เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุลูกเห็บถล่มเชียงใหม่

เชียงใหม่ 30 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุลูกเห็บถล่มหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนที่จังหวัดแพร่พายุกระหน่ำรุนแรงทั้งฝนและลูกเห็บตกในเขตอำเภอสอง อำเภอร้องกวาง


ความคืบหน้าหลังวานนี้ เกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังทหาร ตำรวจและจิตอาสากว่า 100 นาย ออกสำรวจความเสียหายและเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกเห็บเมื่อช่วงเย็นวานนี้     โดยเฉพาะที่หมู่บ้านห้วยน้ำขาว ตำบลยางคราม เสียหายเกือบทั้งหมู่บ้านรวมกว่า 200 หลัง ส่วนใหญ่เป็นกระเบื้องมุงหลังคาแตกเสียหายจากลูกเห็บขนาดเท่าลูกมะนาว

ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยน้ำขาว บอกว่า หมู่บ้านเคยเกิดลูกเห็บเมื่อ 4-5 ปีก่อน แต่ไม่เสียหายรุนแรงมากขนาดนี้ สำหรับครั้งนี้เสียหายเกือบทั้งหมู่บ้าน ลูกเห็บตกนานถึงครึ่งชั่วโมง ผู้ประสบภัยต้องการกระเบื้องรวมกว่า 20,000แผ่น ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ได้ช่วยซ่อมแซมหลังคาบ้านตลอดทั้งวันนี้ สรุปความเสียหายจากพายุลูกเห็บทั้งหมด 11 หมู่บ้าน กว่า 600 หลัง พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะสวนลำไยเสียหายกว่า 4,000 ไร่ นอกจากอำเภอดอยหล่อ ยังเกิดความเสียหายที่อำเภอแม่วางใน 4 ตำบลบ้านเรือนเสียหายเล็กน้อย


ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งว่าสาเหตุที่สภาพอากาศแปรปรวน มีทั้งอากาศหนาวเย็น ฝนตกและพบลูกเห็บในระยะนี้ เกิดจากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุม ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนบน สำหรับในช่วง 1-2 วันนี้ ภาคเหนือ ยังคงมีอากาศเย็น กับมีฝนฟ้าคะนองและลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา  และผลจากฝนที่ตกและพายุลูกเห็บ เมื่อวานนี้ ส่งผลให้คุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองลดลง   

ย้อนไปดูภาพลูกเห็บที่ถล่มพื้นที่ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ วานนี้ หลังที่มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความ ด่วน!!!ขาวโพลนไปทั้งดอยหล่อ #อภิมหาพายุลูกเห็บ ตกอย่างหนักขาวไปทั่วดุจหิมะตก เมื่อเวลา 16 นาฬิกา 20 นาที โลกเริ่มน่ากลัว ทุกอย่างมันผิดแปลกไปมากมาย

เมื่อวานนี้ยังเกิดฝนฟ้าคะนองและมีลูกเห็บตกลงมาอย่างหนัก บริเวณเข้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบวัน ทำให้ลูกเห็บขาวโพลนไปทั่วทั้งถนน และสนามหญ้าในเขตอุทยานฯ เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวพากันตะลึง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน   ทั้งที่เป็นฤดูหนาว จนทำให้ต้องพากันหลบห่าลูกเห็บที่ตกลงมา รถทุกชนิดที่วิ่งบนถนนต้องจอดข้างทาง นานประมาณ 15 นาที จึงหยุดตก ทำให้ทั้งถนนและสนามหญ้าเต็มไปด้วยลูกเห็บที่มีขนาดเม็ดเท่าลูกอม 


