“บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่เกี่ยวคลิปเสียงระหว่าง”ผบ.ตร.-วิระชัย”

กรุงเทพฯ 9 ม.ค.- “บิ๊กโจ๊ก” หดหู่ คำพูด ผบ.ตร.ที่ปรากฏในคลิปเสียง ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยคลิป และไม่คาดหวังจะจับคนร้ายได้ผ่านมา 4 วันแล้วคดียังไม่คืบ


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.สตม. เดินทางมารับรถยนต์ที่ถูกลอบยิง พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้มารับรถยนต์จากพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องคลิปเสียงผมเพิ่งได้ฟังเมื่อเช้าก็เป็นเรื่องที่สะท้อนใจในฐานะที่ผมเป็นตำรวจเก่า การสนทนาระหว่างคนสองคน ถึงแม้ว่าคดีนี้จะเป็นคดียิงรถผมความเสียหายไม่ได้เยอะ แต่เป็นคดีที่สื่อมวลชนสนใจ แล้วไปพาดพิงถึงผู้ใหญ่ขององค์กร เพราะฉะนั้นการที่โทรศัพท์มาสั่งการไม่ให้ผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการผบ.ตร. ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่อยู่ให้หยุด ไม่ไปแถลงข่าว ไม่ต้องลงไปยุ่ง มาทำแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งเห็นชัดเจนถึงเจตนา ผมในฐานะเป็นตำรวจเก่า ต้องบอกตรงๆ ว่ารู้สึกหดหู่ จากการกระทำ พฤติกรรมแบบนี้ของผู้นำองค์กร ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องเมื่อ 2 ปีก่อนที่มีการยิงรถนักข่าว การใช้อำนาจแบบไม่เป็นธรรม เป็นผู้รักษากฎหมายแล้วต้องทำตัวเป็นเยี่ยงอย่าง อย่าลืมว่ารองผบ.ตร.อีกท่านหนึ่งเขารักษาการ แล้วเขาทำตามหน้าที่ ในวันเกิดเหตุเท่าที่ผมทราบ รองผบ.ตร.ท่านนี้ ท่านลงไปไล่กล้องต่างๆ เอง ต้องเข้าใจว่าวันดังกล่าวทางผบช.น.ไม่ได้ลงมาด้วยตนเอง มีแต่ผู้บังคับการ ผู้กำกับ รองผบ.ตร.ที่ลงมากำกับดูแลเพราะเป็นเรื่องที่สื่อและประชาชนสนใจ 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า การที่ รองผบ.ตร.ลงมากำกับดูแล เพื่อให้องค์กรเป็นที่น่าเชื่อถือ ศรัทธา เหตุอย่างนี้แม้จะไม่ได้เกิดกับผมเกิดกับใครก็ได้ ผู้รักษากฎหมายจะต้องทำคดีนี้อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะวันนี้ไปพาดพิงถึงผู้หลักผู้ใหญ่ขององค์กร เมื่อเรารู้ตัวว่าเราถูกพาดพิง เราต้องยิ่งรีบสั่งอีกอย่างหนึ่ง สั่งให้รีบเร่งรัดติดตามจับคนร้ายให้ได้ ลงไปดู ลงไปเข้มงวดกวดขันท้องที่ เพื่อจะเคลียร์เรื่องจริงให้ปรากฎ เพื่อจะเคลียร์ตัวเองให้ได้ แต่ไม่ใช่ไปสั่งแบบนี้ เท่าที่ผมฟัง ”ไม่ต้องไปแถลงข่าวให้กองบัญชาการเขาทำไป” และมีการพูดถึงเรื่องมีการเตี้ยมกัน มันได้ที่ไหน ถูกไหมครับ 


