กรมคุมประพฤติ 8 ม.ค.-กรมคุมประพฤติพร้อมส่งกลุ่มเมาแล้วขับเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยง 117 ราย ส่งเข้าบำบัดอาการติดสุราเรื้อรัง 4 เดือน เตรียมปิดช่องโหว่ รับมือสงกรานต์ ส่งอาสาสมัครคุมประพฤติประจำด่านชุมชน เพิ่มศักยภาพตรวจจับขี้เมา
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงสรุปยอดคดีเมาแล้วขับที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.62 ถึง 2 ม.ค.63 ว่า มีสถิติคดีที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติจำนวนทั้งสิ้น 12,360 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา สูงสุดถึง 11,997 คดี หรือร้อยละ 97 และคดีขับเสพ จำนวน345 คดี คดีขับรถประมาท 17 คดี คดีขับซิ่ง/แข่งรถ 1 คดี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบสถิติกับเทศกาลปีใหม่ปีที่ผ่านมา พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุราเพิ่มขึ้น 3,291 คดี คิดเป็นร้อยละ 37.80 และเป็นการกระทำผิดซ้ำย้อนหลัง 1 ปี 362 ราย และทำผิดซ้ำ เฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ 24 ราย
โดยกรมคุมประพฤติจะให้ผู้กระทำความผิดทุกรายทำแบบประเมินคัดกรองพฤติกรรมการดื่มสุรา เพื่อนำผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากเป็นผู้ติดสุราเรื้อรัง จำนวน 117 ราย เข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาล 4 เดือน โดย ล็อตแรกจะเข้ารับการบำบัด 47 ราย
ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงปานกลาง 1,424 รายหรือร้อยละ 50 จะส่งเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 วันเพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกไม่ดื่มสุรา โดยระหว่างที่อยู่ในค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีนักจิตวิทยาคอยให้คำแนะนำ หลังออกจากค่ายยังต้องทำงานบริการสังคมดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและจะนำเข้าไปห้องดับจิตเพื่อไปดูสภาพผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมถึงพาไปเยี่ยมครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากดำเนินการมาตรการคุมประพฤติ และผู้ที่ถูกจับเมาแล้วขับ พบว่าผู้ถูกดำเนินคดียินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมาย ไม่มีรายใดหลบหนีหรือฝ่าฝืนเงื่อนไข แต่สิ่งที่จะต้องนำไปทบทวนปรับปรุงเพื่อรับมือกับเทศกาลสงกรานต์ โดยเทศกาลกรมคุมประพฤติจะส่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครไปประจำในทุกๆด่านชุมชน เพื่อไม่ให้มีช่องว่างในการตรวจจับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์.-สำนักข่าวไทย