รมว.คมนาคม สั่งโดรนบินติดตามสภาพจราจร​ ถนนสายหลัก

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค.-รมว.คมนาคม สั่งการนำโดรนบินติดตามสภาพจราจร​ ถนนสายหลัก​ และรายงานแบบเรียลไทม์​เพื่อ​เร่งระบายการจราจร​ แก้รถติดสะสม​


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุม Conference กับผู้บริหารสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ และเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “รณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และส่งคนกลับบ้าน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563” ภายใต้โครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของกรมการขนส่งทางบก พร้อมตรวจเยี่ยมการอำนวยความสะดวก​ ประชาชนที่มารอขึ้นรถเดินทาง  ณ กรมการขนส่งทางบก ซึ่งใช้พื้นที่เป็นจุดจอดต้นทางรถออกและจุดส่งผู้โดยสาร เพื่อลดความแออัดของผู้โดยสารจากสถานีขนส่งผู้โดยสารฯ จตุจักร ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2562 และอำนวยความสะดวกจุดส่งผู้โดยสารเที่ยวกลับ วันที่ 1 – 2 มกราคม 2563

โดยการอำนวยการทางถนนคือการดูแลการจราจรในถนนทุกเส้นทางออกจากกรุงเทพฯโดยกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้มีการนำโดรนขึ้นบินดูสภาพการจราจรและรายงานแบบเรียลไทม์​  หากพบว่ามีถนนเส้นใดมีสภาพการจราจรติดขัดก็ขอให้มีการสั่ง​ การอำนวยการเพิ่มเลน​ และเร่งระบบการจราจรทันที​  มั่นใจว่าจะทำให้การจราจรในเทศกาล​ปีใหม่ปีนี้​ ลดปัญหาจราจรสะสมได้มาก​


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะขอให้พนักงานขับรถและผู้ประจำรถทุกคนขับรถด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและต้อง “ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” นอกจากนี้ ยังมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีระบบ GPS Tracking เป็นเครื่องมือในการควบคุมพฤติกรรมการขับรถของรถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดความสูญเสียจากการใช้ความเร็วเกินกำหนด โดยการแจ้งเตือนผู้ขับรถให้ลดความเร็ว หากพบผู้ขับรถใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงจัดหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วในเส้นทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ เช่น ถนนพระรามสอง ถนนสายเอเชีย คาดว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการดังกล่าวของกรมการขนส่งทางบก สอดรับกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ในเรื่องการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ซึ่งทุกหน่วยงานต้องร่วมมือร่วมใจสานภารกิจให้สำเร็จลุล่วงตามที่ตั้งไว้ 

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกร่วมกับขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ กำชับทุกหน่วยงานปฏิบัติตามแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย เพื่อดูแลประชาชนให้เดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยตลอดเทศกาล โดยให้ความสำคัญ 3 ด้าน คือ ใส่ใจ ตนเอง คือ รักษากฎจราจร, คาดเข็มขัดนิรภัย, ใส่หมวกกันน็อก ใส่ใจ เพื่อนร่วมทาง คือ รักษากฎจราจร, คาดเข็มขัดนิรภัย, ใส่หมวกกันน็อก และใส่ใจ ประชาชน คือ คมนาคมร่วมใจ, ตรวจตราดูแล, คน รถ ถนน ปลอดภัย พร้อมเปิดให้บริการ Call Center ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง และจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ใช้บริการภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารให้เข้าถึงบริการและการดูแลจากเจ้าหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ บุกตรวจโกดังเก็บพลาสติกไฟไหม้สมุทรสาคร

“ทีมสุดซอย” ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ พบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติก มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สั่งหยุดกิจการทันที พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

สนาม อบจ.ภูเก็ต แข่งขันเดือด คนทยอยใช้สิทธิ

ชาวภูเก็ตทยอยเข้าคูหาเลือกตั้ง อบจ. หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการแข่งขันดุเดือด ขณะที่ กกต. ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65