บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต-หัวลำโพงคึกคัก

สถานีขนส่งหมอชิต 28 ธ.ค.- บรรยากาศสถานีขนส่งหมอชิต และหัวลำโพงยังคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่ บขส.เผยภาพรวมคนกลับบ้านวันแรกน้อยกว่าที่ประเมินไว้ 


บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในช่วงเช้าวันนี้ วันแรกของวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ ยังมีประชาชนทยอยเดินทางมารอขึ้นรถกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าเทียบกับเมื่อวานถือว่ายังไม่หนาแน่น โดยประชาชนที่เดินทางกลับในวันนี้ส่วนใหญ่เพราะที่ทำงานเพิ่งหยุด เช่นหญิงคนนี้ที่จะเดินทางกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ แต่ตั๋วรถของ บขส.เต็มทุกที่นั่งแล้ว จึงต้องมารอซื้อตั๋วรถเสริมแทน บางคนมารอขึ้นรถกลับบ้านต่างจังหวัดตั้งแต่เช้า เพื่อรอขึ้นรถในช่วงเย็น  

สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ บขส. คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 26-28 ธันวาคม จึงเพิ่มเที่ยวรถจากปกติวันละ 5,419 เที่ยว เพิ่มขึ้นอีก 2,800 เที่ยว โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละ 165,802 คน และคาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันที่ 27-28 ธ.ค.มากที่สุดไม่ต่ำกว่า 160,000 คน 


ส่วนภาพรวมการเดินรถเมื่อวานนี้ มีประขาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาประมาณ 155,092 คน น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดไปแล้วก่อนหน้านี้ และส่วนหนึ่งใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง ส่วน บขส.ได้เตรียมรถโดยสารให้บริการกว่า 8,000 เที่ยว รองรับประชาชนได้กว่า 165,000 คน 

ขณะที่การจราจรโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ยังถือว่าเคลื่อนตัวได้ และจะมาชะลอตัวบริเวณประตูทางเข้า และบริเวณจอดรถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารจะเดินเข้ามาในสถานีขนส่ง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกไม่ให้จอดแช่ ส่วนการดูแลความปลอดภัยในทุกประตูจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าทุกใบ พร้อมทั้งตำรวจจาก สน.บางซื่อที่มาคอยดูแลความเรียบร้อยในช่วงนี้ด้วย 

ทั้งนี้ ในเที่ยวขากลับในวันที่ 1-3 มกราคม 2563 ทาง บขส.จะจัดเที่ยววิ่งจากปกติ วันละ 5,486 เที่ยว และเสริมเที่ยวรถอีก 2,118 เที่ยว รวม 7,604 เที่ยว ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 141,788 คน 


ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2563 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน สภาพการโดยสารปกติ และสำหรับช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารที่ได้สำรองตั๋วไว้เรียบร้อยแล้วมารอขึ้นขบวนรถไฟในช่วงบ่าย จนถึงค่ำ เพื่อจะเดินทางกลับไปให้ถึงภูมิลำเนาก่อนสิ้นปี ซึ่งการรถไฟฯ คาดว่าสามารถจัดส่งผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาได้หมดโดยไม่มีตกค้างทุกสถานี ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เพิ่มขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันนี้ จำนวน 1 ขบวน ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ คือ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.00 ถึงเวลา 09.10 น. ประมาณการผู้โดยสารภาพรวมวันนี้ ประมาณ  90,000 คน ขบวนรถปกติ 244 ขบวน ขบวนรถเสริม 1 ขบวน

ขณะที่การรถไฟฯ ได้สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค. 2562) มีจำนวนทั้งสิ้น 104,315 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออก 57,429 คน ผู้โดยสารขาเข้า 46,886 คน และผู้โดยสารขบวนรถเสริมพิเศษอีก 2,709 คน สำหรับเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด คือ สายใต้ มีจำนวน 32,592 คน รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 29,283 คน สายเหนือ 21,204 คน สายตะวันออก 12,418 คน และสายแม่กลอง 11,427 คน  

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ยืนยันว่า มีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ ตลอดเทศกาลปีใหม่ 2563 สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถข้อมูล หรือเสนอแนะ แจ้งเหตุได้ที่สายด่วนศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสภาพการจราจรทางเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ ถนนรามอินทรา กทม. ตรวจการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ถนนมิตรภาพ บริเวณเนินมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และบริเวณเนินคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัด นครราชสีมา  และบริเวณจุดบริการประชาชน เทศบาลตำบลคลองไผ่ ซึ่งนายศักดิ์สยาม ได้รับฟังการบรรยายสรุปแผนการป้องกันอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2563 จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้กำลังใจ และมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการอำนวยการดูแลประชาชนในตลอดเทศกาล

