บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต-หัวลำโพงคึกคัก

สถานีขนส่งหมอชิต 28 ธ.ค.- บรรยากาศสถานีขนส่งหมอชิต และหัวลำโพงยังคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่ บขส.เผยภาพรวมคนกลับบ้านวันแรกน้อยกว่าที่ประเมินไว้ 


บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในช่วงเช้าวันนี้ วันแรกของวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ ยังมีประชาชนทยอยเดินทางมารอขึ้นรถกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าเทียบกับเมื่อวานถือว่ายังไม่หนาแน่น โดยประชาชนที่เดินทางกลับในวันนี้ส่วนใหญ่เพราะที่ทำงานเพิ่งหยุด เช่นหญิงคนนี้ที่จะเดินทางกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ แต่ตั๋วรถของ บขส.เต็มทุกที่นั่งแล้ว จึงต้องมารอซื้อตั๋วรถเสริมแทน บางคนมารอขึ้นรถกลับบ้านต่างจังหวัดตั้งแต่เช้า เพื่อรอขึ้นรถในช่วงเย็น  

สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ บขส. คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 26-28 ธันวาคม จึงเพิ่มเที่ยวรถจากปกติวันละ 5,419 เที่ยว เพิ่มขึ้นอีก 2,800 เที่ยว โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละ 165,802 คน และคาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันที่ 27-28 ธ.ค.มากที่สุดไม่ต่ำกว่า 160,000 คน 


ส่วนภาพรวมการเดินรถเมื่อวานนี้ มีประขาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาประมาณ 155,092 คน น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดไปแล้วก่อนหน้านี้ และส่วนหนึ่งใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง ส่วน บขส.ได้เตรียมรถโดยสารให้บริการกว่า 8,000 เที่ยว รองรับประชาชนได้กว่า 165,000 คน 

ขณะที่การจราจรโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ยังถือว่าเคลื่อนตัวได้ และจะมาชะลอตัวบริเวณประตูทางเข้า และบริเวณจอดรถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารจะเดินเข้ามาในสถานีขนส่ง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกไม่ให้จอดแช่ ส่วนการดูแลความปลอดภัยในทุกประตูจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าทุกใบ พร้อมทั้งตำรวจจาก สน.บางซื่อที่มาคอยดูแลความเรียบร้อยในช่วงนี้ด้วย 

ทั้งนี้ ในเที่ยวขากลับในวันที่ 1-3 มกราคม 2563 ทาง บขส.จะจัดเที่ยววิ่งจากปกติ วันละ 5,486 เที่ยว และเสริมเที่ยวรถอีก 2,118 เที่ยว รวม 7,604 เที่ยว ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 141,788 คน 


ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2563 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน สภาพการโดยสารปกติ และสำหรับช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารที่ได้สำรองตั๋วไว้เรียบร้อยแล้วมารอขึ้นขบวนรถไฟในช่วงบ่าย จนถึงค่ำ เพื่อจะเดินทางกลับไปให้ถึงภูมิลำเนาก่อนสิ้นปี ซึ่งการรถไฟฯ คาดว่าสามารถจัดส่งผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาได้หมดโดยไม่มีตกค้างทุกสถานี ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เพิ่มขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันนี้ จำนวน 1 ขบวน ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ คือ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.00 ถึงเวลา 09.10 น. ประมาณการผู้โดยสารภาพรวมวันนี้ ประมาณ  90,000 คน ขบวนรถปกติ 244 ขบวน ขบวนรถเสริม 1 ขบวน

ขณะที่การรถไฟฯ ได้สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค. 2562) มีจำนวนทั้งสิ้น 104,315 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออก 57,429 คน ผู้โดยสารขาเข้า 46,886 คน และผู้โดยสารขบวนรถเสริมพิเศษอีก 2,709 คน สำหรับเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด คือ สายใต้ มีจำนวน 32,592 คน รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 29,283 คน สายเหนือ 21,204 คน สายตะวันออก 12,418 คน และสายแม่กลอง 11,427 คน  

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ยืนยันว่า มีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ ตลอดเทศกาลปีใหม่ 2563 สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถข้อมูล หรือเสนอแนะ แจ้งเหตุได้ที่สายด่วนศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสภาพการจราจรทางเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ ถนนรามอินทรา กทม. ตรวจการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ถนนมิตรภาพ บริเวณเนินมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และบริเวณเนินคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัด นครราชสีมา  และบริเวณจุดบริการประชาชน เทศบาลตำบลคลองไผ่ ซึ่งนายศักดิ์สยาม ได้รับฟังการบรรยายสรุปแผนการป้องกันอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2563 จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้กำลังใจ และมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการอำนวยการดูแลประชาชนในตลอดเทศกาล

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงนโยบายกระทรวงคมนาคมในการอำนวยการเดินทางปีใหม่นี้ ภายใต้แนวคิดโครงการ “ใส่ใจกำลังสาม เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยตลอดปีใหม่” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนด้านต่าง ๆ อาทิ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปลอดภัย โดยตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสาร ณ จุดตรวจความพร้อมเข้มข้น (Checking Point) ทั้งการพักผ่อนที่เพียงพอและปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ด้านถนนปลอดภัยให้ปรับปรุงถนน ผิวทาง สะพานให้พร้อม ติดป้ายรณรงค์แนะนำตักเตือนเรื่องความปลอดภัย ในส่วนของการก่อสร้างช่องทางจราจรให้คืนพื้นที่ผิวจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทุกโครงการ และบริหารจัดการจราจรให้สามารถเดินรถได้โดยสะดวก โดยเฉพาะในเส้นทางสายหลักที่มีปริมาณรถหนาแน่น เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านด้วยความสะดวกและปลอดภัย พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ทุกด้าน เพื่อให้ได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทางทุกมิติ

สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ช่วงลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีรถวิ่งหนาแน่นเต็ม 4 ช่องทางหลัก ขามุ่งหน้าสู่ 20 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังสามารถวิ่งได้คล่องตัว ไม่มีปัญหาติดสะสม ทำความเร็วได้ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตำรวจจราจร สภ.สีคิ้ว จัดกำลังคอยอำนวยความสะดวก และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปิดจุดกลับรถอันตราย 4 จุด ตามเส้นทางถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ลำตะคองไปจนถึงแยกต่างระดับสีคิ้ว พร้อมเตรียมเปิดช่องทางพิเศษ หากเกิดสถานการณ์รถติดสะสมหนัก เพื่อเร่งระบายรถให้วิ่งคล่องตัว อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าการจราจร ถ.มิตรภาพ ช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา จะมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นตลอดทั้งวัน เนื่องจากประชาชนชาวภาคอีสาน มีการเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างคึกคัก

ขณะที่โรงพยาบาลพิมายนำผลไม้รถเปรี้ยวจัด ทั้งมะขาม มะยม มะม่วง   มาแจกให้กับผู้ขับขี่ ที่มีอาการง่วงซึม เมื่อยล้าจากการเดินทางระยะทางไกล บริเวณจุดบริการประชาชนบนถนนสายพิมาย-ชุมพวง ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพยาบาลสาวสวย มาคอยยืนแจก จะเปรี้ยวแค่ไหน ดูจากสีหน้าพยาบาลได้เลย

ส่วนบริเวณท่าเทียบเรือโดยสาร ด่านศุลกากรบึงกาฬ เริ่มคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวไทยลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ต่างเดินทางกลับบ้าน ฉลองวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศที่ท่าเรือด่านศุลกากรจังหวัดบึงกาฬเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ยังมีชาวลาวบางส่วนเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขากลับก็ยังซื้อสิ่งของเครื่องใช้สารพัดชนิด ติดมือกลับบ้านไปด้วย ซึ่งก็ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในชุมชน คาดในช่วงเทศกาลปีใหม่จังหวัดบึงกาฬจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนนับล้านบาท

ที่สถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นักท่องเที่ยว แรงงาน และประชาชน ยังใช้บริการเดินทางมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 จนที่นั่งเต็มทุกขบวนไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม การรถไฟแห่งประเทศไทย ต้องเพิ่มขบวนรถทั้งขาขึ้นและขาล่องจากปกติวันละ 11 ขบวน อีกวันละ 2 ขบวน ระหว่างวันที่ 27-28 ธ.ค.2562 และวันที่ 1-2 ม.ค.2563 โดยเป็นรถไฟที่นั่งชั้น 3 ทั้งหมด

ขณะที่ตำรวจ ทหาร และหน่วย รปภ.ของสถานี ระดมกำลังตรวจตราเข้มงวด ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุช่วงที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาใช้บริการกันหนาแน่น และให้บริการคนชรากับเด็ก พร้อมประชาสัมพันธ์ห้ามผู้โดยสารยืนหรือนั่งตามทางเดิน บันไดรถไฟ เพราะอาจพัดตกจากรถไฟและถูกรถไฟทับเสียชีวิตได้ 

ส่วนการจราจรสายเอเชีย เส้นทางขึ้นภาคเหนือ ตั้งแต่เขตรอยต่ออำเภอมหาราชจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านจังหวัดอ่างทองไปจนถึงเขตอำเภอพรหมบุรี จังหวัดอ่างทอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปริมาณรถที่เดินทางขึ้นเหนือเพิ่มขึ้นหนาแน่นจนเต็มทุกช่องทาง โดยเฉพาะสายเอเชีย กม.ที่ 59 ซึ่งเป็นจุดพักสถานีบริการน้ำมันและจุดพักรถ จุดแรกก่อนเดินทางขึ้นภาคเหนือ การจราจรติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องจัดช่องทางการจราจรด้านซ้าย 1 ช่องทาง ให้รถที่จะแวะเข้าพักภายในสถานีบริการน้ำมันใช้เป็นทางเข้าออก เพื่อลดปัญหา ขณะเดียวกันได้เปิดช่องทางการจราจรพิเศษในช่องทางขาเข้ากรุงเทพ 1 ช่องทางช่วง กม.ที่ 57-61 อ.ไชโย จ.อ่างทอง เพื่อให้ประชาชนที่ไม่ต้องการแวะพักใช้เส้นทาง แก้ไขปัญหาการจราจร โดยเริ่มเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่ช่วง 08.00 น.วันนี้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้จะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่แนะให้ประชาชนที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือให้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนสายเอเซียไปทางถนนทางหลวงสาย 33 ที่แยกป่าโมก เข้าถนนเลี่ยงเมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าสู่ จ.ชัยนาท ก่อนไปบรรจบถนนสายเอเชียอีกครั้ง หรือเข้าตัวเมืองอ่างทองใช้ถนนสาย 309 สิงห์บุรี สายเก่า เข้าจังหวัดชัยนาท ก็จะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น และคาดช่วงเย็นปริมาณรถยังคงเพิ่มต่อเนื่อง

สำหรับรถไฟที่จะขึ้นภาคเหนือ พบว่าเต็มทุกที่นั่ง แต่ก็ยังคงมีประชาชนยอมซื้อตั๋วยืนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว เช่นที่สถานีรถไฟจังหวัดพิจิตร  ขบวนรถไฟในเส้นทางสายเหนือ 2 ขบวนแรกในช่วงเช้า คือ ขบวนที่ 407 ต้นทางจากสถานีนครสวรรค์ปลายทางสถานีเชียงใหม่ และขบวนที่ 202 ต้นทางจากสถานีพิษณุโลกปลายทางกรุงเทพฯ มีประชาชนใช้บริการเต็มทุกที่นั่งในทุกตู้โดยสาร ส่งผลให้ประชาชนชาวพิจิตรที่รอการโดยสารและไม่ได้จองซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้า จึงต้องซื้อตั๋วยืนหรือตั๋วแบบไม่มีที่นั่งสำหรับการเดินทางกลับแทน

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่คึกคัก มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ซึ่งทางขนส่งจังหวัดกระบี่   ได้เตรียมเพิ่มรถโดยสารประจำทางสำรองเพิ่มอีก 20 คัน เพื่อรองรับผู้เดินทางในช่วงเย็นและค่ำวันนี้เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง  

เช่นเดียวกับที่จังหวัดตราด ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด รถยนต์โดยสารปรับอากาศที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครทยอยนำประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางสู่จังหวัดตราด เพื่อกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวยังหมู่เกาะช้าง และเกาะอื่น ๆ ในจังหวัดตราด

นายศิริพงษ์ ฆ้องวงศ์ นายสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด เปิดเผยว่าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารทั้งภาคเอกชน และบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เสริมรถยนต์โดยสารมาที่จังหวัดตราดปกติมีประมาณ 15 เที่ยว เป็น 30 เที่ยวต่อวัน เพื่อเป็นป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเดินทางไปพักผ่อนตามหมู่เกาะต่าง ๆ ของจังหวัดตราด อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวเหล่านี้บางส่วนต่างเข้าคิวเพื่อจองตั๋วกลับไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้