บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต-หัวลำโพงคึกคัก

สถานีขนส่งหมอชิต 28 ธ.ค.- บรรยากาศสถานีขนส่งหมอชิต และหัวลำโพงยังคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่ บขส.เผยภาพรวมคนกลับบ้านวันแรกน้อยกว่าที่ประเมินไว้ 


บรรยากาศที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในช่วงเช้าวันนี้ วันแรกของวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ ยังมีประชาชนทยอยเดินทางมารอขึ้นรถกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าเทียบกับเมื่อวานถือว่ายังไม่หนาแน่น โดยประชาชนที่เดินทางกลับในวันนี้ส่วนใหญ่เพราะที่ทำงานเพิ่งหยุด เช่นหญิงคนนี้ที่จะเดินทางกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ แต่ตั๋วรถของ บขส.เต็มทุกที่นั่งแล้ว จึงต้องมารอซื้อตั๋วรถเสริมแทน บางคนมารอขึ้นรถกลับบ้านต่างจังหวัดตั้งแต่เช้า เพื่อรอขึ้นรถในช่วงเย็น  

สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ บขส. คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 26-28 ธันวาคม จึงเพิ่มเที่ยวรถจากปกติวันละ 5,419 เที่ยว เพิ่มขึ้นอีก 2,800 เที่ยว โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละ 165,802 คน และคาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันที่ 27-28 ธ.ค.มากที่สุดไม่ต่ำกว่า 160,000 คน 


ส่วนภาพรวมการเดินรถเมื่อวานนี้ มีประขาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาประมาณ 155,092 คน น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดไปแล้วก่อนหน้านี้ และส่วนหนึ่งใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง ส่วน บขส.ได้เตรียมรถโดยสารให้บริการกว่า 8,000 เที่ยว รองรับประชาชนได้กว่า 165,000 คน 

ขณะที่การจราจรโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ยังถือว่าเคลื่อนตัวได้ และจะมาชะลอตัวบริเวณประตูทางเข้า และบริเวณจอดรถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารจะเดินเข้ามาในสถานีขนส่ง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกไม่ให้จอดแช่ ส่วนการดูแลความปลอดภัยในทุกประตูจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าทุกใบ พร้อมทั้งตำรวจจาก สน.บางซื่อที่มาคอยดูแลความเรียบร้อยในช่วงนี้ด้วย 

ทั้งนี้ ในเที่ยวขากลับในวันที่ 1-3 มกราคม 2563 ทาง บขส.จะจัดเที่ยววิ่งจากปกติ วันละ 5,486 เที่ยว และเสริมเที่ยวรถอีก 2,118 เที่ยว รวม 7,604 เที่ยว ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 141,788 คน 


ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2563 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน สภาพการโดยสารปกติ และสำหรับช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ ยังคงมีผู้โดยสารที่ได้สำรองตั๋วไว้เรียบร้อยแล้วมารอขึ้นขบวนรถไฟในช่วงบ่าย จนถึงค่ำ เพื่อจะเดินทางกลับไปให้ถึงภูมิลำเนาก่อนสิ้นปี ซึ่งการรถไฟฯ คาดว่าสามารถจัดส่งผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาได้หมดโดยไม่มีตกค้างทุกสถานี ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เพิ่มขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันนี้ จำนวน 1 ขบวน ในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ คือ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.00 ถึงเวลา 09.10 น. ประมาณการผู้โดยสารภาพรวมวันนี้ ประมาณ  90,000 คน ขบวนรถปกติ 244 ขบวน ขบวนรถเสริม 1 ขบวน

ขณะที่การรถไฟฯ ได้สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค. 2562) มีจำนวนทั้งสิ้น 104,315 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาออก 57,429 คน ผู้โดยสารขาเข้า 46,886 คน และผู้โดยสารขบวนรถเสริมพิเศษอีก 2,709 คน สำหรับเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด คือ สายใต้ มีจำนวน 32,592 คน รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 29,283 คน สายเหนือ 21,204 คน สายตะวันออก 12,418 คน และสายแม่กลอง 11,427 คน  