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงนโยบายกระทรวงคมนาคมในการอำนวยการเดินทางปีใหม่นี้ ภายใต้แนวคิดโครงการ “ใส่ใจกำลังสาม เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยตลอดปีใหม่” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนด้านต่าง ๆ อาทิ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปลอดภัย โดยตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสาร ณ จุดตรวจความพร้อมเข้มข้น (Checking Point) ทั้งการพักผ่อนที่เพียงพอและปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ด้านถนนปลอดภัยให้ปรับปรุงถนน ผิวทาง สะพานให้พร้อม ติดป้ายรณรงค์แนะนำตักเตือนเรื่องความปลอดภัย ในส่วนของการก่อสร้างช่องทางจราจรให้คืนพื้นที่ผิวจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทุกโครงการ และบริหารจัดการจราจรให้สามารถเดินรถได้โดยสะดวก โดยเฉพาะในเส้นทางสายหลักที่มีปริมาณรถหนาแน่น เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านด้วยความสะดวกและปลอดภัย พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ทุกด้าน เพื่อให้ได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทางทุกมิติ

สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ช่วงลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีรถวิ่งหนาแน่นเต็ม 4 ช่องทางหลัก ขามุ่งหน้าสู่ 20 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังสามารถวิ่งได้คล่องตัว ไม่มีปัญหาติดสะสม ทำความเร็วได้ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตำรวจจราจร สภ.สีคิ้ว จัดกำลังคอยอำนวยความสะดวก และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปิดจุดกลับรถอันตราย 4 จุด ตามเส้นทางถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ลำตะคองไปจนถึงแยกต่างระดับสีคิ้ว พร้อมเตรียมเปิดช่องทางพิเศษ หากเกิดสถานการณ์รถติดสะสมหนัก เพื่อเร่งระบายรถให้วิ่งคล่องตัว อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าการจราจร ถ.มิตรภาพ ช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา จะมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นตลอดทั้งวัน เนื่องจากประชาชนชาวภาคอีสาน มีการเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างคึกคัก

ขณะที่โรงพยาบาลพิมายนำผลไม้รถเปรี้ยวจัด ทั้งมะขาม มะยม มะม่วง   มาแจกให้กับผู้ขับขี่ ที่มีอาการง่วงซึม เมื่อยล้าจากการเดินทางระยะทางไกล บริเวณจุดบริการประชาชนบนถนนสายพิมาย-ชุมพวง ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพยาบาลสาวสวย มาคอยยืนแจก จะเปรี้ยวแค่ไหน ดูจากสีหน้าพยาบาลได้เลย

ส่วนบริเวณท่าเทียบเรือโดยสาร ด่านศุลกากรบึงกาฬ เริ่มคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวไทยลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ต่างเดินทางกลับบ้าน ฉลองวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศที่ท่าเรือด่านศุลกากรจังหวัดบึงกาฬเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ยังมีชาวลาวบางส่วนเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขากลับก็ยังซื้อสิ่งของเครื่องใช้สารพัดชนิด ติดมือกลับบ้านไปด้วย ซึ่งก็ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในชุมชน คาดในช่วงเทศกาลปีใหม่จังหวัดบึงกาฬจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนนับล้านบาท

ที่สถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นักท่องเที่ยว แรงงาน และประชาชน ยังใช้บริการเดินทางมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 จนที่นั่งเต็มทุกขบวนไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม การรถไฟแห่งประเทศไทย ต้องเพิ่มขบวนรถทั้งขาขึ้นและขาล่องจากปกติวันละ 11 ขบวน อีกวันละ 2 ขบวน ระหว่างวันที่ 27-28 ธ.ค.2562 และวันที่ 1-2 ม.ค.2563 โดยเป็นรถไฟที่นั่งชั้น 3 ทั้งหมด

ขณะที่ตำรวจ ทหาร และหน่วย รปภ.ของสถานี ระดมกำลังตรวจตราเข้มงวด ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุช่วงที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาใช้บริการกันหนาแน่น และให้บริการคนชรากับเด็ก พร้อมประชาสัมพันธ์ห้ามผู้โดยสารยืนหรือนั่งตามทางเดิน บันไดรถไฟ เพราะอาจพัดตกจากรถไฟและถูกรถไฟทับเสียชีวิตได้ 