 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า มันเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด มีมูลเหตุทั้งหมด ไม่มีอะไรที่ผมต้องไปเตี้ยม หรือไม่มีประเด็นอื่นอีก และยังมีคำพูดอีกว่าผมไปหลอกพลตำรวจเอกอีก 5 คน สื่อมวลชนเชื่อหรือว่าผมจะไปหลอกใช้เขาได้ ไม่ต้องถามผม ไปถามเจ้าตัวว่าเขาถูกหลอกใช้หรือไม่ คำพูดอย่างนี้ผู้นำองค์กรไม่ควรจะพูด วันนี้เหตุเกิดก็ต้องทำความจริงให้ปรากฎแค่นั้นเอง คำว่าผู้นำองค์กรผมต้องบอกว่ามันบ่งบอกถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรมแล้ววันนี้ผู้นำองค์กรเป็นอย่างนี้ แล้วองค์กรจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าผมเป็นผู้นำองค์กร ผมไม่ได้เอ่ยถึงท่าน ผมเรียนว่าถ้าผมเป็นผู้นำเองถ้าชาวบ้านรู้แบบนี้ผมต้องลาออกแล้ว อย่างอื่นก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ เพราะผมก็ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีเป็นพิเศษ ผมในฐานะเป็นลูกน้องท่าน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ถามว่าผมเคารพไหม ผมก็เคารพอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็ต้องว่าไปอีกส่วนหนึ่ง วันนี้ไม่อะไรอย่างอื่น ผมเงียบไปเป็นปีแล้วยิ่งไปบอกว่าผมสร้างสถานการณ์ ผมยิ่งต้องทำความจริงให้ปรากฎ ใครไม่เป็นผมบ้างก็คงไม่มีวันรู้ ไม่ต้องไปคลางแคลงใจอย่างอื่น คนอย่างผมถ้าผมอยากดังผมแค่เดินไปหานักข่าวผมก็ดังแล้ว แล้วที่ผ่านมาเกือบปีหนึ่งผมเก็บเนื้อเก็บตัวมาตลอด ถามว่าวันนี้ที่ต้องออกมาขนาดนี้ เพราะว่าผมไม่ไหวแล้วมันโดนมานานแล้วโดนมาเยอะแล้ว มันต้องพอสักที เหมือนนักข่าวเมื่อ 2 ปีก่อน เขาพูดไม่ได้ วันนี้จึงต้องออกมา ในคลิปคงจะเห็นชัดเจนให้ไปดูแล้วกันว่าหมายความว่าอะไร สั่งแบบนี้สั่งเพื่ออะไร สั่งเพื่อส่วนรวมหรือไม่ หรือสั่งให้ตัวเอง อย่างนี้คนทำงานเขาจะเสียกำลังใจไหม เขาทำงานอยู่ เขาเร่งรัดพยานหลักฐาน อย่าเพิ่งไปพูดเรื่องอื่นก่อน ต้องเอาคนยิงมาให้ได้ก่อน ความจริงจะปรากฎ ผู้นำองค์กรต้องพูดแบบนี้ ต้องเอาคนร้ายมาให้ได้แล้วความจริงจะปรากฎ ตอนนี้ผมหมดศรัทธา เรื่องคนร้ายไม่ต้องไปพูดถึง ไม่เคยคิดเลยว่าจะจับได้ไม่ได้ เพราะไม่ได้สนใจ เมื่อรับรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็จะกลับบ้านแล้ว ผมก็พอแล้ว และไม่ได้ติดตามคดี

เมื่อถามต่อว่าจะต้องไปให้ข้อมูลกับทางป.ป.ช.หรือไม่ ทางพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไปในวันพรุ่งนี้(10 มกราคม) เวลา 09.30 น. ซึ่งทางป.ป.ช.ก็เรียกไปหลายคน โดยในวันนี้ได้เรียกทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดแล้ว พรุ่งนี้ก็เรียกอีก แล้วในวันที่ 29 มกราคมนี้ ก็เรียกอีก และเรียกกรรมการทั้งหมด วันนี้ต้องเอาความจริงมาสู้กัน ความจริงก็คือความจริง ไม่ต้องมาบอกบิดเบือน จะไปบอกว่าไบโอแมทริกซ์จับกุมคนร้ายได้ มันก็ถูก ผมจะชี้ให้ฟังว่าไบโอแมทริกซ์เป็นโครงการดี แต่เมื่อเครื่องมันไม่ดีก็ต้องทำบันทึกยกเลิกสัญญาไป ผมไม่ใช่จะไปเลิกโครงการ ผมก็ต้องให้ไปเอาบริษัทที่ดีๆ มา เพราะเราเป็นคนใช้ ทุกวันนี้ไปถามตำรวจได้เลยไบโอแมทริกซ์สมมติว่าสามารถทำได้ 30 กว่าอย่าง แต่วันนี้ทำงานได้แค่ 7 อย่าง โอเคที่จับคนร้ายได้ แต่คุณสมบัติอีก 20 กว่าอย่างมันทำงานไม่ได้ มูลค่า 2 พันกว่าล้าน ทำงานได้แค่ 7 อย่าง อีก 20 กว่าอย่างมันทำงานไม่ได้ แล้วเงินภาษีประชาชนไปอยู่ตรงไหน ความคุ้มค่ามันอยู่ตรงไหน สิ่งที่ผมพูดไม่ได้บิดเบือนผมทนมานานแล้ว


เมื่อถามต่อถึงเรื่องคลิปเสียง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมยังเอ่ยชื่อไม่ได้ ในใจผมกับในใจท่านก็คงจะตรงกันว่าเป็นใคร ผมไม่ทราบเหมือนกัน ตื่นเช้ามาก็เต็มไปหมดแล้ว มีคนส่งมาให้ผมฟัง วันนี้ผมไม่ได้มีอำนาจอะไรเยอะแยะ ที่ผมออกมาพูดผมไม่ได้ต้องการอะไร เมื่อผมเป็นผู้ถูกกระทำ ยิ่งไปบอกว่าผมสร้างสถานการณ์ ผมต้องพูดประเด็นให้เห็นว่าประเด็นมันอยู่ตรงไหน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ

จากด่านสู่ดุลอำนาจ : ไทย-กัมพูชา กับบทบาทใหม่ของเศรษฐกิจ

ใครพึ่งใคร? – วิเคราะห์แรงกดดันเศรษฐกิจชายแดนต่อกัมพูชา หลังไทยจำกัดการข้ามแดน กรณีพิพาทบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี แม้เคยเกิดเหตุปะทะเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา กัมพูชาตัดสินใจถอยกำลังออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการยกระดับความขัดแย้ง กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ “ความมั่นคงยุคใหม่” ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเป็นตัวตัดสิน หากแต่เกิดจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไทยเลือกใช้ แทนการเผชิญหน้าด้วยแสนยานุภาพ ผ่าน “มาตรการจำกัดการข้ามแดน” ที่บีบช่องทางการเคลื่อนย้ายคน สินค้า และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะที่ด่านอรัญประเทศ – จุดยุทธศาสตร์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา จุดเปลี่ยน : เมื่อเศรษฐกิจกลายเป็นเครื่องมือของความมั่นคงไทยเลือกใช้ “แรงบีบเชิงเศรษฐกิจโดยสันติวิธี” เป็นกลยุทธ์กดดันคู่ขนานกับการเจรจา ผ่านมาตรการสำคัญ ได้แก่ : ไทยยังส่งสัญญาณชัดว่า พร้อมจะยกระดับมาตรการเหล่านี้ หากสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด มาตรการซึ่งสำหรับกัมพูชาแล้ว เปรียบเสมือนกดทับ “เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ” ของฝั่งตะวันตกที่ต้องพึ่งพาการค้าข้ามแดนจากไทยเป็นหลัก ไทย : ผู้ถือ “กุญแจด่าน” และพลังการค้าข้ามพรมแดนข้อได้เปรียบของไทยยิ่งชัดเจน เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการค้าข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ (เมษายน 2568) ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 64,612 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น […]

ลุ้นมติแพทยสภาวันนี้ ปมลงโทษ 3 หมอกรณีชั้น 14

กทม. 12 มิ.ย.-ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เริ่มการประชุมแล้ว โดยวาระที่ต้องจับตา คือการลงมติชี้ขาดโทษแพทย์ 3 ราย กรณีรักษา “ทักษิณ” ชั้น 14 รพ.ตำรวจ กรรมการแพทยสภา เริ่มทยอยเดินทางเข้าห้องประชุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา การประชุมคณะกรรมการบริหารแพทยสภา จัดขึ้นทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 ของทุกเดือน โดยวันนี้มีวาระที่สังคมจับตา คือการพิจารณามติลงโทษแพทย์ 3 คน จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ที่รักษานายทักษิณ ชินวัตร บนชั้น 14 หลังจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วีโต้คัดค้านความเห็นมติการลงโทษแพทย์ทั้ง 3 รายในการประชุมครั้งที่แล้ว โดยวันนี้มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ จะเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมในเวลา 12.00 น. โดยมีเวลา 15 นาทีในการชี้แจง จากนั้นต้องออกจากห้องประชุมทันที เพราะเป็นการประชุมลับ รศ.พญ.ประสบศรี อึ่งถาวร หนึ่งในกรรมการแพทยสภาโดยเลือกตั้ง ให้ข้อมูลก่อนเข้าประชุมว่า การที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภาจะเข้าร่วมการประชุม ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะที่ผ่านมา […]

ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตกลางวงสังสรรค์ที่อิสราเอล

อุดรธานี 12 มิ.ย. – ภรรยาช็อก สามีเสียชีวิตที่อิสราเอล นั่งคุยกับเพื่อนเรื่องลูกสาว จู่ๆ วูบดับคาโต๊ะกลางวงสังสรรค์ เชื่อทำงานต่างแดน โหมงานหนักจนเสียชีวิต เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎาง พูนเจ๊กมะดัน อายุ 39 ปี ชาวบ้านลานเต อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.68 ขณะไปทำงานที่อิสราเอล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี ประกันสังคมจังหวัด แรงงานจังหวัด และผู้สื่อข่าว เดินทางลงพื้นที่ร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัว จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า นายกฤษฎาง เคยเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลเมื่อปี พ.ศ.2553 โดยบริษัทจัดหางานจัดส่ง ต่อมาได้เดินทางไปทำงานในประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.67 ภายหลังได้รับการติดต่อจากนายจ้างในรัฐอิสราเอลให้เดินทางกลับไปทำงานอีกเป็นครั้งที่ 2 จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าไปทำงานต่อในรัฐอิสราเอลเมื่อ ม.ค.68 ในส่วนข้อมูลประกันสังคมพบข้อมูลผู้เสียชีวิตสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 และมีเงินสะสมกรณีบำเหน็จชราภาพ จำนวน […]

ร่างตัวประกันไทยรายสุดท้ายที่เสียชีวิตในกาซา ถึงไทยแล้ว

11 มิ.ย. – ร่างแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ถึงไทยแล้ว ด้านกระทรวงแรงงาน เผยเร่งช่วยเหลือครอบครัวและทายาท ร่างของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่ถูกส่งกลับมาด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มารอรับ และร่วมวางพวงหรีดหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย โดยนายณัฐพงษ์ เป็นตัวประกันแรงงานไทยรายสุดท้ายที่ค้นพบร่างและสามารถส่งกลับไทยได้ สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ คือ 1.ในส่วนของสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีแรงงานเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการฝังศพเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD), เงินช่วยเหลือการเป็นม่าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท, เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่นๆ […]