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ยืนยันว่า มีขบวนรถไฟโดยสารได้อย่างเพียงพอ ตลอดเทศกาลปีใหม่ 2563 สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสามารถข้อมูล หรือเสนอแนะ แจ้งเหตุได้ที่สายด่วนศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสภาพการจราจรทางเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ ถนนรามอินทรา กทม. ตรวจการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ถนนมิตรภาพ บริเวณเนินมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และบริเวณเนินคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัด นครราชสีมา  และบริเวณจุดบริการประชาชน เทศบาลตำบลคลองไผ่ ซึ่งนายศักดิ์สยาม ได้รับฟังการบรรยายสรุปแผนการป้องกันอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2563 จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้กำลังใจ และมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการอำนวยการดูแลประชาชนในตลอดเทศกาล

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงนโยบายกระทรวงคมนาคมในการอำนวยการเดินทางปีใหม่นี้ ภายใต้แนวคิดโครงการ “ใส่ใจกำลังสาม เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยตลอดปีใหม่” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนด้านต่าง ๆ อาทิ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปลอดภัย โดยตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถโดยสาร ณ จุดตรวจความพร้อมเข้มข้น (Checking Point) ทั้งการพักผ่อนที่เพียงพอและปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ด้านถนนปลอดภัยให้ปรับปรุงถนน ผิวทาง สะพานให้พร้อม ติดป้ายรณรงค์แนะนำตักเตือนเรื่องความปลอดภัย ในส่วนของการก่อสร้างช่องทางจราจรให้คืนพื้นที่ผิวจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทุกโครงการ และบริหารจัดการจราจรให้สามารถเดินรถได้โดยสะดวก โดยเฉพาะในเส้นทางสายหลักที่มีปริมาณรถหนาแน่น เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านด้วยความสะดวกและปลอดภัย พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ทุกด้าน เพื่อให้ได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทางทุกมิติ

สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ช่วงลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีรถวิ่งหนาแน่นเต็ม 4 ช่องทางหลัก ขามุ่งหน้าสู่ 20 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังสามารถวิ่งได้คล่องตัว ไม่มีปัญหาติดสะสม ทำความเร็วได้ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตำรวจจราจร สภ.สีคิ้ว จัดกำลังคอยอำนวยความสะดวก และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปิดจุดกลับรถอันตราย 4 จุด ตามเส้นทางถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ลำตะคองไปจนถึงแยกต่างระดับสีคิ้ว พร้อมเตรียมเปิดช่องทางพิเศษ หากเกิดสถานการณ์รถติดสะสมหนัก เพื่อเร่งระบายรถให้วิ่งคล่องตัว อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าการจราจร ถ.มิตรภาพ ช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา จะมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นตลอดทั้งวัน เนื่องจากประชาชนชาวภาคอีสาน มีการเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างคึกคัก

ขณะที่โรงพยาบาลพิมายนำผลไม้รถเปรี้ยวจัด ทั้งมะขาม มะยม มะม่วง   มาแจกให้กับผู้ขับขี่ ที่มีอาการง่วงซึม เมื่อยล้าจากการเดินทางระยะทางไกล บริเวณจุดบริการประชาชนบนถนนสายพิมาย-ชุมพวง ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพยาบาลสาวสวย มาคอยยืนแจก จะเปรี้ยวแค่ไหน ดูจากสีหน้าพยาบาลได้เลย

ส่วนบริเวณท่าเทียบเรือโดยสาร ด่านศุลกากรบึงกาฬ เริ่มคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวไทยลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ต่างเดินทางกลับบ้าน ฉลองวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศที่ท่าเรือด่านศุลกากรจังหวัดบึงกาฬเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ยังมีชาวลาวบางส่วนเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขากลับก็ยังซื้อสิ่งของเครื่องใช้สารพัดชนิด ติดมือกลับบ้านไปด้วย ซึ่งก็ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในชุมชน คาดในช่วงเทศกาลปีใหม่จังหวัดบึงกาฬจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนนับล้านบาท

ที่สถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นักท่องเที่ยว แรงงาน และประชาชน ยังใช้บริการเดินทางมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 จนที่นั่งเต็มทุกขบวนไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม การรถไฟแห่งประเทศไทย ต้องเพิ่มขบวนรถทั้งขาขึ้นและขาล่องจากปกติวันละ 11 ขบวน อีกวันละ 2 ขบวน ระหว่างวันที่ 27-28 ธ.ค.2562 และวันที่ 1-2 ม.ค.2563 โดยเป็นรถไฟที่นั่งชั้น 3 ทั้งหมด

ขณะที่ตำรวจ ทหาร และหน่วย รปภ.ของสถานี ระดมกำลังตรวจตราเข้มงวด ป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุช่วงที่มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมาใช้บริการกันหนาแน่น และให้บริการคนชรากับเด็ก พร้อมประชาสัมพันธ์ห้ามผู้โดยสารยืนหรือนั่งตามทางเดิน บันไดรถไฟ เพราะอาจพัดตกจากรถไฟและถูกรถไฟทับเสียชีวิตได้ 

ส่วนการจราจรสายเอเชีย เส้นทางขึ้นภาคเหนือ ตั้งแต่เขตรอยต่ออำเภอมหาราชจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านจังหวัดอ่างทองไปจนถึงเขตอำเภอพรหมบุรี จังหวัดอ่างทอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ปริมาณรถที่เดินทางขึ้นเหนือเพิ่มขึ้นหนาแน่นจนเต็มทุกช่องทาง โดยเฉพาะสายเอเชีย กม.ที่ 59 ซึ่งเป็นจุดพักสถานีบริการน้ำมันและจุดพักรถ จุดแรกก่อนเดินทางขึ้นภาคเหนือ การจราจรติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องจัดช่องทางการจราจรด้านซ้าย 1 ช่องทาง ให้รถที่จะแวะเข้าพักภายในสถานีบริการน้ำมันใช้เป็นทางเข้าออก เพื่อลดปัญหา ขณะเดียวกันได้เปิดช่องทางการจราจรพิเศษในช่องทางขาเข้ากรุงเทพ 1 ช่องทางช่วง กม.ที่ 57-61 อ.ไชโย จ.อ่างทอง เพื่อให้ประชาชนที่ไม่ต้องการแวะพักใช้เส้นทาง แก้ไขปัญหาการจราจร โดยเริ่มเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่ช่วง 08.00 น.วันนี้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้จะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่แนะให้ประชาชนที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือให้ใช้เส้นทางเลี่ยงจากถนนสายเอเซียไปทางถนนทางหลวงสาย 33 ที่แยกป่าโมก เข้าถนนเลี่ยงเมือง จ.สุพรรณบุรี เข้าสู่ จ.ชัยนาท ก่อนไปบรรจบถนนสายเอเชียอีกครั้ง หรือเข้าตัวเมืองอ่างทองใช้ถนนสาย 309 สิงห์บุรี สายเก่า เข้าจังหวัดชัยนาท ก็จะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น และคาดช่วงเย็นปริมาณรถยังคงเพิ่มต่อเนื่อง

สำหรับรถไฟที่จะขึ้นภาคเหนือ พบว่าเต็มทุกที่นั่ง แต่ก็ยังคงมีประชาชนยอมซื้อตั๋วยืนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว เช่นที่สถานีรถไฟจังหวัดพิจิตร  ขบวนรถไฟในเส้นทางสายเหนือ 2 ขบวนแรกในช่วงเช้า คือ ขบวนที่ 407 ต้นทางจากสถานีนครสวรรค์ปลายทางสถานีเชียงใหม่ และขบวนที่ 202 ต้นทางจากสถานีพิษณุโลกปลายทางกรุงเทพฯ มีประชาชนใช้บริการเต็มทุกที่นั่งในทุกตู้โดยสาร ส่งผลให้ประชาชนชาวพิจิตรที่รอการโดยสารและไม่ได้จองซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้า จึงต้องซื้อตั๋วยืนหรือตั๋วแบบไม่มีที่นั่งสำหรับการเดินทางกลับแทน

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่คึกคัก มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ซึ่งทางขนส่งจังหวัดกระบี่   ได้เตรียมเพิ่มรถโดยสารประจำทางสำรองเพิ่มอีก 20 คัน เพื่อรองรับผู้เดินทางในช่วงเย็นและค่ำวันนี้เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง  

เช่นเดียวกับที่จังหวัดตราด ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด รถยนต์โดยสารปรับอากาศที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครทยอยนำประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางสู่จังหวัดตราด เพื่อกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวยังหมู่เกาะช้าง และเกาะอื่น ๆ ในจังหวัดตราด

นายศิริพงษ์ ฆ้องวงศ์ นายสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตราด เปิดเผยว่าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารทั้งภาคเอกชน และบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เสริมรถยนต์โดยสารมาที่จังหวัดตราดปกติมีประมาณ 15 เที่ยว เป็น 30 เที่ยวต่อวัน เพื่อเป็นป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเดินทางไปพักผ่อนตามหมู่เกาะต่าง ๆ ของจังหวัดตราด อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวเหล่านี้บางส่วนต่างเข้าคิวเพื่อจองตั๋วกลับไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” นำทีม ปชน.ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ

รัฐสภา 7 ก.ค.- “เท้ง” นำทีม สส.ปชน. ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ มุ่งสร้างศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ยึดโยงประชาชน หวังรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ปลดชนวนระเบิดเวลาการเมืองไทย ด้าน “พริษฐ์” เผยยังไม่คุย “ภูมิใจไทย” ชี้ให้เวลาพิสูจน์จุดยืน บอกให้ดูการกระทำ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม สส.พรรคประชาชน แถลงข่าวการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การยุบพรรคตัดสิทธินักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน คำถามต่อการตรวจสอบคดีการโกงการเลือก สว. หรือการขาดความรับผิดรับชอบจากกรณีตึก สตง. ถล่ม ล้วนมีต้นตอมาจากการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ถูกขยายขอบเขตอำนาจในการตรวจสอบสถาบันทางการเมืองอื่น แต่กลับมีที่มาที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงขาดกลไกที่จะถูกประชาชนตรวจสอบได้โดยตรง ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะต้องมีการหารือร่วมกันทุกฝ่ายใน ส.ส.ร. แต่พรรคประชาชนเห็นว่ารัฐสภาเดินหน้าแก้ไขได้บาง มาตรา โดยเป็นการแก้ไขแบบคู่ขนานกันไป ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรายื่นในวันนี้ มุ่งสู่การสร้างศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ไม่เป็นอิสระจากประชาชนโดยแบ่งออกเป็น 3 ร่าง ร่างที่ 1 เป็นการ […]

สั่งระงับงานก่อสร้างในพื้นที่สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

กทม. 7 ก.ค. – เขตมีนบุรี สั่งระงับงานก่อสร้างภายในพื้นที่สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี ซอยนิมิตใหม่ 6 จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบโครงสร้าง-สาเหตุเหล็กล้มลงแล้วเสร็จ ด้าน กปน. ออกแถลงการณ์ ยืนยันไม่กระทบโครงสร้างอาคาร พร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บ ภาพจากกล้องวงจรปิด เผยนาทีโครงเหล็กภายในไซต์งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำของการประปานครหลวง (กปน.) ค่อยๆ เอนแล้วก็ล้มลงมา ทำให้คนงานที่นั่งทำงานอยู่บนนั้นได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 ก.ค.) ภายในสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี ซอยนิมิตใหม่ 6 เขตมีนบุรี ขณะเกิดเหตุมีคนงานปฏิบัติงานอยู่ 160 คน ออกมาภายนอกได้ทั้งหมด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คน ล่าสุดวันนี้ นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิภาพและคุ้มครองแรงงาน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้านใน ให้อยู่ด้านนอกรั้วเท่านั้น ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี ออกมาเปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการจ่ายน้ำของสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี กปน. โดยมีขนาดกว้าง […]

ชาวกัมพูชาแห่ขึ้นปราสาทตาควาย มากผิดปกติ

7 ก.ค. – ชาวกัมพูชา แห่ขึ้นปราสาทตาควาย ร่ายคาถาภาษาเขมร ทำพีธีเซ่นไหว้ ด้านคนไทยหวังดี เตือนคุณตาวัย 76 พิการขา เดินดีๆ แต่เจอตอบสวน “ถึงจะล้ม ก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” บรรยากาศที่ปราสาทตาควาย มีนักท่องเที่ยวกัมพูชา มาท่องเที่ยวมากผิดปกติกว่า 200 คน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน โดยชาวกัมพูชา นำเครื่องเซ่นไหว้ เข้าไปในตัวปราสาทควาย บริเวณจุดทำพิธี ทำพิธีอะไรเป็นภาษาเขมร ระหว่างนั้นมีชายชาวกัมพูชา ขาด้วนหนึ่งข้างอายุ 76 ปี มาจากจังหวัดเสียมเรียบ ใช้ไม้ค้ำประคองตัวเอง เพื่อที่จะขึ้นบันไดปราสาท ด้วยความหวังดีคนไทยกลัวว่าชายขาด้วนจะลื่นล้ม เพราะตะไคร้น้ำขึ้นตามบันไดหนาแน่น เลยเตือนว่า “ระวังลื่นล้มน่ะตาเดินดีๆ” ยังไม่ทันพูดจบ แทนที่ชายขาด้วนจะขอบคุณ ตอบกลับมาว่า “ถึงจะล้มก็ล้มบนผืนแผ่นดินกัมพูชา” นอกจากนี้ เกิดการโต้เถียงกันระหว่างนักท่องเที่ยวกัมพูชากับนักท่องเที่ยวไทย รวมไปถึงทหารฝั่งกัมพูชาและทหารฝั่งไทย หลังจากนักท่องเที่ยวกัมพูชาเอาผ้าพันคอที่มีสัญลักษณ์ธงชาติกัมพูชาเข้ามาแสดงสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่ไทยห้ามปรามจนเกิดปากเสียงกัน แต่ไม่ได้บานปลายเพียงก่อกวน.-สำนักข่าวไทย

