กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.– กพร.เผยปี 2563
เร่งเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมแร่เพื่อยกระดับให้ผลิตแร่ป้อนอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือ S-Curve ตามนโยบายรัฐบาล ทั้งอุตสาหกรรมยาน ยานยนต์สมัยใหม่และอื่น ๆ
ส่วนค่าภาคหลวงแร่ตั้งเป้าจัดเก็บได้กว่า 3,500 ล้านบาท
นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)
เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของกพร.ในปี 2563 กพร.
มีนโยบายในการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทย ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งสนับสนุน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ยา
ยานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น โดยกพร.จะพิจารณาแนวทางส่งเสริมยกระดับและพัฒนาการผลิตแร่ในประเทศไทย
มีศักยภาพในการผลิตแร่คุณภาพสูง เพื่อรองรับกับความต้องการขออุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้รวมถึงการรีไซเคิลเพื่อให้ได้แร่ด้วย
เช่น แร่เหล็ก แร่สังกะสี สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมยา แร่อื่น ๆ สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่เพื่อผลิตมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง
รวมถึงยังอนุมัติให้ภาคเอกชนทำการสำรวจแร่ลิเธียมที่จ.พังงา ชุมพร และระนอง
ที่เป็นแหล่งแร่ดีบุกเดือน เพราะแร่ชนิดนี้เป็นเพื่อนแร่ของแร่ดีบุก แร่ลิเธียมสามารถนำมาใช้ผลิตแบตเตอร์รี่รถยนต์ไฟฟ้าได้โดยอนุมัติไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี
2562 ซึ่งภาคเอกชนส่งทีมสำรวจลงพื้นที่แล้ว คาดว่า
น่าพบแหล่งแร่ ชนิดนี้ในประเทศไทยและมีศักยภาพเพียงพอในการทำเชิงพาณิชย์ได้
สำหรับเป้าหมายการจัดเก็บค่าภาคหลวงในปี 2563
กพร.ตั้งเป้าหมายว่าจะจัดเก็บได้ใก้ลเคียงกับปีนี้ ที่จัดเก็บได้ 3,500 ล้านบาทและอาจสูงกว่าบ้างเล็กน้อย เนื่องจากโครงการต่าง ๆ
ทั้งโครงการก่อสร้างพื้นฐานหลักและโครงการที่เกิดขึ้นตามมาจะมีการเริ่มลงมือก่อสร้างมากขึ้น
คาดว่า จะมีการใช้หินก่อสร้างมากขึ้นตามไปด้วย.-สำนักข่าวไทย