ด้านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง บอกว่า สภาพอากาศแปรปวนมาก เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก โดยช่วงเย็นเวลาประมาณ 16.55 น. มีทั้งฝนฟ้าคะนอง และมีลูกเห็บตกลงมาเหมือนพายุ นานจนถึงเวลา 17.10 น. จนขาวโพลนไปหมด ซึ่งวันนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่ในฤดูหนาวมีลูกเห็บตกบนอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ทำให้วันนี้มีทั้งอากาศหนาว ฝนและลูกเห็บตก และกลางวันยังร้อน หลังหยุดตกต้องให้ทางเจ้าหน้าที่กวาดลูกเห็บบนถนน จนรถติดยาวกว่า 3 กิโลเมตร ทำให้ถนนลื่นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีอุบัติเหตุแต่อย่างใด และยังมีรายงานมีฝนและลูกเห็บตกในอีกหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางจังหวัดกำลังสำรวจความเสียหาย

ส่วนที่จังหวัดแพร่ค่ำวานนี้ เกิดพายุกระหน่ำอย่างรุนแรงพร้อมกับฝนและลูกเห็บตกในเขตอำเภอสอง อำเภอร้องกวาง หม้อแปลงไฟฟ้าที่บ้านหมู่ที่ 5 ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ระเบิดเสียงดังสนั่น ต้นไม้ขนาดใหญ่ข้างทางหักโค่นล้มลงมาพาดสายไฟแรงสูง ทำให้ไฟฟ้าดับใน ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.แม่ยางร้อง ต้องระดมลูกบ้านออกมาตัดต้นไม้ที่ล้มทับสายไปและขวางถนนขาขึ้นถนนสายร้องกวาง-งาว ซึ่งพายุฝนในครั้งนี้มาเร็วมากชาวบ้านไม่ได้ตั้งตัวทำให้ต้นไม้หักโค่นหลายต้นและยังหักโค่นลงมาทับสายไฟฟ้าแรงสูงจนทำให้หม้อแปลงระเบิดขณะนี้ไปฟ้าดับทั้งตำบล

ขณะเดียวกัน ที่หลัก กม.ที่ 10-11 ถนนสายร้องกวาง-งาว หมู่ที่ 5 ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง บนถนนขาล่องได้เกิดต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มลงมาทับรถยนต์ปิกอัพโตโยต้าสีขาวทะเบียน งค 6302 นครราชสีมา มีนายเสกสันต์ คำของ อายุ 24 ปี เป็นคนขับ มาพร้อมกับญาติ 3 คนนั่งมาด้วย ติดอยู่ในรถเนื่องจากประตูเปิดไม่ได้ กระจกด้านหน้าแตก หลังคายุบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพรานพิทักษ์ พร้อมกับชาวบ้านได้ช่วยกันตัดกิ่งไม้ที่ทับรถออก จากนั้นจึงได้นำคนในรถออกมาได้

นายเสกสันต์ คนขับ กล่าวว่า ได้พาภรรยาและญาติไปเที่ยวแม่สาย ตลอดระยะทางขากลับบ้าน ฝนก็ตกมาตั้งแต่พะเยา แต่มาตกหนักเมื่อเข้าเขตอำเภอสองและร้องกวาง ในขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุก็ไม่ได้ขับเร็วเพราะฝนตกหนักมองทางไม่ค่อยเห็น มาถึงที่เกิดเหตุ ต้องสะดุ้ง คิดว่าฟ้าผ่า เพราะต้นไม้หักโค่นลงมาทับหลังรถพอดีกระจกแตกและหลังคายุบออกจากรถไม่ได้ 

สำหรับพื้นที่จังหวัดแพร่ ที่ฝนตกหนักและมีพายุลูกเห็บคืออำเภอร้องกวาง ตำบลแม่ยางฮ่อ ตำบลแม่ยางร้อง และตำบลแม่ยางตาล ส่วนอำเภอสอง ตามถนนสายดังกล่าวมีต้นไม้ล้มลงมาขวางถนนในหลายจุดด้วยกัน เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงอำเภอสอง ต้องออกมาช่วยตัดกิ่งไม้ติดเส้นทาง ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายยังไม่มีรายงานแจ้งแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]