ส่วนการจราจรสายเอเชีย เส้นทางขึ้นภาคเหนือ ตั้งแต่เขตรอยต่ออำเภอมหาราชจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านจังหวัดอ่างทองไปจนถึงเขตอำเภอพรหมบุรี จังหวัดอ่างทอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปริมาณรถที่เดินทางขึ้นเหนือเพิ่มขึ้นหนาแน่นจนเต็มทุกช่องทาง โดยเฉพาะสายเอเชีย กม.ที่ 59 ซึ่งเป็นจุดพักสถานีบริการน้ำมันและจุดพักรถ จุดแรกก่อนเดินทางขึ้นภาคเหนือ การจราจรติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องจัดช่องทางการจราจรด้านซ้าย 1 ช่องทาง ให้รถที่จะแวะเข้าพักภายในสถานีบริการน้ำมันใช้เป็นทางเข้าออก เพื่อลดปัญหา ขณะเดียวกันได้เปิดช่องทางการจราจรพิเศษในช่องทางขาเข้ากรุงเทพ 1 ช่องทางช่วง กม.ที่ 57-61 อ.ไชโย จ.อ่างทอง เพื่อให้ประชาชนที่ไม่ต้องการแวะพักใช้เส้นทาง แก้ไขปัญหาการจราจร โดยเริ่มเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่ช่วง 08.00 น.วันนี้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้จะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่แนะให้ประชาชนที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือให้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนสายเอเซียไปทางถนนทางหลวงสาย 33 ที่แยกป่าโมก เข้าถนนเลี่ยงเมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าสู่ จ.ชัยนาท ก่อนไปบรรจบถนนสายเอเชียอีกครั้ง หรือเข้าตัวเมืองอ่างทองใช้ถนนสาย 309 สิงห์บุรี สายเก่า เข้าจังหวัดชัยนาท ก็จะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น และคาดช่วงเย็นปริมาณรถยังคงเพิ่มต่อเนื่อง

สำหรับรถไฟที่จะขึ้นภาคเหนือ พบว่าเต็มทุกที่นั่ง แต่ก็ยังคงมีประชาชนยอมซื้อตั๋วยืนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว เช่นที่สถานีรถไฟจังหวัดพิจิตร  ขบวนรถไฟในเส้นทางสายเหนือ 2 ขบวนแรกในช่วงเช้า คือ ขบวนที่ 407 ต้นทางจากสถานีนครสวรรค์ปลายทางสถานีเชียงใหม่ และขบวนที่ 202 ต้นทางจากสถานีพิษณุโลกปลายทางกรุงเทพฯ มีประชาชนใช้บริการเต็มทุกที่นั่งในทุกตู้โดยสาร ส่งผลให้ประชาชนชาวพิจิตรที่รอการโดยสารและไม่ได้จองซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้า จึงต้องซื้อตั๋วยืนหรือตั๋วแบบไม่มีที่นั่งสำหรับการเดินทางกลับแทน

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่คึกคัก มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ซึ่งทางขนส่งจังหวัดกระบี่   ได้เตรียมเพิ่มรถโดยสารประจำทางสำรองเพิ่มอีก 20 คัน เพื่อรองรับผู้เดินทางในช่วงเย็นและค่ำวันนี้เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง  

เช่นเดียวกับที่จังหวัดตราด ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด รถยนต์โดยสารปรับอากาศที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครทยอยนำประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางสู่จังหวัดตราด เพื่อกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวยังหมู่เกาะช้าง และเกาะอื่น ๆ ในจังหวัดตราด

นายศิริพงษ์ ฆ้องวงศ์ นายสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด เปิดเผยว่าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารทั้งภาคเอกชน และบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เสริมรถยนต์โดยสารมาที่จังหวัดตราดปกติมีประมาณ 15 เที่ยว เป็น 30 เที่ยวต่อวัน เพื่อเป็นป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเดินทางไปพักผ่อนตามหมู่เกาะต่าง ๆ ของจังหวัดตราด อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวเหล่านี้บางส่วนต่างเข้าคิวเพื่อจองตั๋วกลับไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้คดีมีความเสียหายใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]

เปิดสัมพันธ์ลับ “ทิดแย้ม-สีกา”

16 พ.ค. – เปิดความสัมพันธ์ลับระหว่าง “ทิดแย้ม-สีกา” เริ่มตั้งแต่สีกายังเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดไร่ขิง อดีตเจ้าอาวาสให้ความเมตตา จึงเอ่ยปากยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 ความสัมพันธ์ระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 หรือ ทิดแย้ม กับสีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งได้ข้อมูลจากการสอบปากคำทั้ง 2 คน ตลอดคืน รวมถึงหลักฐานสำคัญในโทรศัพม์มือถือของทั้ง 2 คน ทำให้พบว่าความสัมพันธ์นี้ถึงขั้นลึกซึ้ง น.ส.อรัญญาวรรณ รับสารภาพว่ารู้จักกับทิดแย้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง โดยอดีตเจ้าอาวาสขณะนั้นให้ความเมตตา จึงลองเอ่ยปากขอยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 สอดคล้องกับที่ทิดแย้มให้การว่าได้โอนเงินไปให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ช่วงปี 2564 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญคือ คลิปการสนทนาระหว่างทิดแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่มีการพูดคุยถึงเรื่องการทวงเงินเพราะครบดีล ถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 5 […]

เตรียมฝากขัง “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พรุ่งนี้ ค้านประกันตัว

นครปฐม 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ประกอบด้วย ในวัดไร่ขิง 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง 1 จุด เพื่อขยายผลค้นหาพยานหลักฐานในคดีที่พระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์ พื้นที่เป้าหมายสำคัญจุดแรกคือ กุฏิของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายค้น มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายและนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ รวมถึงเอกสารรายรับ-รายจ่าย 10 ลัง เกือบ […]