ประชาชนทยอยกลับเข้ากรุงเทพฯ จราจรถนนมิตรภาพเริ่มหนาแน่น

ประชาชนทยอยกลับเข้ากรุงเทพฯ จราจรถนนมิตรภาพเริ่มหนาแน่น

กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.- ประชาชนทยอยกลับเข้ากรุงเทพฯ จราจรถนนมิตรภาพช่วงแยกบ้านไผ่ ขอนแก่น ถึง โคราชรถเริ่มมาก คาดจะมากสุดช่วงสุดสัปดาห์นี้


พลตำรวจตรีเอกราช ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยสถานการณ์การเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯของประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563  ซึ่งจากข้อมูลของระบบการนับปริมาณรถของกรมทางหลวง  พบว่าตั้งแต่เมื่อวาน( 1 ม.ค.)จนถึงขณะนี้มีรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯมาแล้วประมาณ 640,000 กว่าคัน โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจากการตรวจสอบข้อมูลรถที่จะออกจากจังหวัดต่างๆพบว่าในสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โซนเหนือ ในกลุ่มจังหวัดขอนแก่น อุดรธานีพบว่ารถเริ่มออกเดินทางเข้าถนนมิตรภาพมาเป็นจำนวนมากแล้ว โดยสังเกตได้จากปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นบริเวณแยกบ้านไผ่ยาวต่อเนื่องมาจนถึงสีคิ้ว ซึ่งขณะนี้รถ มีปริมาณมากแต่ยังเคลื่อนตัวตามกันมาได้ มีการชะลอตัวช้าบริเวณจุดที่เป็นปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร ส่วนเส้นทางหลีกเลี่ยงจากการตรวจสอบพบว่าถนนสาย 304 กบินทร์บุรี- ปักธงชัย เส้นทางดังกล่าวปริมาณรถยังน้อยมากกว่าถนนมิตรภาพ จึงขอแนะนำให้ประชาชนมาใช้เส้นทางในจุดดังกล่าวแทนถนนมิตรภาพ เพื่อป้องปริมาณรถมาในจุดดังกล่าว 

อีกทั้งลักษณะทางกายภาพของถนนและลักษณะภูมิประเทศเป็นช่วงทางลงเขาเสียส่วนใหญ่ จึงทำให้การเดินทางจะเคลื่อนตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนจุดที่มีการก่อสร้างก็มีความคืบหน้าไปมากไม่เป็นลักษณะของหน้าผาเหวลึกเหมือนปีที่ผ่านมา 


ส่วนเส้นทางจากภาคเหนือพบว่ารถที่ออกมาจากจังหวัดในโซนภาคเหนือเริ่มเดินทาง ผ่านพิษณุโลกเข้ามาสู่จังหวัดนครสวรรค์แล้วบางส่วนโดย จากข้อมูลพบว่ารถที่มาถึงจังหวัดนครสวรรค์ต่อเนื่องถึงอินทร์บุรี ตากฟ้า จะมีการชะลอตัวมาตลอดทั้งเส้นทางโดยเฉพาะในบริเวณปั๊มน้ำมันและร้านอาหาร แต่เมื่อพ้นจุดต่างๆเหล่านั้นแล้วก็จะเคลื่อนตัวได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่วนเส้นทางหลีกเลี่ยงตำรวจทางหลวงแนะนำให้เลี่ยงไปใช้ทางหลวง 340  หรือจะใช้ช่วงต่างระดับบางปะหัน ต่อเนื่องเข้าทางหลวง 347 แล้วขึ้นทางด่วนเข้ากรุงเทพจะสะดวกมากกว่า

ส่วนเส้นทางสายใต้จากถนนเพชรเกษมขึ้นมาจนถึงวังมะนาว ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีปริมาณรถไม่มากและน้อยกว่าเมื่อวาน ส่วนเส้นทางถนนพระราม 2 ยังคงมีการชะลอตัวตามแนวก่อสร้างต่างๆ และปริมาณรถที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ถือว่า ยังสามารถรับรถได้

จากการคาดการณ์สภาพการจราจรในวันนี้ ของกองบังคับการตำรวจทางหลวง เชื่อว่าในหลายจุดจะมีปริมาณรถมากกว่าเมื่อวาน และจะมีการทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯมาตลอดทั้งวัน และจะมีประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มากอีกครั้งในช่วงประมาณวันที่ 4 ถึงวันที่ 5  เพราะ มีโรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกจะเปิดทำการอีกมากกว่า 50 เปอร์เซ็นในวันที่ 6  มกราคม จึงขอให้ ประชาชนตรวจสอบสภาพของคนขับให้พร้อม หากง่วงหรือไม่ไหวให้จอดพักทันที และต้องตรวจสอบสภาพของรถให้พร้อม หาก ไม่มั่นใจสามารถแวะจุดพักรถที่มีจุดตรวจสภาพรถตลอดทั้งรายทางได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่