“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“พิชัย” เผยไทยยื่นข้อเสนอเจรจาภาษีเพิ่มเติมถึงสหรัฐเมื่อคืน ลุ้นขยายเส้นตายออกไปจนถึง 1 ส.ค. ชี้การเจรจายังไม่จบ และข้อเสนอที่ส่งไปยังปรับปรุงได้ตลอด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐว่าในส่วนของประเทศไทยได้มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้ทางสหรัฐพิจารณาไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยข้อเสนอที่ยื่นไปอยู่บนหลักเกณฑ์เดิมที่เราเคยยื่นไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามการที่เราเดินทางไปเจรจาก่อนหน้านี้ ข้อเสนอที่มีอยู่ไม่ถึงขนาดที่ต้องแก้ไขอะไรใหม่ เพียงแต่ว่าเราไปฟังความเห็นของสหรัฐเองว่ามีรายการไหนที่เขาสนใจเป็นพิเศษ เราก็นำกลับมาดูอีกครั้งและปรับปรุงเท่าที่เราทำได้แล้วส่งไปให้พิจารณาใหม่ โดยเป็นการยื่นในเรื่องอัตราภาษีและสินค้า ซึ่งก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่เขานั่งดูอยู่ที่ไม่เกี่ยวกับอัตราภาษี สหรัฐก็กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งจริงๆแล้วเมื่อเขาประกาศออกมาเท่าไหร่ก็ยังไม่จบสามารถที่จะปรับปรุงไปได้เรื่อยๆ เมื่อถามว่าอัตราภาษีที่ไทยจะถูกเก็บจากสหรัฐยังคาดหวังที่ต่ำกว่า 18% ใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่าขณะนี้ประเทศที่ได้เจรจาแล้วยังมีจำนวนน้อย ตอนนี้ก็ต้องดูว่าจากข่าวที่ออกมาว่าอาจมีการเลื่อนออกไปจนถึง 1 ส.ค. ถึงจะกำหนดอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศที่เหลือที่เจรจาแล้ว จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เมื่อถามว่าเราจะยอมเหมือนเวียดนามให้เขานำเข้าแบบเสียภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่ นายพิชัย ตอบว่าอย่างที่บอกไปแล้วว่าเราต้องใช้หลักในการเปิดใจคุยกันด้วยความปรารถนาที่ดี เขามีอะไรที่อยากได้ แล้วเราก็เอารายการที่เคยซื้อสินค้าจากสหรัฐทั้งหมดมาดูอีกครั้ง ดังนั้นถามว่าเป็นอย่างไรในเรื่องการนำเข้าสินค้าเพิ่ม เราก็ต้องดูแลผู้ผลิตสินค้าในไทยด้วย ส่วนเรื่องของสินค้าสวมสิทธิ์เป็นเรื่องในหลักการอยู่ในข้ออื่นๆ ที่เขาก็ดูอยู่ ซึ่งประเทศไทยเราเองก็ทำงานในเรื่องนี้ บางเรื่องเราก็ให้สหรัฐมาทำงานร่วมกัน เข้ามาดูด้วยกันซึ่งกติกาแบบนี้ต้องทำต่อเนื่องตอนนี้ยังไม่จบ ถามต่อว่าประเทศไทยจะอยู่ในกลุ่มที่สหรัฐส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีที่จะต้องเสียเพิ่ม หรืออยู่ในกลุ่มที่ได้คุยต่อ นายพิชัย กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องรอดูก่อนว่าเขาว่าอย่างไร ซึ่งอีก 2 -3 วันก็จะได้ความชัดเจน.-314.-สำนักข่าวไทย