผู้ปกครองอธิบายในขณะที่รับชมภาพความรุนแรง อาจเกิดผลกระทบทั้งทางด้านจิตใจ เกิดความชินชาต่อความรุนแรง และเกิดพฤติกรรมเลียนแบบความรุนแรงตามมาได้ 


นอกจากนี้การนำเสนอหรือส่งต่อภาพผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ยังเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และส่งผลกระทบด้านจิตใจต่อญาติและคนรอบข้างของผู้ที่ได้รับผลกระทบได้เป็นอย่างมาก

“กรมสุขภาพจิตขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคน และกำลังดำเนินการลงพื้นที่เพื่อประเมินผลกระทบและช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบและประชาชนในพื้นที่ ขอให้ประชาชนเป็นกำลังใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกันใช้สื่อโซเชียลในเชิงบวกหรือใช้สนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ระมัดระวังการใช้หรือติดตามสื่อโซเชียล รวมถึงงดการส่งต่อภาพผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรง ดูแลและให้คำแนะนำบุตรหลานและเยาวชนที่สามารถเข้าถึงภาพความรุนแรงต่างๆได้ ดูแล และประเมินสภาพจิตใจ ของตนเองและคนรอบข้างที่ได้รับชมภาพความรุนแรง และหากเริ่มสังเกตพบความผิดปกติ เช่น กังวล หดหู่ ท้อแท้ ควรหลีกเลี่ยงการรับชมข่าวที่สะเทือนความรู้สึกช่วงนี้ และสามารถโทรขอรับบริการคำปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือขอคำปรึกษาจากบุคลากรด้านสุขภาพจิตที่สถานพยาบาลใกล้บ้านได้” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง