fbpx

บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต-หัวลำโพงคึกคัก

สถานีขนส่งหมอชิต 28 ธ.ค.- บรรยากาศสถานีขนส่งหมอชิต และหัวลำโพงยังคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่ บขส.เผยภาพรวมคนกลับบ้านวันแรกน้อยกว่าที่ประเมินไว้ 


บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในช่วงเช้าวันนี้ วันแรกของวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ ยังมีประชาชนทยอยเดินทางมารอขึ้นรถกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าเทียบกับเมื่อวานถือว่ายังไม่หนาแน่น โดยประชาชนที่เดินทางกลับในวันนี้ส่วนใหญ่เพราะที่ทำงานเพิ่งหยุด เช่นหญิงคนนี้ที่จะเดินทางกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ แต่ตั๋วรถของ บขส.เต็มทุกที่นั่งแล้ว จึงต้องมารอซื้อตั๋วรถเสริมแทน บางคนมารอขึ้นรถกลับบ้านต่างจังหวัดตั้งแต่เช้า เพื่อรอขึ้นรถในช่วงเย็น  

สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ บขส. คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 26-28 ธันวาคม จึงเพิ่มเที่ยวรถจากปกติวันละ 5,419 เที่ยว เพิ่มขึ้นอีก 2,800 เที่ยว โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละ 165,802 คน และคาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันที่ 27-28 ธ.ค.มากที่สุดไม่ต่ำกว่า 160,000 คน 


ส่วนภาพรวมการเดินรถเมื่อวานนี้ มีประขาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาประมาณ 155,092 คน น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดไปแล้วก่อนหน้านี้ และส่วนหนึ่งใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง ส่วน บขส.ได้เตรียมรถโดยสารให้บริการกว่า 8,000 เที่ยว รองรับประชาชนได้กว่า 165,000 คน 

ขณะที่การจราจรโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ยังถือว่าเคลื่อนตัวได้ และจะมาชะลอตัวบริเวณประตูทางเข้า และบริเวณจอดรถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารจะเดินเข้ามาในสถานีขนส่ง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกไม่ให้จอดแช่ ส่วนการดูแลความปลอดภัยในทุกประตูจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าทุกใบ พร้อมทั้งตำรวจจาก สน.บางซื่อที่มาคอยดูแลความเรียบร้อยในช่วงนี้ด้วย 

ทั้งนี้ ในเที่ยวขากลับในวันที่ 1-3 มกราคม 2563 ทาง บขส.จะจัดเที่ยววิ่งจากปกติ วันละ 5,486 เที่ยว และเสริมเที่ยวรถอีก 2,118 เที่ยว รวม 7,604 เที่ยว ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 141,788 คน 


ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2563 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน สภาพการโดยสารปกติ และสำหรับช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารที่ได้สำรองตั๋วไว้เรียบร้อยแล้วมารอขึ้นขบวนรถไฟในช่วงบ่าย จนถึงค่ำ เพื่อจะเดินทางกลับไปให้ถึงภูมิลำเนาก่อนสิ้นปี ซึ่งการรถไฟฯ คาดว่าสามารถจัดส่งผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาได้หมดโดยไม่มีตกค้างทุกสถานี ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เพิ่มขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันนี้ จำนวน 1 ขบวน ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ คือ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.00 ถึงเวลา 09.10 น. ประมาณการผู้โดยสารภาพรวมวันนี้ ประมาณ  90,000 คน ขบวนรถปกติ 244 ขบวน ขบวนรถเสริม 1 ขบวน

ขณะที่การรถไฟฯ ได้สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค. 2562) มีจำนวนทั้งสิ้น 104,315 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออก 57,429 คน ผู้โดยสารขาเข้า 46,886 คน และผู้โดยสารขบวนรถเสริมพิเศษอีก 2,709 คน สำหรับเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด คือ สายใต้ มีจำนวน 32,592 คน รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 29,283 คน สายเหนือ 21,204 คน สายตะวันออก 12,418 คน และสายแม่กลอง 11,427 คน  

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ยืนยันว่า มีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ ตลอดเทศกาลปีใหม่ 2563 สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถข้อมูล หรือเสนอแนะ แจ้งเหตุได้ที่สายด่วนศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสภาพการจราจรทางเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ ถนนรามอินทรา กทม. ตรวจการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ถนนมิตรภาพ บริเวณเนินมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และบริเวณเนินคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัด นครราชสีมา  และบริเวณจุดบริการประชาชน เทศบาลตำบลคลองไผ่ ซึ่งนายศักดิ์สยาม ได้รับฟังการบรรยายสรุปแผนการป้องกันอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2563 จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้กำลังใจ และมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการอำนวยการดูแลประชาชนในตลอดเทศกาล

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงนโยบายกระทรวงคมนาคมในการอำนวยการเดินทางปีใหม่นี้ ภายใต้แนวคิดโครงการ “ใส่ใจกำลังสาม เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยตลอดปีใหม่” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนด้านต่าง ๆ อาทิ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปลอดภัย โดยตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสาร ณ จุดตรวจความพร้อมเข้มข้น (Checking Point) ทั้งการพักผ่อนที่เพียงพอและปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ด้านถนนปลอดภัยให้ปรับปรุงถนน ผิวทาง สะพานให้พร้อม ติดป้ายรณรงค์แนะนำตักเตือนเรื่องความปลอดภัย ในส่วนของการก่อสร้างช่องทางจราจรให้คืนพื้นที่ผิวจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทุกโครงการ และบริหารจัดการจราจรให้สามารถเดินรถได้โดยสะดวก โดยเฉพาะในเส้นทางสายหลักที่มีปริมาณรถหนาแน่น เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านด้วยความสะดวกและปลอดภัย พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ทุกด้าน เพื่อให้ได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทางทุกมิติ

สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ช่วงลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีรถวิ่งหนาแน่นเต็ม 4 ช่องทางหลัก ขามุ่งหน้าสู่ 20 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังสามารถวิ่งได้คล่องตัว ไม่มีปัญหาติดสะสม ทำความเร็วได้ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตำรวจจราจร สภ.สีคิ้ว จัดกำลังคอยอำนวยความสะดวก และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปิดจุดกลับรถอันตราย 4 จุด ตามเส้นทางถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ลำตะคองไปจนถึงแยกต่างระดับสีคิ้ว พร้อมเตรียมเปิดช่องทางพิเศษ หากเกิดสถานการณ์รถติดสะสมหนัก เพื่อเร่งระบายรถให้วิ่งคล่องตัว อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าการจราจร ถ.มิตรภาพ ช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา จะมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นตลอดทั้งวัน เนื่องจากประชาชนชาวภาคอีสาน มีการเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างคึกคัก

ขณะที่โรงพยาบาลพิมายนำผลไม้รถเปรี้ยวจัด ทั้งมะขาม มะยม มะม่วง   มาแจกให้กับผู้ขับขี่ ที่มีอาการง่วงซึม เมื่อยล้าจากการเดินทางระยะทางไกล บริเวณจุดบริการประชาชนบนถนนสายพิมาย-ชุมพวง ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพยาบาลสาวสวย มาคอยยืนแจก จะเปรี้ยวแค่ไหน ดูจากสีหน้าพยาบาลได้เลย

ส่วนบริเวณท่าเทียบเรือโดยสาร ด่านศุลกากรบึงกาฬ เริ่มคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวไทยลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ต่างเดินทางกลับบ้าน ฉลองวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศที่ท่าเรือด่านศุลกากรจังหวัดบึงกาฬเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ยังมีชาวลาวบางส่วนเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขากลับก็ยังซื้อสิ่งของเครื่องใช้สารพัดชนิด ติดมือกลับบ้านไปด้วย ซึ่งก็ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในชุมชน คาดในช่วงเทศกาลปีใหม่จังหวัดบึงกาฬจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนนับล้านบาท

ที่สถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นักท่องเที่ยว แรงงาน และประชาชน ยังใช้บริการเดินทางมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 จนที่นั่งเต็มทุกขบวนไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม การรถไฟแห่งประเทศไทย ต้องเพิ่มขบวนรถทั้งขาขึ้นและขาล่องจากปกติวันละ 11 ขบวน อีกวันละ 2 ขบวน ระหว่างวันที่ 27-28 ธ.ค.2562 และวันที่ 1-2 ม.ค.2563 โดยเป็นรถไฟที่นั่งชั้น 3 ทั้งหมด

ขณะที่ตำรวจ ทหาร และหน่วย รปภ.ของสถานี ระดมกำลังตรวจตราเข้มงวด ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุช่วงที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาใช้บริการกันหนาแน่น และให้บริการคนชรากับเด็ก พร้อมประชาสัมพันธ์ห้ามผู้โดยสารยืนหรือนั่งตามทางเดิน บันไดรถไฟ เพราะอาจพัดตกจากรถไฟและถูกรถไฟทับเสียชีวิตได้ 

ส่วนการจราจรสายเอเชีย เส้นทางขึ้นภาคเหนือ ตั้งแต่เขตรอยต่ออำเภอมหาราชจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านจังหวัดอ่างทองไปจนถึงเขตอำเภอพรหมบุรี จังหวัดอ่างทอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปริมาณรถที่เดินทางขึ้นเหนือเพิ่มขึ้นหนาแน่นจนเต็มทุกช่องทาง โดยเฉพาะสายเอเชีย กม.ที่ 59 ซึ่งเป็นจุดพักสถานีบริการน้ำมันและจุดพักรถ จุดแรกก่อนเดินทางขึ้นภาคเหนือ การจราจรติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องจัดช่องทางการจราจรด้านซ้าย 1 ช่องทาง ให้รถที่จะแวะเข้าพักภายในสถานีบริการน้ำมันใช้เป็นทางเข้าออก เพื่อลดปัญหา ขณะเดียวกันได้เปิดช่องทางการจราจรพิเศษในช่องทางขาเข้ากรุงเทพ 1 ช่องทางช่วง กม.ที่ 57-61 อ.ไชโย จ.อ่างทอง เพื่อให้ประชาชนที่ไม่ต้องการแวะพักใช้เส้นทาง แก้ไขปัญหาการจราจร โดยเริ่มเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่ช่วง 08.00 น.วันนี้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้จะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่แนะให้ประชาชนที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือให้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนสายเอเซียไปทางถนนทางหลวงสาย 33 ที่แยกป่าโมก เข้าถนนเลี่ยงเมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าสู่ จ.ชัยนาท ก่อนไปบรรจบถนนสายเอเชียอีกครั้ง หรือเข้าตัวเมืองอ่างทองใช้ถนนสาย 309 สิงห์บุรี สายเก่า เข้าจังหวัดชัยนาท ก็จะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น และคาดช่วงเย็นปริมาณรถยังคงเพิ่มต่อเนื่อง

สำหรับรถไฟที่จะขึ้นภาคเหนือ พบว่าเต็มทุกที่นั่ง แต่ก็ยังคงมีประชาชนยอมซื้อตั๋วยืนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว เช่นที่สถานีรถไฟจังหวัดพิจิตร  ขบวนรถไฟในเส้นทางสายเหนือ 2 ขบวนแรกในช่วงเช้า คือ ขบวนที่ 407 ต้นทางจากสถานีนครสวรรค์ปลายทางสถานีเชียงใหม่ และขบวนที่ 202 ต้นทางจากสถานีพิษณุโลกปลายทางกรุงเทพฯ มีประชาชนใช้บริการเต็มทุกที่นั่งในทุกตู้โดยสาร ส่งผลให้ประชาชนชาวพิจิตรที่รอการโดยสารและไม่ได้จองซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้า จึงต้องซื้อตั๋วยืนหรือตั๋วแบบไม่มีที่นั่งสำหรับการเดินทางกลับแทน

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่คึกคัก มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ซึ่งทางขนส่งจังหวัดกระบี่   ได้เตรียมเพิ่มรถโดยสารประจำทางสำรองเพิ่มอีก 20 คัน เพื่อรองรับผู้เดินทางในช่วงเย็นและค่ำวันนี้เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง  

เช่นเดียวกับที่จังหวัดตราด ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด รถยนต์โดยสารปรับอากาศที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครทยอยนำประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางสู่จังหวัดตราด เพื่อกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวยังหมู่เกาะช้าง และเกาะอื่น ๆ ในจังหวัดตราด

นายศิริพงษ์ ฆ้องวงศ์ นายสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด เปิดเผยว่าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารทั้งภาคเอกชน และบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เสริมรถยนต์โดยสารมาที่จังหวัดตราดปกติมีประมาณ 15 เที่ยว เป็น 30 เที่ยวต่อวัน เพื่อเป็นป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเดินทางไปพักผ่อนตามหมู่เกาะต่าง ๆ ของจังหวัดตราด อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวเหล่านี้บางส่วนต่างเข้าคิวเพื่อจองตั๋วกลับไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด