PTTLNG พร้อมให้บริการผลักดันไทยเป็น LNG HUB

ระยอง 2 ม.ค. – PTTLNG พร้อม Reload LNG  ทั้งขนส่งทางเรือและรถยนต์ เผยสถานีหนองแฟบก้าวหน้าแล้วร้อยละ 40


นายโชคชัย ธนเมธี  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ปรับปรุงท่าเทียบเรือมาบตาพุดและพื้นที่บรรจุแอลเอ็นจี เพื่อรองรับการขนส่ง LNG ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ เพื่อบริการลูกค้าที่มาใช้บริการในการบรรจุ LNG หรือ Reload ทั้งการนำเข้า LNG แล้วจำหน่ายต่อแก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะรองรับนโยบายของภาครัฐในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขาย LNG ของภูมิภาค (Regional LNG Hub) โดยตามแผนของกระทรวงพลังงานจะเริ่มทดสอบในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 เช่น ระบบบริการขนถ่าย LNG (Reload System) ให้บริการเติม LNG แก่เรือที่ใช้ LNG เป็นเชื้อเพลิงในการเดินเรือ (Bunkering) 

ทั้งนี้ ท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่าย Map Ta Phut LNG Terminal  สามารถรับเรือขนส่ง LNG ขนาด 125,000-284,000 ลูกบาศก์เมตร การปรับปรุง เพื่อ Reload ก็จะทำให้ขนส่งทางเรือเล็ก 60,000 ลูกบาศก์เมตร และขนส่งทางรถยนต์ 20,000 ลูกบาศก์เมตร โดยสถานีแห่งนี้มีความสามารถแปรสภาพ LNG เป็นก๊าซ 11.5 ล้านตันต่อปี หรือเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ 1,610 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยผู้ใช้บริการรายแรก คือ บมจ.ปตท.มีสัญญาซื้อขาย LNG สัญญาระยะยาวแล้ว 5.2 ล้านตันต่อปี และรายที่ 2 คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีการนำเข้าแล้วในสัญญาตลาดจร (SPOT) ลำแรก 65,000 ตัน และลำที่ 2 จะนำเข้าเดือนเมษายน 2563 อีก 65,000 ตัน


ส่วนความคืบหน้าท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่าย LNG  แห่งที่ 2  สถานีหนองแฟบ ลงทุนรวม 38,500  ล้านบาท  ขณะนี้มีความคืบหน้าการก่อสร้างร้อยละ 40 และจะเสร็จเปิดให้บริการตามแผนกลางปี 2565 โดยมีความสามารถแปรสภาพ LNG เป็นก๊าซ 7.5 ล้านตันต่อปี หรือเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ 1,050 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ทั้งนี้ ประเทศไทนมีความต้องการใช้ก๊าซฯ ประมาณ  5,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยปัจจุบัน 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน มาจากอ่าวไทย อีก 2,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน อย่างละครึ่งมาจากเมียนมาและ LNG ซึ่งก๊าซจากเมียนมาและอ่าวไทยทยอยลดลง ไทยจึงจำเป็นต้องนำเข้า LNG เพิ่มขึ้น เป้าหมายแรก คือ การใช้เองในประเทศและกำลังวางแผนเป็น  Regional LNG Hub จะทำให้ประเทศไทยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ LNG เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เพิ่มการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม คาดจะเกิดผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของไทยโดยรวมประมาณ 165,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปี (ปี 2563-2573) และมีผลต่ออัตราการจ้างงานเฉลี่ยในประเทศเพิ่มขึ้นเท่ากับ 16,000 คนต่อปี อีกทั้งยังช่วยลดภาระการส่งผ่านอัตราค่าบริการไปยังค่าไฟฟ้าด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก